ในช่วงที่การแพร่ระบาดโควิด-19 เข้าสู่ปีที่ 2 และเกิดระบาดระลอกสามในประเทศไทย หรืออาจเกิดขึ้นได้อีกหลายระลอกจนกว่าวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลง หากเป็นแบบนั้น..ในระหว่างนี้ เราควรอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ อีกครั้ง ดังนั้นการสั่งอาหารแบบฟู้ดดิลิเวอรี่ได้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เพราะมีความสะดวกสะบาย สั่งสินค้าหรืออาหารมาถึงหน้าประตูบ้าน
ไม่เพียงเท่านี้ เรายังหลีกเลี่ยงสัมผัสเงินสดได้จากทั้งคนสั่งอาหาร และไรเดอร์ ผู้ขับขี่รถส่งอาหาร ผ่านการใช้โอนเงิน หรือตัดผ่านบัตรเครดิต ซึ่งวิธีนี้ยังสะดวกได้แม้เราไม่ได้เดินทางเพื่อต้องนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าหรืออาหารที่เครื่องอีดีซีอีกต่อไป และสามารถใช้เลขบัตรเครดิตตัดจ่ายผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดิลิเวอรี่ได้ทันที
แต่ข้อควรพึงระวังของการใช้บัตรเครดิตก็ยังมีอยู่เช่นเคย แม้บัตรเครดิตจะมีประโยชน์อยู่มาก ทั้งไร้สัมผัสเงินสด ใช้จ่ายแบบไร้เงินสด ใช้จ่ายสะดวก และยังไม่ต้องควักเงินจากกระเป๋าตัวเองมาจ่ายก่อน รอเงินเดือนออกก่อนค่อยจ่ายก็ยังได้ แต่นั่น..ก็ควรระวัง! เพราะการใช้บัตรเครดิตจ่ายไปก่อน แล้วค่อยนำไปใช้จ่ายคืนทีหลัง ก็เหมือนกับเราเป็นหนี้ ขอยืมเงินมาใช้จ่ายก่อน ซึ่งบางคนก็อาจพูดว่า เป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้ก่อน แล้วค่อยใช้คืน จะทำให้เกิดปัญหาได้
หากเป็นเช่นนี้แล้ว..ยิ่งต้องระวังให้มาก หากเราเผลอใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่คิดน่าคิดหลัง ช้อปซื้อสินค้าจนเพลิน อาจกระทบต่อการใช้หนี้คืนบัตรเครดิตของตนเองได้ ยิ่งเทรนด์การช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซต่าง ๆ ในปัจจุบันทำได้โดยง่าย เพียงแค่คลิกสั่งสินค้า และคลิกเพื่อจ่ายเงิน เป็นอันเรียบร้อย ทำได้ง่ายสะดวก ยิ่งทำให้ใช้จ่ายโดยไม่ทันได้คิดก็เป็นได้
แต่ถ้าใคร..เกิดปัญหาหนี้บัตรเครดิตเข้าแล้ว ทางออกของปัญหาเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเองว่าจะจัดการอย่างไรถึงจะถูกทาง โดยเสนอวิธีที่อาจเป็นแนวทางให้ใครที่กำลังเจอปัญหา ได้เอาชนะได้อย่างง่ายดาย โดย 1. หากกำลังเจอปัญหา ให้หยุดช้อปปิ้ง หรือหยุดใช้บัตรเครดิตในทันที เพราะหากยังใช้อยู่ ก็ไม่มีทางแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตได้อย่างแน่นอน เหมือนยิ่งสุมกองไฟรอลมพัดโหมเพลิงให้ลุกโชน
2.หากเกิดปัญหาหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้ประเภทอื่น ๆ แนวทางที่ทำได้เหมือนกัน คือ ควรวางแผนรายได้ และรายจ่ายใหม่ โดยควรปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตการใช้จ่ายของตนเองก่อน เช่น ควรหยุดจ่ายของใช้ที่ไม่จำเป็น ควรสังเกตว่ารายจ่ายของตนเองมีอะไรบ้าง หากไม่จำเป็น ก็ควรลด ละ เลิก เพื่อให้มีเงินสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้น ในภาวะที่รายได้บางคนอาจถูกลดลง เพราะพิษโควิด-19 ทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในเวลานี้ หรือหาหนทางเพิ่มรายได้ จากการทำงานพิเศษ ก็เป็นแนวทางที่ดีเช่นเดียวกัน
3.ไม่ควรจ่ายหนี้บัตรเครดิตคืนแบบจ่ายขั้นต่ำในทุก ๆ เดือน เพราะจะทำให้เราเสียดอกเบี้ยให้กับผู้ให้บริการแล้ว ยังทำให้หนี้อาจไม่สิ้นสุด หากเรายังใช้บัตรเครดิตอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับงูกินหาง หนี้วนเวียนไม่รู้จบ และจะเกิดความเสียหายได้หากเกิดวิกฤติการเงิน ทำให้เงินในกระเป๋าสะดุด จะทำให้หาหนทางแก้ไขไม่ทัน
4.เมื่อไม่ควรจ่ายหนี้แบบขั้นต่ำ ก็ควรทำอย่างไรก็ได้ให้หนี้หมดไวที่สุด หากได้รับเงินโบนัส หรือเงินก้อนก็ควรมาปิดหนี้บัตรเครดิต แต่เอาเข้าจริง ๆ เราควรจ่ายหนี้คืนบัตรเครดิตแบบเต็มจำนวนในทุกๆ ครั้งที่ใช้จ่ายบัตรเครดิต เพื่อไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้กับผู้ให้บริการ และยังเป็นการใช้บัตรเครดิตแบบชาญฉลาดอีกด้วย เพราะเลือกใช้บัตรเดรดิตแทนเงินสด เพื่อความสะดวกเท่านั้น อย่าให้เกิดเหตุการณ์ ดินพอกหางหมู ถมหนี้เพิ่มอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้
5.เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว..เงินไม่มีจ่ายคืนจะทำอย่างไร? หนทางที่ดีที่สุด รีบติดต่อเจ้าหนี้ที่เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตให้เร็วที่สุด และรีบแจ้งว่าตนเองเดือดร้อนอย่างไร เช่น รายได้ลด ตกงาน ทำให้ต้องเจอปัญหาในการจ่ายหนี้คืน โดยการแจ้งแต่เนิ่น ๆ ทำให้เจ้าหนี้บัตรเครดิตร่วมแก้ไขกับลูกหนี้ เพื่อสกัดปัญหาได้ทัน เช่น ลดค่างวดที่ผ่อนไหว ยืดระยะเวลาจ่าย พักหนี้ชั่วคราว ซึ่งจะเป็นการประนีประนอมลดการฟ้องศาล
ดังนั้นแนวทางที่ดีที่สุดคือ คิดก่อนใช้จ่ายทุกครั้งเสมอ แต่เมื่อใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตไปแล้ว ก็ควรมีวินัยทางการเงิน มีหนี้ควรใช้คืน มีปัญหาควรแก้ไข หากถึงทางตันก็ลองปรึกษาเจ้าหนี้ดูก่อน เผื่อจะเจอทางลัดไปสู่ประตูทางออก และปลดหนี้ได้ในที่สุด!
อ่าน : ธ.ไทยเครดิตฯ เตือนประชาชน มิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ ปล่อยกู้นอกระบบ
