Eras tour เทย์เลอร์ สวิฟต์ ขึ้นแท่นคอนเสิร์ตทำรายได้มากสุดในอุตฯ ดนตรี
เทย์เลอร์ สวิฟต์ ทำรายได้จากการขายตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ตได้มากกว่าคืนละ 13 ล้านดอลลาร์ อันทำให้นักร้องสาวคนนี้ใกล้ขึ้นแท่นนักร้องที่ทำเงินจากการทัวร์คอนเสิร์ต ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการดนตรี
ทั้งนี้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ กำลังทัวร์คอนเสิร์ต “Eras” ซึ่งนับเป็นอภิมหาคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ของ”ตัวแม่”แห่งวงการเพลงป็อป ด้วยจำนวนโชว์มากถึง 131 รอบใน 5 ทวีป และมีตารางทัวร์ยาวนานตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2566 ที่เมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา ก่อนจะไปจบที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 17 ส.ค. 2567
แม้เงินส่วนใหญ่จะหมดไปกับต้นทุนด้านโปรดักชัน และยังไม่ได้รวมยอดขายสินค้าจาก “Eras ทัวร์ คอนเสิร์ต” แต่เทย์เลอร์ สวิฟต์ วัย 33 ก็ยังขึ้นแท่นศิลปินที่ทำรายได้ระดับท็อปในโลก และทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนี้นับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพนักร้องของเธอ
นิตยสารโพลล์สตาร์รายงานว่าสวิฟต์น่าจะทำรายได้มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ อันเป็นระดับที่ไม่มีศิลปินคนไหนทำได้มาก่อน เพราะการจัดคอนเสิร์ต 22 ครั้งที่กำลังดำเนินอยู่นี้ สร้างรายได้ 300 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10,700 ล้านบาท และสวิฟต์มีตารางแสดงคอนเสิร์ตมากกว่า 50 ครั้งในสหรัฐ จากนั้นจึงบินไปทัวร์คอนเสิร์ตในต่างประเทศ
แควนตัสเล็งเพิ่มเที่ยวบิน รองรับแฟนเพลง”สวิฟต์”
สายการบินแควนตัสเปิดเผยว่าจะเพิ่มเที่ยวบินมากกว่า 60 เที่ยวระหว่างเมืองเมลเบิร์นกับซิดนีย์ เพื่อรองรับแฟนเพลงจำนวนมากที่จะไปชมการแสดงคอนเสิร์ต “Eras Tour” ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ โดยเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้มีที่นั่งเพิ่มอีกกว่า 11,000 ที่นั่ง และบางเที่ยวบินจะนำเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้น ได้แก่ โบอิง A330 มาบินแทนโบอิง 737
การเพิ่มเที่ยวบินจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15–27 ก.พ. 2567 โดยสวิฟต์จะมาแสดงที่เมืองเมลเบิร์นวันที่ 16-18 ก.พ. และที่ซิดนีย์ 23-26 ก.พ.
การเคลื่อนไหวของสายการบินแควนตัสมีขึ้น หลังจากการจองตั๋วในประเทศทะยานขึ้น 1500% เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอันเป็นช่วงเดียวกับที่นักร้องดังเริ่มขายตั๋วสำหรับทัวร์คอนเสิร์ต
นักท่องเที่ยวจีนเข้าเอเชียอาคเนย์น้อยกว่าคาด
ประเทศในเอเชียอาคเนย์ที่หวังพึ่งนักท่องเที่ยวจีนให้มาขับเคลื่อนรายได้ด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจหลังยุคโควิด พบว่ากระแสนักท่องเที่ยวไม่ได้เป็นอย่างที่หวังไว้ โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ล่าช้ากว่าการคาดหมาย ทำให้ชาวจีนลังเลในการใช้เงินท่องเที่ยวต่างแดน
บาหลี หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รายงานความต้องการห้องพักในโรงแรมหรูหราลดลงช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. ท่ามกลางกระแสที่นักท่องเที่ยวจากจีนลดลง แม้แต่สิงคโปร์ยังมีนักท่องเที่ยวชาวจีนไปเยือนช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. จำนวน 310,901 คน เทียบกับ 1.55 ล้านคนในช่วงเดียวกันของปี 2562 ในทำนองเดียวกัน ญี่ปุ่นพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด แต่มีนักชอปกลุ่มใหม่ๆ เข้าไปแทนที่
กระนั้น หลายฝ่ายยังหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง โดยนักเศรษฐศาสตร์ธนาคาร OCBC มองว่าจีนเพิ่งกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งหลังโควิดเมื่อช่วงต้นปี และหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง
โออีซีดีชี้ตำแหน่งงาน 27% เสี่ยงถูกแทนที่ด้วย AI
องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) เปิดเผยในรายงานแนวโน้มการจ้างงานปี 2566 ว่าตำแหน่งงานในกลุ่มประเทศโออีซีดีมากกว่า 1 ใน 4 พึ่งพาทักษะการทำงานที่สามารถเปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย ท่ามกลางการปฏิวัติด้านปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ที่กำลังขยายตัว ทั้งนี้ มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยว่าการเกิดขึ้นของเอไอมีผลกระทบต่อตำแหน่งงานของผู้คนอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะการปฏิวัติยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
ตำแหน่งงานที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะถูกเปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติ คิดเป็นประมาณ 27% ของกำลังคนโดยเฉลี่ยของกลุ่มประเทศโออีซีดี โดยประเทศแถบยุโรปตะวันออกมีความเสี่ยงสูงสุด ทั้งนี้ งานที่มีความเสี่ยงสูงสุดคืองานที่ต้องใช้ทักษะและความสามารถ 25 รายการ จาก 100 รายการ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอมองว่าสามารถเปลี่ยนไปเป็นระบบอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย
ตลาด EV สหรัฐหยุดชะงัก สต็อกรถเหลือ-ต้องหั่นราคา
ข้อมูลจากนักวิเคราะห์และอุตสาหกรรมบ่งชี้ว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของสหรัฐกำลังเติบโตขึ้นในไตรมาสล่าสุด แต่ยังไม่เร็วพอที่จะหยุดยั้งไม่ให้รถไฟฟ้าที่ขายไม่ออกจำนวนมาก ตกค้างอยู่กับตัวแทนจำหน่ายของผู้ผลิตรถยนต์บางราย หรือเพื่อให้เทสลาสามารถหลีกเลี่ยงการลดราคาครั้งใหม่
จำนวนรถ EV ในสต็อกที่เพิ่มขึ้นและการปรับลดราคาอาจแสดงถึงการเติบโตของตลาดรถ EV ที่หยุดชะงักในระยะสั้น แต่ก็อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การเพิ่มยอดขายรถ EV ของสหรัฐให้สูงกว่าระดับส่วนแบ่งตลาด 7% ในปัจจุบันนั้น จะมีค่าใช้จ่ายสูงและยากลำบากกว่าที่คาดไว้ แม้ได้เงินอุดหนุนจากทางการ
บริษัทที่ปรึกษาออโตฟอร์แคสต์โซลูชันส์ คาดว่าจะมีรถ EV รุ่นใหม่ๆ มากกว่า 90 รุ่นเข้าสู่ตลาดสหรัฐจนถึงปี 2569 โดยนักวิเคราะห์มองว่าผู้ผลิตหลายรายต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อทำยอดขายให้ได้กำไร
