“คาเธ่ย์” แจกตั๋วฟรี เริ่มที่ไทย 1 มี.ค.
สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิกแห่งฮ่องกง ประกาศจะแจกตั๋วเครื่องบินไป-กลับ จำนวน 80,000 ที่นั่งให้แก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ตามแผนการของฮ่องกงที่จะกระตุ้นให้นักเดินทางทั่วโลก เดินทางเข้าไปยังฮ่องกงหลังจากมีมาตการคุมเข้มโควิดมากว่า 3 ปี
แคมเปญนี้มีชื่อว่า “เวิลด์ ออฟ วินเนอร์” จะเปิดตัวในประเทศไทยวันที่ 1 มีนาคม ตามด้วยสิงคโปร์ในวันที่ 2 มีนาคม และฟิลิปปินส์ในวันที่ 3 มีนาคม
จากนั้นในอีก 2 สัปดาห์ถัดไปจะเปิดตัวแคมเปญนี้ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา
ผู้ที่มีคุณสมบัติได้รับตั๋วเครื่องบินฟรี จะต้องเป็นสมาชิกของสายการบินคาเธ่ย์ ด้วยการเข้าไปลงทะเบียนฟรีได้ในเว็บไซต์ของทางสายการบิน โดยผู้เข้าร่วมจะสามารถลงได้หนึ่งชื่อเท่านั้น พร้อมตอบคำถาม 3 ข้อ จากนั้นจะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะทางเว็บไซต์ของสายการบิน โดยประเทศไทยจะประกาศผลผู้โชคดีในวันที่ 17 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น
เมื่อปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปยังฮ่องกงเพียง 600,000 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนแค่ 1% ของตัวเลขในปี 2562 มาในปีนี้ผู้นำฮ่องกงประกาศว่าพร้อมต้อนรับคนจากทั่วโลกอีกครั้ง
ประธานบ.จีนที่หายตัว กำลังให้ความร่วมมือทางการ
บริษัทไชน่า เรเนซองส์ โฮลดิ้งส์ ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ว่านายเปา ฝาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่หายตัวไปอย่างปริศนาเป็นเวลาสิบวันนั้น แท้จริงแล้วอยู่ระหว่างให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดีกับทางการจีน โดยคณะกรรมการบริษัทเพิ่งมาทราบเรื่องนี้ในภายหลัง พร้อมย้ำว่าธุรกิจและการดำเนินงานของบริษัท ยังดำเนินไปอย่างปกติ
ก่อนหน้านี้มีข่าวระแคะระคายออกมาว่า ทางการนำตัวนายเปาไป เพื่อให้ช่วยเหลือในการสอบสวนคดีของอดีตเพื่อนร่วมงานรายหนึ่ง
การหายตัวไปของนายเปา เกิดขึ้นท่ามกลางการที่รัฐบาลกวดขันบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ โดยเมื่อช่วงปลายปี 2563 นายแจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา หายตัวไปจากสื่อนาน 3 เดือน หลังจากวิจารณ์หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบตลาดจีน
นอกจากนี้ การหายตัวไปของนายเปายังมีขึ้นหลังจากผู้บริหารระดับสูงหลายรายหายตัวไป ท่ามกลางการเร่งกวาดล้างการทุจริตของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
นายเปาก่อตั้งบริษัทไชน่า เรเนซองส์ในปี 2548 จนกลายมาเป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน โดยเคยเป็นที่ปรึกษาด้านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรกให้กับเจดีดอทคอม
“โนเกีย”เปลี่ยนโลโก้ครั้งแรกรอบ 60 ปี
โนเกียประกาศแผนเปลี่ยนโลโก้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 60 ปี ขณะผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายนี้เน้นการเติบโตเชิงรุก
โลโก้ใหม่ประกอบด้วยตัวอักษรรูปร่างแตกต่างออกไป อันประกอบเป็นคำว่า “NOKIA” และมีโทนสีที่หลากหลายมากกว่าเดิมที่เป็นสีน้ำเงิน
เพคก้า ลุนมาร์ก ซีอีโอยซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2563 อธิบายว่าปัจจุบันโนเกียเป็นบริษัทเทคโนโลยีธุรกิจ โดยเขาได้วางกลยุทธ์ไว้ 3 ขั้นตอนและขั้นตอนแรกคือ “รีเซต” ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ขณะนี้กำลังเริ่มต้นเข้าสู่ขั้นตอนที่สอง
แม้โนเกียยังมุ่งผลักดันในส่วนของธุรกิจให้บริการ ด้วยการขายอุปกรณ์ให้แก่บริษัทโทรคมนาคม แต่จุดหลักยังเน้นขายอุปกรณ์ให้ธุรกิจอื่นๆ
ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เข้าเป็นหุ้นส่วนกับผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมอย่างโนเกีย เพื่อขายเครือข่าย 5G และอุปกรณ์สำหรับโรงงานอัตโนมัติ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต
ลุนด์มาร์กระบุว่า สัญญานชัดเจนมากว่าโนเกียต้องการไปอยู่ในธุรกิจที่สามารถเป็นผู้นำได้
หญิงสิงคโปร์มีลูกน้อยเป็นประวัติการณ์
อัตราเจริญพันธุ์ของสิงคโปร์ลดลง โดยสตรี 1 คนให้กำเนิดเด็ก 1.05 คนในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตามข้อมูลของกรมสถิติสิงคโปร์ที่ย้อนหลังไปกว่า 60 ปี
อัตราเจริญพันธุ์หมายถึง จำนวนบุตรเกิดและรอดชีวิตโดยเฉลี่ย ต่อสตรีในวัยเจริญพันธุ์ 1 คน ซึ่งมีอายุ 15 – 49 ปี
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อัตราการให้กำเนิดบุตรของสตรีในสิงคโปร์ที่ลดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปี 2565 เป็นปีเสือในปฏิทินจันทรคติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีอัตราการเกิดของเด็กลดต่ำลง ตามความเชื่อในหมู่ชาวจีนที่ไม่ต้องการมีบุตรในปีเสือ
ก่อนหน้านี้ในปี 2553 ซึ่งเป็นปีเสือเช่นกัน อัตราเจริญพันธุ์อยู่ที่ 1.15 หรือสตรีหนึ่งคนให้กำเนิดบุตร 1.15 คน ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนหน้านั้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราเจริญพันธุ์ของสิงคโปร์ ลดลงมาเป็นเวลาหลายปี อันเป็นสถานการณ์คล้ายคลึงกับสังคมพัฒนาแล้วประเทศอื่น
ปัจจุบัน เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีอัตราเจริญพันธุ์ต่ำสุดในโลก เฉลี่ยแล้วผู้หญิงเกาหลีใต้หนึ่งคนจะมีลูก 0.78 คน
กูเกิลปลดหุ่นยนต์ทำความสะอาด 100 ตัว
อัลฟาเบต ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปลดคนงาน 12,000 คนไปเมื่อเร็วๆ นี้ และแม้แต่หุ่นยนต์ 100 ตัวซึ่งมีหน้าที่ทำความสะอาดโรงอาหารที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท ก็เผชิญชะตากรรมเดียวกัน
รายงานข่าวระบุว่า ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอกูเกิล ได้ปิดโครงการ ‘Everyday Robots’
ซึ่งผลงานของแผนกนี้ ส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาและฝึกอบรมหุ่นยนต์แขนเดียวจำนวน 100 ตัว ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยทำความสะอาดโรงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเช็ดโต๊ะ แยกขยะ หรือนำขยะไปรีไซเคิล
นอกจากนั้น หุ่นยนต์เหล่านี้ยังช่วยทำความสะอาดห้องประชุมต่างๆ ในช่วงโควิดระบาดด้วย
ล่าสุดหุ่นยนต์ต้นแบบหลายตัวในโครงการนี้ ถูกลำเลียงออกไปทำหน้าที่อื่นที่สำนักงานของกูเกิล หลังจากมีการปิดแผนกหุ่นยนต์และอาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปให้กับแผนกอื่น
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อัลฟาเบตได้พัฒนาการรวมระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับการเรียนรู้ รวมถึงพัฒนาเกี่ยวกับการถ่ายโอนความรู้จากโลกเสมือนไปยังโลกแห่งความจริง การเคลื่อนไหวเหล่านี้เปิดทางไปสู่การพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถทำกิจกรรมพื้นๆ ธรรมดาๆ ได้
