ผ่านพ้นไปแล้วกับศึกแห่งศักดิ์ศรีช่วงชิงการเป็นแลนด์มาร์คของไทยให้โลกรู้ผ่านการจัดอีเวนต์ใหญ่อย่าง “เคาท์ดาวน์ 2020” ระหว่างสองยักษ์ใหญ่ CentralWorld และ Iconsiam ซึ่งต่างพร้อมใจกันเทงบก้อนโต ไม่ใช่เพื่อหวังดึงทราฟฟิกและกำลังซื้อส่งท้ายปีเท่านั้น แต่อย่างที่บอกว่าเดิมพันด้วยศักดิ์ศรี เพราะต่างฝ่ายต่างเคลมว่าบิ๊กอีเว้นต์นี้จะตอกย้ำการแลนด์มาร์คเคาท์ดาวน์ระดับประเทศที่สร้างชื่อไทยแลนด์ให้กระหึ่มไปทั่วโลก!
งานนี้ไม่มีใครยอมใคร จึงทำให้อีเว้นต์ “เคาท์ดาวน์ 2020” ของทั้งสองค่าย กลายเป็นที่จับตามองมตั้งแต่ปลายปี เรียกว่า ถ้าเปรียบเทียบศึกครั้งนี้เป็นคู่มวย ต้องบอกว่าเป็นคู่เอกของรายการที่แฟนมวยไม่อาจกระพริบตา เพราะจัดใหญ่ จัดเต็มไม่แพ้กัน
ฝ่ายหนึ่ง คือ เซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตำรับงานเคาท์ดาวน์ มีประสบการณ์จัดต่อเนื่องอย่างยิ่งใหญ่มานานถึง 20 ปี จนครองใจใครหลายคนที่คืนข้ามปีไม่อยากเก็บตัวอยู่ในบ้าน ขอออกมามันส์ข้ามปี รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พลาดไม่ได้กับการมาเช็คอินบิ๊กอีเว้นต์ที่เอ่ยชื่อไปคนทั่วโลกก็รู้จัก
ขณะที่ไอคอนสยาม ถึงจะเป็นศูนย์การค้าน้องใหม่ที่เพิ่งฉลองครบรอบ 1 ปีไปหมาดๆ แต่เพราะมีแบ็กอัพอย่างสยามพิวรรธน์, เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดิเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์) มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 51:24.5:24.5 ตามลำดับ เลยกล้าประกาศตัวเพื่อท้าชิงตำแหน่งแชมป์แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์แห่งใหม่ของไทยอย่างไม่สะทกสะท้าน เรียกน้ำย่อยจัดงานเคาท์ดาวน์สร้างสีสันให้โค้งน้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่เปิดตัวปีแรก ต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ที่เพิ่มเติม คือ อลังการมากขึ้น
เพื่อให้เห็นกันไปเลยว่า ศึกครั้งนี้ ใครกำชัย Business Today ขอพาทุกคนไปเปรียบเทียบกันแบบหมัดต่อหมัดว่า อีเว้นต์แห่งปีครั้งนี้ ใครโชว์เหนือได้มากกว่ากัน
ความอลังการทุ่มทุนสร้าง
อย่างที่เกริ่นตั้งแต่ว่า ศึกครั้งนี้ เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีของทั้งแชมป์เก่าอย่าง เซ็นทรัลเวิลด์และผู้ท้าชิงที่ไม่ได้มาเล่นๆ อย่าง ไอคอนสยาม ดังนั้น ทั้งสองค่ายจึงอัดงบไม่ยั้ง แตะหลักร้อยล้านอัพแน่นอนเพื่อเนรมิตงานให้อลังการงานสร้าง จะเห็นว่า แม้ทั้งสองฝั่งได้ร่วมมือกับโต้โผสำคัญ คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แต่ก็มีพาร์ตเนอร์เบอร์ใหญ่อีกมากมายมาเสริมทัพ
สำหรับฝั่งเซ็นทรัลเวิลด์ บอกเลย ดูทำเนียบพันธมิตรแล้วแช็งแรงยิ่งกว่าคอนกรีตเสริมเหล็ก ไม่ว่าจะเป็น เอไอเอส ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล, สิงห์คอร์เปอเรชั่น, หาดทิพย์, สวอทช์ กรุ๊ป, ฮอนด้า ออโตโมบิล, สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจย่านราชประสงค์ ส่วนไอคอนสยาม อาจจะด้วยความที่เป็นคนมาทีหลัง พาร์ตเนอร์อาจไม่เบอร์ใหญ่ไฟกระพริบเท่า แต่ก็เรียกว่าสมน้ำสมเนื้อ อาทิ ทรู คอร์ปอเรชั่น, K BANK, สมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา และ กรมเจ้าท่า
เรียกว่าเป็นการเฉือนคมระหว่าง สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการศูนย์การค้าไม่พอ ยังเป็นการประกาศศักดาของสองค่ายมือถือเบอร์หนึ่ง เอไอเอส และ เบอร์สอง “ทรูมูฟเอช” ซึ่งถือว่าอีกมวยถูกคู่ ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนที่จะไปชิงกันในศึกประมูล 5G
ไฮไลท์ที่จะสร้างทอล์กออฟเดอะทาวน์
ในส่วนของไฮไลท์การจัดงาน ซึ่งถือเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดคนมาร่วมงาน แม้จะมุ่งมอบความบันเทิงแบบไร้ขีดจำกัดเหมือนกัน แต่ถ้ามองให้ลึกจะเห็นว่า มาสองแนวให้ได้เลือกตามความชอบอย่างชัดเจน
เริ่มจากงาน”Thailand & AIS Bangkok Countdown 2020″ จากฝั่งเซ็นทรัลเวิลด์ ตอกย้ำความเป็น ‘Global & Thailand’s Best Entertainment Countdown’ เลือกชูความสนุก ตอบโจทย์คนเมืองแบบขั้นสุด
สมกับที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 250,000 คน ด้วยการชวนทุกคนมาปลดปล่อยความมันส์ฉลองข้ามปี แบบฟรีตลอดคืนกับศิลปินเบอร์ใหญ่ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น เป๊ก ผลิตโชค ก่อนจะกลายเป็นดราม่า #เคาท์ดาวน์มหาสนุก ในเวลาต่อมา , เดอะทอยส์, สล็อตแมชชีน, โจอี้บอย, ไทยเทเนียม x ทูพี x ดีเจบุดด้า, ปาล์มมี่, เกทสึโนวา,SBFIVE เพิ่มความอลังการไปกับ ครั้งแรกของประสบการณ์ทางดนตรีที่แปลกใหม่ กับเทคนิคการออกแบบภาพบนเวที และแสง สี เสียง กราฟฟิก เสมือนจริงผ่านจอ the panOramix จอดิจิทัลอินเตอร์แอคทีฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาด 3,790 ตารางเมตร ปิดท้ายด้วยการยิงพลุ 4,000 นัด จัดเต็มกว่า 4 นาที
#เคาท์ดาวน์มหาสนุกยังไม่จาง CTW ขอโทษอีกรอบ
ขณะที่ไอคอนสยาม ซึ่งเกทับว่า จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมาได้ถึง 3 แสนคน งัดความบันเทิงมาสู้แบบไม่ยั้ง จัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2020” โดยไม่ทิ้งคอนเซ็ปท์ความผูกพันกับสายน้ำเจ้าพระยา เริ่มจากไฮไลท์ที่รับรองว่า ไม่เป็นสองรองใคร ด้วยการจัดแสดงพลุมากกว่า 20,000 fvdเหนือสายน้ำในบริเวณที่สวยที่สุดในคุ้งน้ำเจ้าพระยา ซึ่งความพิเศษของพลุนี้ นอกจากจะมีขนาดรัศมีดอกใหญ่ที่สุดและระยะทางยาวที่สุดในประเทศไทยถึง 1,400 เมตร สามารถเนรมิตท้องฟ้ายามค่ำคืนให้สวยงามสว่างไสวและครอบคลุมรัศมีการรับชมกว่า 2 กิโลเมตรโดยรอบ ยังตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลกเพราะเป็นพลุที่ทำจากข้าวเหนียวไทยนวัตกรรมรักษ์โลกจากญี่ปุ่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการแสดงพลุชุดนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘มหัศจรรย์พร 7 ประการ’ ประกอบด้วยพลุ 7 องก์ ซึ่งล้วนมีความหมายมหามงคล ได้แก่ เกริกเกียรติ ยั่งยืน เรืองรุ่ง เกษมศานต์ ขุมทรัพย์ สิริมงคล และพลานุภาพ เอาฤกษ์เอาชัยรับพลังแห่งความเป็นสิริมงคลในการก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่อย่างพร้อมพรั่ง
เท่านั้นยังไม่พอ ขณะที่ย่านราชประสงค์ประกาศกร้าวว่าเป็นครั้งแรกของการเปิดประสบการณ์ใหม่ด้านดนตรี คุ้งน้ำเจ้าพระยาก็ต้องสะเทือน เพราะเป็นครั้งแรกในเมืองไทยเช่นกันที่ไอคอนสยามยกสุดยอด Interactive Mapping Screen ใหญ่ที่สุดกว่า 4,000 ตารางเมตร ใช้เทคนิคการยิงภาพความคมชัดสูงไปยังอาคารฝั่งตรงข้าม ให้เกิดแสงสียิ่งใหญ่ โดดเด่นตระการตาในคุ้งน้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้รับประสบการณ์ความสุขสนุกสนานอย่างเต็มอิ่ม พร้อมชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำมากมาย อาทิ ณเดชน์, โต้ง Twopee Southside, 4 หนุ่ม TRINITY, ตู่ ภพธร, นนท์ ธนนท์, วงเพื่อนซี้ พลังเสียงคุณภาพ B5, ตี๋ AF, ต้น AF, จินตหรา พูนลาภ ฟีเจอริ่งกับ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ และเบน ชลาทิศ, บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ Miss International 2019 และ ฟ้าใส ปวีณสุดา Miss Universe Thailand 2019
เล่นใหญ่ไฟกระพริบทั้งคู่แบบนี้ ก็ขึ้นอยู่กับกรรมการ ซึ่งก็คือ เหล่านักท่องเที่ยวแล้วว่าจะเทใจให้งานไหน เพราะต่างสไตล์แต่บันเทิงเริงใจเหมือนกัน งานนี้บอกเลยถ้าประเมินจากสายตา หรือ ภาพที่ปรากฏทางโซเชียลก็ต้องบอกว่า ทั้งสองงานประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน เพราะ คลื่นมหาชนแน่นขนัดทั้งสองที่ #ในทวิตเตอร์ก็ติดเทรนด์กันรัวๆ
วัดเรตติ้งผู้ชม ใครชิงเวลาได้มากกว่ากัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สมกับยุคที่ว่ากันว่า Data มีค่ายิ่งกว่าน้ำมัน ถ้ามาลองวัดกันด้วย Data อย่าง เรตติ้งของผู้ชมที่เกาะจอรอดูอีเว้นต์เคาท์ดาวน์ของทั้งสองค่ายที่มีการถ่ายทอดสด ยังถือว่า แชมป์เก่าทำผลงานได้ดีกว่าพอสมควร
จากผลการสำรวจของนีลเส็น พบว่า ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา งาน “Thailand & AIS Bangkok Countdown 2020” @ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถ่ายทอดทางช่อง 3 HD ได้เรตติ้งไป 1.637 ขณะที่“Amazing Thailand Countdown 2020” @ ไอคอนสยาม ถ่ายทอดทางช่อง true 4U ได้เรตติ้งไปเพียง 0.067 ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเรตติ้งถ่ายทอดสดเคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2562 พบว่างาน Thailand & AIS Bangkok Countdown 2020″ @ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถ่ายทอดทางช่อง 3 HD ได้เรตติ้งไป 1.030 ส่วนงาน “Amazing Thailand Countdown 2020” @ ไอคอนสยาม ถ่ายทอดทางช่อง pptv ได้เรตติ้งไป 0.163
งานนี้ อาจเป็นเพราะช่องทางที่เลือกถ่ายทอดสดยัง Mass ต่างกัน แต่ที่สำคัญในเมื่อข้อมูลฟ้องแบบนี้ คงต้องรอดูต่อไปว่า ปีหน้าทั้งสองค่ายจะมีกลยุทธ์มาแก้ตัวอย่างไร โดยเฉพาะฝั่งไอคอนสยาม ที่เรตติ้งยังหลุดท็อปไฟว์ ขณะที่งานเคาท์ดาวน์เซ็นทรัลเวิล์ดรักษาตำแหน่งเบอร์ 2 มาต่อเนื่อง
เปิดศักราชใหม่ ใครๆต้องรู้จัก “ไทยแลนด์”
ในยุคที่โลกไร้พรมแดน และเป้าหมายของทั้งสองยักษ์ใหญ่ก็หมายตาไปถึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก อีกหนึ่งหมัดฮุกที่ทั้งสองค่ายต้องไปให้ถึง คือ ความสนใจจากสื่อนอก
ในฐานะเจ้าของตำแหน่งเคาท์ดาวน์แลนด์มาร์กอย่างเซ็นทรัลเวิลด์ เลือกชิงประกาศก้องว่า ขนาด CNN สื่อยักษ์ใหญ่เลือกให้กรุงเทพฯ เป็น 1 ใน 10 Destination ฉลองเคาท์ดาวน์ระดับโลก 3 ปีซ้อน และยกให้เซ็นทรัลเวิลด์เป็น ‘ไทม์สแควร์ของเอเชีย’ หนึ่งในแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวไทย
ส่วนน้องใหม่อย่าง ไอคอนสยาม ก็ไม่น้อยหน้า ถือว่าทำช่วงชิงพื้นที่สื่อนอกมาได้อย่างน่าชื่นชม เพราะสำนักข่าวต่างประเทศทั่วโลก ทั้ง CNN, BBC, ABC, NBC, VOA (Voice of America), FoxNews, Phoenix TV เป็นต้น ซึ่งต่างรวมภาพงาน countdown ระดับโลก โดยคัดเลือกไฮไลต์จากมหานครใหญ่ทั่วโลกมารายงาน งานเดียวในไทยที่ได้คัดเลือกให้เป็น Global Countdown Destination อยู่ในไฮไลต์ระดับโลกจะเป็น Amazing Thailand Countdown 2020 at ICONSIAM ได้รับการคัดเลือก
เอาเป็นว่า ศึกนี้ ไม่ว่าใครจะได้ที่หนึ่งก็ไม่สำคัญ เพราะ สุดท้ายแล้วในฐานะคนไทยทุกคนก็คงเบิกบาน เพราะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย นอกจากที่ทั่วโลกจะรู้จักว่า อาหารอร่อย ผู้คนเป็นมิตร แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม วัฒนธรรมน่าค้นหา ประเทศไทยยังยืนหนึ่งเป็นจุดหมายในการก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่อีกด้วย
