บริษัทญี่ปุ่นจ่อซื้อผู้ผลิตอาหารเสริม”แบลคมอร์ส”
บริษัทคิริน โฮลดิงส์ (Kirin Holdings) ของญี่ปุ่น ประกาศจะซื้อบริษัทแบลคมอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสัญชาติออสเตรเลีย ในราคา 1,880 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจด้านสุขภาพของคิริน ซึ่งกำลังดำเนินการหลายอย่างเพื่อผลักดันธุรกิจนี้และตั้งเป้ายอดขายกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย 
คิรินระบุว่าแบลคมอร์สจะกลายเป็นบริษัทในเครือ ภายใต้ข้อตกลงที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นเดือนส.ค. สาเหตุหนึ่งที่ตัดสินใจซื้อแบลคมอร์สก็เพื่อเข้าถึงช่องทางการขายของแบลคมอร์สในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ทั้งนี้ แบลคมอร์สมียอดขายราว 650 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในปีงบการเงิน 2565
สิงคโปร์ขึ้นภาษีต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยเท่าตัว สกัดความร้อนแรง
สิงคโปร์ประกาศขึ้นภาษีการซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงร้อนแรง จนก่อให้เกิดความวิตกว่าราคาอาจทะยานเกินปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลระบุว่าผู้ซื้อที่อยู่อาศัยทั้งคนท้องถิ่นและต่างชาติ จะต้องจ่ายอากรเพิ่มเติมมากขึ้นเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. อากรแสตมป์ที่มีการจัดเก็บเพิ่มขึ้นมากสุดคือคืออากรแสตมป์สำหรับผู้ซื้อต่างชาติ ที่จะเพิ่มจาก 30% เป็น 60%
ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ที่สิงคโปร์ออกมาตรการชะลอความร้อนแรงของอสังหาริมทรัพย์ หลังจากราคาที่อยู่อาศัยพุ่งขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ได้แรงหนุนจากอุปสงค์ของคนท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่นักวิเคราะห์แห่งซิตีกรุ๊ปชี้ว่าการซื้อที่อยู่อาศัยของต่างชาติมีสัดส่วนประมาณ 5-7% เท่านั้นในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา
เอเอ็นเอ–อเมริกัน แอร์ไลนส์ ฟื้นจากพิษโควิด
บริษัทเอเอ็นเอ โฮลดิงส์ เจ้าของออล นิปปอน แอร์เวย์ สายการบินรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น รายงานรายได้จากการดำเนินงานสำหรับปีที่สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2566 อยู่ที่ 120,000 ล้านเยน หรือประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรประจำปีครั้งแรกตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 ผลจากการเดินทางท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยความต้องการเดินทางจากอเมริกาเหนือ กลุ่มประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก และเอเชีย กระเตื้องขึ้นตั้งแต่ญี่ปุ่นเริ่มผ่อนคลายมาตรการโควิด แต่ความต้องการเดินทางจากยุโรปและจีน ยังฟื้นตัวไม่มากนัก
ด้านอเมริกัน แอร์ไลนส์ สายการบินรายใหญ่แห่งสหรัฐ รายงานกำไร 10 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 340 ล้านบาทช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากเร่งเพิ่มเที่ยวบินและมีรายได้มากขึ้น
“ดอยซ์แบงก์”ทำกำไร 11 ไตรมาส หลังปรับโครงสร้างใหญ่
ดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี รายงานกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปีนี้ อยู่ที่ 1,158 ล้านยูโร นับเป็นการทำกำไรติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 11 หลังจากประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรเป็นวงกว้างตั้งแต่ปี 2562 เพื่อปรับลดต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำกำไร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดอยซ์แบงก์ ระบุว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งสะท้อนให้เห็นความสำเร็จของกลยุทธ์ และแสดงให้เห็นว่าดอยซ์แบงก์กำลังก้าวสู่การบรรลุเป้าหมาย หรือไปไกลกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2568
อย่างไรก็ดี ดอยซ์แบงก์รายงานยอดเงินฝากไตรมาสแรกลดลง 5% ผลจากการแข่งขันที่มากขึ้น และความผันผวนในตลาด
ทำเนียบขาวจับตา “เฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์”
โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า กำลังติดตามสถานการณ์ของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าลูกค้าแห่ถอนเงินอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้คำมั่นว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมใช้มาตรการเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ หากเห็นว่าจำเป็น
โฆษกทำเนียบขาวชี้ว่า ขณะนี้ยอดเงินฝากของธนาคารระดับภูมิภาคหลายแห่งเริ่มมีเสถียรภาพ ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินและรัฐมนตรีคลัง มีความเห็นตรงกันว่า ระบบธนาคารของสหรัฐยังแข็งแกร่ง
สำหรับราคาหุ้นธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิกนั้น ล่าสุดเริ่มฟื้นตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) หลังจากทรุดตัวหนักก่อนหน้านั้น
