“รีซัลทิคส์” แนะผู้ประกอบการไทย มุ่งการตลาดแบบ “ออมนิแชลแนล”

รีซัลทิคส์ (Resulticks) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการตลาดจากประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยงานวิจัย ระบุ 88% ของแบรนด์ไทยเริ่มเชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้า จากช่องทางต่างๆ เข้าด้วยกัน และนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการทำตลาด ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงการมุ่งสู่แนวทางการตลาดแบบออมนิแชนเนล

โดยทิศทางการทำตลาดของผู้ประกอบการในไทยเริ่มเปลี่ยนไป 88% ของแบรนด์ไทยเริ่มหันมาสร้างฐานข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของลูกค้า เพื่อมุ่งสู่การทำตลาดแบบออมมิแชลเนล ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เมื่อเทียบกับเวียดนามที่ 87% สิงคโปร์ที่ 72% และฟิลิปปินส์ที่ 70%

รีดิคกา สุบรามมาเนียน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รีซัลทิคส์ กล่าวว่า “ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยจึงเป็น 1 ในตลาดสำคัญในการขยายธุรกิจของรีซัลทิคส์ เราต้องการเป็นหุ้นส่วนสำคัญในแผนการเติบโตของบริษัทต่างๆ ในไทยที่มีความก้าวหน้าและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ”

ข้อมูลจากรีซัลทิคส์ ระบุว่า 41% ของแบรนด์ไทยเริ่มให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล ขณะที่ 38% คิดว่าการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก ที่ได้จากการวิเคราะห์เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องกระทำ ขณะที่ 36% ระบุว่า ตลาดไทยปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องข้อจำกัดทางเทคโนโลยี ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข

วิวัฒน์ มาสุจันท์ ผู้จัดการฝ่ายขายรีซัลทิคส์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้บริโภคในไทยคุ้นเคยกับข้อความการตลาดที่ส่งมาจากแบรนด์ต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้บริโภคเหล่านี้มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์หรือบริการต่างๆ ผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ จึงเป็นเหตุผลที่อธิบายว่า เหตุใดแบรนด์ในไทยมากถึง 71% ถึงให้ความสำคัญอย่างมากกับการตลาดแบบเรียลไทม์ในปีนี้

รายงานผลการวิจัยเรื่อง The Omnichannel Imperative เป็นการสำรวจทางออนไลน์เกี่ยวกับระดับความพร้อมด้านการตลาดออมนิแชนเนลของภาคธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 จากกลุ่มตัวอย่าง 345 บริษัทใน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม