อินเดียแห่เที่ยวเอเชียอาคเนย์ จ่อเบียดจีนตกแชมป์
นักท่องเที่ยวชาวอินเดียกำลังหลั่งไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนให้เห็นว่าอินเดียซึ่งมีประชากรมากที่สุดในโลก เป็นตลาดสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หลังจากจีนกลับมาประเทศอีกครั้งเมื่อต้นปีนี้และฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้
นักวิเคราะห์ระบุว่า บริษัทต่างๆ ตั้งแต่สายการบินอินดิโก การบินไทย ไปจนถึงเครือโรงแรมที่ให้บริการห้องพักหลายพันห้อง กำลังเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชนชั้นกลางของอินเดียที่กำลังเติบโตและมีกำลังในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หากนักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มขึ้นในระยะยาวจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนปริมาณที่นั่งของสายการบิน การนำเสนอบริการของโรงแรมและบริษัททัวร์ต่างๆ ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีสัญญานของการปรับเปลี่ยนบ้างแล้ว
ทั้งนี้ นับเป็นเวลากว่า 10 ปีที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับแรงขับเคลื่อนจากจีน แต่ข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวไม่มากนัก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 2562 อย่างน้อย 60% ขณะที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียระบุว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า อินเดียอาจเข้ามาแทนที่จีนในแง่ของ”การเติบโตของการท่องเที่ยวต่างประเทศ”
เศรษฐกิจจีนไตรมาส 2 ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัว 6.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งเป็นฐานตัวเลขที่ต่ำ และเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% จากไตรมาสแรก ทั้งยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 7.3%
เศรษฐกิจจีนดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อไตรมาสแรก หลังจากยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิด แต่หลังจากนั้นแรงส่งเริ่มเบาลง และตัวเลขล่าสุดสะท้อนว่าการฟื้นตัวกำลังสูญเสียแรงส่ง เห็นได้จากยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 3.1% ซึ่งน้อยที่สุดตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 4.4% และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 3.8%
ขณะที่อัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวซึ่งมีอายุ 16-24 ปี อยู่ที่ระดับ 21.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สิงคโปร์ท็อปสุดในเอเชียอาคเนย์ ดึงดูดเงินลงทุนด้านไฮเทค
Tracxn แพลตฟอร์มด้านข้อมูล เปิดเผยรายงานที่ระบุว่าสิงคโปร์ดึงดูดเงินลงทุนด้านไฮเทคทั้งสิ้น 685 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ทำให้ยอดรวมการลงทุนด้านไฮเทคในช่วงครึ่งปีแรก อยู่ที่ 1,200 ล้านดอลลาร์ และทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่สามารถดึงดูดเงินลงทุนด้านไฮเทคได้มากที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ทั้งในแง่รายไตรมาสแรกและรอบครึ่งปี
แนวโน้มในสิงคโปร์สวนทางกับภูมิภาค เพราะเงินลงทุนโดยรวมที่เข้าสู่สตาร์ทอัพในเอเชียอาคเนย์ ลดลง 71% เหลือ 2,300 ล้านดอลลาร์ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จาก 8,000 ล้านดอลลาร์เมื่อช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว ขณะที่การเข้าถือครองกิจการมีจำนวน 29 ข้อตกลง ซึ่งนับว่าลดลง 58% จาก 69 ข้อตกลงเมื่อปีที่แล้ว
ทวิตเตอร์กระแสเงินสดติดลบ เหตุรายได้โฆษณาลด 50%
อีลอน มัสก์ ประธานกรรมการบริษัททวิตเตอร์ เปิดเผยว่าทวิตเตอร์ยังมีกระแสเงินสดติดลบ เพราะรายได้โฆษณาลดลง 50% ประกอบกับมีหนี้สินก้อนโต ท่าทีล่าสุดของมัสก์แตกต่างจากเมื่อเดือนเม.ย. ที่ระบุว่าทวิตเตอร์กำลังเท่าทุนและผู้ลงโฆณาส่วนใหญ่ได้กลับมาลงโฆษณาแล้ว
รายได้จากโฆษณาเป็นประเด็นอันเป็นที่ถกเถียง และเป็นงานหนักสำหรับทวิตเตอร์ หลังจากผู้ลงโฆษณาพากันถอนตัวเมื่อมัสก์เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เพราะวิตกกรณีที่มีการปลดพนักงานครั้งใหญ่ และดำเนินการเปลี่ยนแปลงนโยบายของทวิตเตอร์ เช่น กู้คืนบัญชีทวิตเตอร์ที่เคยถูกแบน และเปลี่ยนแปลงกระบวนการด้านการตรวจสอบคอนเทนต์ ทั้งยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของทวิตเตอร์
เฟดชี้คอนเสิร์ต ”เทย์เลอร์ สวิฟต์” ช่วยหนุนเศรษฐกิจ
คอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟต์ สร้างปรากฎการณ์มากมายตั้งแต่เริ่มออกทัวร์เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พบว่าทัวร์คอนเสิร์ตของนักร้องสาวสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย โดยสำนักงานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่าแม้การท่องเที่ยวแถบนี้ฟื้นตัวช้า แต่รายได้สำหรับธุรกิจโรงแรมในเมืองฟิลาเดลเฟียช่วงเดือนพ.ค. ดีดตัวขึ้นมากที่สุดนับจากโควิดระบาด ส่วนใหญ่สืบเนื่องจากแฟนเพลงพากันแห่จับจองห้องพักเพื่อชมคอนเสิร์ตของเจ้าแม่เพลงป็อปที่เปิดการแสดงในเมืองนี้วันที่ 12-14 พ.ค.
เมืองอื่นในสหรัฐยอมรับเช่นกันว่าสวิฟต์มีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงนครชิคาโก ซึ่งนักร้องสาวเข้าไปเปิดคอนเสิร์ตวันที่ 2-4 มิ.ย.และดันยอดจองห้องพักตามโรงแรมให้สูงเป็นประวัติการณ์ ด้วยยอดเข้าพักแต่ละคืนมากกว่า 44,000 ห้อง สร้างรายได้ให้แก่โรงแรมในชิคาโก 39 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1,000 ล้านบาท
