“แบงค์ชาติ” เปิด MyPromptQR มาตรฐานการจ่ายเงินใหม่ แก้จุดบอดด้านความปลอดภัย Qr Code Payment เดิม เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนจากลูกค้าแสกน Qr Code ร้านค้า เป็น ร้านค้าสแกน Qr Code ลูกค้า ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากมือถือ และเมื่อหมดเวลาที่กำหนดก็จะสร้าง Qr Code ขึ้นมาใหม่ หมดห่วงเรื่องการโจรกรรมข้อมูล
ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดบริการ MyPromptQR ในงาน Bangkok FinTech Fair 2019 บริการชำระเงินผ่าน Qr code มิติใหม่ โดยมีผู้บริหารจากห้างสรรพสินค้าชั้นนำและสถาบันทางการเงินต่างๆ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคาร CIMB , ธนาคารออมสิน , ธนาคารกสิกรไทย , ธนาคารกรุงศรีอยุธยา , ธนาคารกรุงไทย , ธนาคารไทยพาณิชย์ , ธนาคารธนชาต และ UOB ที่ อาคารศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพ สถาบันการเงิน (รส.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ประเทศไทยใช้มาตรฐาน Thai QR payment มาตั้งแต่ปี 2560 และมีจุดบริการการชำระเงินผ่าน QR Code ถึงกว่า 5 ล้านจุดและปัจจุบันมีการชำระเงินเฉลี่ยอยู่วันละ 1 ล้านบาท และเชื่อว่าจะตอบโจทย์ธุรกิจมากขึ้น ซึ่งบริษัทห้างร้านจะสามารถที่จะชำระเงินและบริหารจัดการงบประมาณทางการเงินได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถที่จะสร้าง QR Code ได้จากโทรศัพท์มือถือของตนเองได้
MyPromptQr นั้นใช้มาตรฐาน ISO 20022 ซึ่งจะสามารถรองรับการจ่ายเงินและรูปแบบการชำระเงินต่างๆได้ในระดับสากล เพื่อความโครงสร้างและพื้นฐานทางการเงินให้กับประเทศไทยได้ในระยะยาว พรุ่งนี้เราหวังว่าสถาบันทางการเงินจะมีการกำกับและรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันผลักดันโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้น
สำหรับ MyPromptQr เป็นมาตรฐานใหม่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการที่จะทำให้สถาบันทางการเงินและห้างสรรพสินค้าต่างๆสร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชนโดยจากเดิมที่ประชาชนต้องสแกน QR Code ของร้านค้าและใส่จำนวนเงิน ให้เปลี่ยนเป็นการที่ร้านค้าสแกน QR Code ที่สร้างขึ้นใหม่จากโทรศัพท์มือถือของลูกค้าและตัว QR Code ดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นใหม่ในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้บริการเพิ่มมากยิ่งขึ้น
นายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักงานระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคาร ระบุว่า โครงการนี้เราจะรู้จักกันในชื่อ B สแกน C นั่นคือ Bussiness scan to Customer ซึงที่ผ่านมาเราจำเป็นที่จะต้องสแกน QR Code ของร้านค้าและใส่ตัวเลขเงินลงไป แต่ระบบ MyPromptQr นี้จะเปลี่ยนเป็นการให้ร้านค้าเข้ามาสแกน QR Code ของลูกค้าโดยตัว QR Code ดังกล่าวนี้จะถูกสร้างขึ้นในโทรศัพท์มือถือของลูกค้าและใช้เพียงครั้งเดียวรวมถึงมีระยะเวลาการใช้งานเพื่อป้องกันในเรื่องของความปลอดภัยทางเทคโนโลยีอีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าสะดวกปลอดภัยและไม่จำเป็นต้องให้เลขบัญชีกับผู้อื่น โดยร้านค้าเองก็มีความสะดวกสบายที่จะนำข้อมูลการจ่ายเงินของลูกค้าไป ำบัญชีทางการเงินได้อีกด้วย
คุณวรลักษณ์ ตุลาภรณ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ระบุว่า เราต้องการที่จะทำให้ห้างสรรพสินค้าของเราเป็นห้างสรรพสินค้าที่ไม่ต้องใช้เงินสด ซึ่ง ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์เองก็มีการรับการจ่ายเงินผ่านระบบ Wallet ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2017 ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์มีการทำแคชเชียร์ที่ไม่ใช้เงินสดและให้ลูกค้าบริการตัวเอง แล้วในปี 2019 ก็จะมีการสร้างบัตร Pre-paid สำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งที่เดอะมอลล์พยายามจะทำคือระบบกระเป๋าเงินแบบเปิดและโอนเงินเข้าไปในบัตรแล้วลูกค้าก็ยังสามารถที่จะใช้เงินในนั้นได้แม้จะกลับประเทศไปแล้ว ซึ่งอะไรที่ทั่วโลกมีเราต้องมี
ดร.ปิยะวรรณ์ ปิยะพงษ์ รองประธานธุรกิจบริการและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ บริษัท บิ๊กซี ซูปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด(มหาชน) ระบุว่า ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี เริ่มใช้บริการ Thai Qr payment มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 พบว่าลูกค้าเป็นผู้หญิงถึงร้อยละ 73 ที่เข้ามาใช้บริการสแกน QR Code และเป็นช่วงอายุ 25 – 45 ปีถึงร้อยละ 83 โดยแบ่งเป็นห้าง Hyper และ Supermarket ถึงร้อยละ 61 ซึ่งอีกร้อยละ 39 เป็นร้านสะดวกซื้อของเราเอง หากมองย้อนกลับไป 3-4 ปี เรื่องสังคมไร้เงินสดอาจเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวสำหรับบริษัท
แต่ปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องหลักงของห้างสรรพสินค้าที่ต้องการจะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนหนึ่งที่เป็นข้อดีของระบบ QR Code นั่นก็คือ ไม่ต้องต่อแถวง และอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดบอดของห้างสรรพสินค้า คือ แคชเชียร์จำเป็นที่จะต้องทอนเงินให้กับลูกค้า ซึ่งเศษสตางค์ก็เป็นจุดบอดหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้น
สิ่งหนึ่งที่บิ๊กซีต้องการนั้นก็คือการขยายไปในส่วนของอีคอมเมิร์ซ ซึ่งหลายคนอาจตั้งข้อสงสัยว่าเมื่อซื้อของออนไลน์ก็โอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้วแต่ความจริงที่บิ๊กซี พบคือ ลูกค้าจะใช้บริการจ่ายเงินปลายทางมากกว่า ซึ่งเราพยายามจะขยาย ในส่วนของ QR payment ไปสู่ลูกค้าในส่วนนี้ด้วย
นางสาวรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค จำกัด ระบุว่า การทำธุรกิจการเงิน ผ่านระบบดิจิทัล สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักถึงคือความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า ดังนั้นนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทนั้นๆ ซึ่งในต่างประเทศ มีการใช้ Self-services shelf เป็นจำนวนมากในห้างสรรพสินค้า
แต่ที่ผ่านมาการใช้ QR payment หากไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดอาจมีคนสับเปลี่ยนตัว Qr Code และทำให้เกิดความเสียหายทางการเงินได้ ดังนั้นโครงการ MyPromptQR จึงเข้ามาแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ ถามว่า Dolfin , Truemoney Wallet , Grab Pay เป็นศัตรูกันหรือไม่ ? ผมบอกเลยว่า เราเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์กัน และศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของเราคือเงินสด
นายยศ กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารต้องการสร้างคือการสร้างมาตรฐานการจ่ายเงินให้กับประเทศไทยเพื่อให้ลูกค้าได้มีความสะดวกสบายในการจ่ายเงินเพิ่มมากยิ่งขึ้นรวมถึงเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงินเพื่อส่งเสริมประเทศไทยให้ไปสู่สังคมไร้เงินสด
