จำนวน สตาร์ทอัพ ที่ขึ้นแท่น ยูนิคอร์น ทะลุหลัก 500 แห่งทั่วโลกในปีนี้ ด้วยมูลค่าตลาดรวมกันประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
ในปี 2556 เมื่อมีการเริ่มนำคำว่า “ยูนิคอร์น” มาใช้นั้น มี สตาร์ทอัพ เอกชนเพียง 40 แห่งในโลก ที่มีมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ อันเข้าข่ายคำว่า “ยูนิคอร์น”
ข้อมูลของ CBInsights ระบุว่าในปีต่อมาคือปี 2557 มีสตาร์ทอัพ 18 แห่งที่มีมูลค่าตลาดขึ้นถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ อีก 2 ปีต่อจากนั้นสตาร์ทอัพอีก 138 แห่งก็ขึ้นแท่นยูนิคอร์น
อ่าน : จีนแซงสหรัฐ ครองแชมป์สตาร์ทอัพยักษ์ใหญ่ของโลก
สถิติระบุว่าจำนวนสตาร์ทอัพที่เติบใหญ่ ทะยานขึ้นมากในปี 2561 ด้วยสตาร์ทอัพที่ติดโผถึง 114 แห่ง เทรนด์นี้ดำเนินไปต่อเนื่องในปีต่อมา คือ 2562 ซึ่งมีสตาร์ทอัพเข้าข่ายยูนิคอร์น 122 ราย อันนับว่ามากเป็นประวัติการณ์
ในปี 2563 มีสตาร์ทอัพที่เข้าข่ายยูนิคอร์น 89 แห่ง ด้วยมูลค่าตลาดรวมกัน 138,700 ล้านดอลลาร์ แม้เศรษฐกิจปีนี้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ก็ตาม
หากดูตามสภาพทางภูมิศาสตร์แล้ว สหรัฐเป็นตลาดหรือประเทศที่มียูนิคอร์นมากที่สุด ด้วยจำนวน 242 แห่ง ตามมาด้วยจีน ที่มีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น 119 แห่งนับถึงเดือนพ.ย.ปีนี้
ประเทศที่มียูนิคอร์นมากเป็นอันดับ 3 คืออังกฤษ ด้วยจำนวน 24 แห่ง ตามด้วยอินเดียที่มีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น 24 แห่ง และเยอรมนีที่มีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น 23 แห่ง
ขณะที่ข้อมูลของสถาบันวิจัยหูรุ่น ระบุว่ากรุงปักกิ่งเป็นเมืองที่มียูนิคอร์นมากที่สุด เพราะในปีนี้สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น 93 แห่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่ง ตามมาด้วยนครซานฟรานซิสโกที่มียูนิคอร์น 68 แห่ง ลำดับรองลงมาคือเซี่ยงไฮ้ ด้วยจำนวนยูนิคอร์น 47 แห่ง นิวยอร์ก 33 แห่ง และเมืองหางโจว 20 แห่ง
จากสถิติยังพบว่า ยูนิคอร์นส่วนใหญ่ในโลก หรือคิดเป็นจำนวน 72 แห่ง เป็นยูนิคอร์นด้านฟินเทค ตามมาด้วยยูนิคอร์นด้านซอฟต์แวร์และบริการ ที่มีจำนวน 65 แห่ง ส่วน 62 แห่งเป็นยูนิคอร์นด้านอีคอมเมิร์ซและขายตรงสู่ผู้บริโภค
รองลงมาคือยูนิคอร์นด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่มีจำนวน 45 แห่ง ยูนิคอร์นด้านมือถือและโทรคมนาคมมีจำนวน 33 แห่ง ยูนิคอร์นในอุตสาหกรรมดูแลสุขภาพมีจำนวน 31 แห่ง
ข้อมูลของ CBInsights ระบุว่าบริษัท ByteDance แห่งจีน เจ้าของแอปชื่อดัง TikTok เป็นยูนิคอร์นรายใหญ่สุดในโลก ด้วยมูลค่าธุรกิจ 140,00 ล้านดอลลาร์นับถึงเดือนก.ย. 2563 เพิ่มขึ้น 86% จากช่วงต้นปี
Didi Chuxing แห่งจีน เป็นยูนิคอร์นรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ด้วยมูลค่าตลาด 62,000 ล้านดอลลาร์ แอปให้บริการเรียกรถแห่งนี้มีผู้ใช้มากกว่า 550 ล้านราย และมีคนขับหลายสิบล้านคน บริการของบริษัทรวมถึงการเรียกแท๊กซี่ การเรียกรถยนต์ส่วนตัว การเรียกรถที่ใช้ร่วมกัน ให้เช่ารถจักรยาน และบริการเกี่ยวกับรถ ไม่ว่าจะเป็นการขาย การจัดไฟแนนซ์ การซ่อมบำรุง การชาร์จรถพลังไฟฟ้า และร่วมพัฒนารถกับผู้ผลิตรายต่างๆ
Space X สตาร์ทอัพด้านอวกาศของอีลอน มัสก์ เป็นยูนิคอร์นใหญ่อันดับ 3 ของโลก ด้วยมูลค่า 46,000 ล้านดอลลาร์ ตามด้วย Stripe แพลตฟอร์มชำระเงินออนไลน์ ที่มีมูลค่า 36,000 ล้านดอลลาร์ และ Airbnb ที่มีมูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์
