“เพื่อไทย” ชี้แค่คุยกับ 5 พรรคการเมือง ยันไม่ผลัก “ก้าวไกล” เป็นฝ่ายค้าน
น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีการเชิญพรรคการเมือง 5 พรรคที่มีจุดยืนไม่ร่วมงานกับพรรคก้าวไกล ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และชาติพัฒนากล้า ว่าการดำเนินการนี้ยังทำตามมติ 8 พรรคร่วม ที่มอบภารกิจให้พรรคเพื่อไทยหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งได้ปรึกษาหารือ และมีมติมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการในการแสวงหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา โดย 1. หาเสียงสนับสนุนจาก สว. ซึ่งก็ได้มีคณะทำงานไปดำเนินการ และ 2. การแสวงหาแนวร่วมจากพรรคการเมืองที่มีอยู่ในรัฐสภา
พรรคเพื่อไทยได้ให้ความสำคัญและเห็นว่าจะต้องทำในนามพรรคการเมือง จึงได้เชิญพรรคการเมืองต่างๆ มาพบปะพูดคุยแต่ไม่ใช่การเชิญมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เป็นการเชิญมาพูดคุยว่าเราจะมีแนวทางไปสู่จัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไร ขอเรียนว่าคำตอบที่ได้จากพรรคการเมืองต่างๆ นั้นไม่ใช่การผลักดันให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยทำงานเปิดเผย ไม่มีลับลมคมในตามที่ 8 พรรคร่วมให้แนวทางพรรคเพื่อไทยมาเราก็ทำงานตามนั้น ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจึงเป็นการที่เราทำตามกระบวนการ ซึ่งข้อมูลที่ได้ในขณะนี้ 4 พรรคการเมืองไม่สามารถร่วมงานกับพรรคก้าวไกลได้ ขณะที่อีก 1 พรรคสามารถร่วมงานได้กับพรรคก้าวไกลแต่ห้ามพรรคก้าวไกลแตะต้องการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112
“สันติ”ชี้ต้องเร่งตั้งรัฐบาล มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ–สังคม ย้ำอุดมการณ์พรรคไม่เหมือน “ก้าวไกล”
สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าขณะนี้มีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาบ้านเมือง นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งมา2 เดือนกว่ายังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้มีอุปสรรค ต่อการบริหารบ้านเมืองและประเทศทำให้เกิดปัญหาหลายด้านตามมา ทั้งเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงต่างๆ จึงสนับสนุนให้มีการตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว แต่พรรคไม่สามารถร่วมงานกับพรรคก้าวไกลได้เพราะอุดมการณ์ต่างกัน
พรรคยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้ชาติมีความมั่นคง ประชาชนกินดีอยู่ดีเดินหน้าไปตามหลักประชาธิปไตย พรรคมีเจตจำนงแน่วแน่ ที่จะไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่มีแนวคิดแก้ไข ม.112 ได้มีการยืนยันกับพรรคเพื่อไทยว่า เป็นหลักสำคัญที่เราจะปฎิเสธหากมีพรรคก้าวไกลที่มีนโยบายและมีแนวคิด แก้ ม.112 เป็นเรื่องที่พรรครับไม่ได้
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พลังประชารัฐกล่าวว่าพรรคมีนโยบาย และอุดมการณ์ ไม่เหมือนบางพรรค หากได้ร่วมรัฐบาล ก็มองเห็นว่าจะเป็นปัญหา ซึ่งหากต้องร่วมงานบางพรรคที่มีอุดมการณ์ แตกต่างกันเราไม่ร่วมด้วย ซึ่งหลักการของพรรคชัดเจน ที่ให้ความสำคัญ ในจุดยืนของพรรค คือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยมีเงื่อนไขใดบ้าง ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรค ได้วางหลักการอย่างชัดเจนไว้แล้ว และพรรคจะไม่เสนอพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หากเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต่ำกว่า 250 เสียง หรือกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก
“วราวุธ” ไม่รับปากร่วมรัฐบาลกับ “เพื่อไทย” ชี้ ชทพ.ขอดูสถานการณ์ก่อน
วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือเพื่อหาทางออกให้ประเทศกับแกนนำพรรคเพื่อไทยว่าวันนี้ขอบคุณพรรคเพื่อไทยและผู้บริหารพรรคให้เกียรติเชิญมาหารือ และย้ำว่าสิ่งที่พรรคประกาศไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่า หากจะทำงานร่วมกันไม่ว่าจะในมิติหรือบริบทใดจะต้องมีแนวนโยบาย ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนายืนยันตั้งแต่ก่อตั้งเป็นพรรคชาติไทย
จนถึงปัจจุบันพรรคมีจุดยืนชัดเจนที่เด่นชัดข้อหนึ่ง คือ การทำงานเพื่อชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันที่รัก ต้องไม่มีการแตะต้องแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญ ตลอดถึงทัศนคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หากพรรคการเมืองใดมีแนวคิดเช่นเดียวกัน ก็ร่วมงานกันได้ แต่หากมีพรรคการเมืองแนวคิดที่แตกต่าง หรือคิดเห็นไม่ตรงกันเราก็คงจะแยกย้ายกันทำงาน
เมื่อถามว่าหลังจากพูดคุยกันในวันนี้จะมีการกลับมาที่พรรคเพื่อไทยอีกหรือไม่ วราวุธกล่าวว่า ไม่รู้ต้องดูเหตุการณ์ข้างหน้าก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ชิมเมนูเครื่องดื่มของพรรคเพื่อไทย “ช็อกโกแลตมิ้นต์” หรือยัง นายวราวุธกล่าวว่า ได้ชิมแล้ว อร่อยดีต่อใจ แต่ไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะทั้งหวาน และมัน ต้องชม เพราะทราบมาว่าแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรค พท. เป็นคนคิดสูตรนี้ขึ้นมา
“พิธา”ขอประชาชนอย่าสิ้นหวัง ชี้ ส.ส.ก้าวไกลจะเกาะติดทำงานในพื้นที่
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนที่ จ.จันทบุรี ว่าถึงแม้ผมจะยังเข้าสภาไม่ได้ ผมจะลงพื้นที่ เกาะติดทำงานอยู่ตามพื้นที่ แล้วนำเสนอส่งมอบให้ สส. แล้วทำให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไขตามครรลองของระบบประชาธิปไตยที่ต้องอยู่กับประชาชนเท่านั้น ขออย่างเดียว ประชาชนอย่างเพิ่งสิ้นหวัง อย่าเพิ่งปล่อยมือพวกเราให้สมกับคะแนน 14 ล้านคะแนนที่ให้พวกเรามา
ถ้าพี่น้องบอกให้สู้ผมก็สู้แน่นอน มายืนกับพี่น้องตรงนี้ว่า ยังไงก็สู้ขณะนี้กำลังใจยังดีอยู่ และจะทำงานต่อเดินหน้าต่อ คนจะทำงานไม่ว่าอยู่ที่ไหนมันก็ทำงานได้ และมาอยู่ที่นี่ด้วยความห่วงใย ถึงแม้ว่าหาเสียง เลือกตั้งจบไปแล้ว แต่ความเดือดร้อนของพี่น้องยังมีอยู่ตอนนี้ยังกังวลเหลือเกินเรื่องภัยแล้ง เพราะปีนี้ภัยแล้งของประเทศไทยน่าจะรุนแรง
“พี่น้องเห็นผมตัวเป็นๆแล้ว กำลังใจยังดี ผมไม่ทิ้งพวกคุณแน่นอน เกาะติดทุกพื้นที่ทำงานต่อฟันธง ขอให้ประชาชนหล่อเลี้ยงความหวัง ของรัฐบาล8พรรคนี้ ช่วยกันทำงานร่วมไปกับสส.ในพื้นที่ และอย่าลืมคะแนนที่ให้มา 14 ล้านคะแนน จันทบุรีต้องไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”พิธา กล่าว จากนั้นพิธา ได้ถ่ายรูปและจับมือกับประชาชนที่มาให้กำลังใจ โดยประชาชนได้ตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า “พิธา สู้ๆ” ซึ่งพิธา ก็ได้ ชูกำปั้น เป็นสัญลักษณ์ในการตอบรับ
ม็อบบุกพรรค “เพื่อไทย” สาดแป้งใส่ซัดไม่ยอมให้ร่วมขั้ว รัฐบาลเดิม-ทหารจำแลง
วานนี้ (23 ก.ค.)ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุม บุกมาที่ทำการพรรคเพื่อไทย นำโดยกลุ่มทะลุวังนำ ที่มีตะวัน ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หยก เยาวชนอายุ 15 ปี และ สายน้ำ นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยแผ่นกระดาษโพลที่ให้แสดงความคิดเห็นและลงคะแนนว่า “เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเพื่อไทยจับมือกับเผด็จการ”
โดยแกนนำกล่าวว่าการเดินทางมาในวันนี้เพื่อประท้วง และทวงสัญญา จากพรรคพรรคเพื่อไทย ประมาณ 100 คน และมีการตะโกนส่าหากจะไปตั้งรัฐบาลกับขั้วเสียงข้างน้อย ขอให้พรรคเพื่อไทยได้จดจำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ยังมีการตะโกนอีกว่า ยังจำเหตุการณ์ 99 ศพได้หรือไม่ กลุ่มผู้ชุมนุมยังมีการตะโกนทวงสัญญา น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เคยกล่าวว่าต้องลาออก หากมีการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรค 2 ลุงหรือพรรคทหารจำแลง
ขณะเดียวกันยังมีการตะโกนด้วยเสียงดุดันไปยัง รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ ขณะเดียวกันยังมีการสาดแป้งที่เตรียมไว้ใส่ น.พ.ชลน่าน และ รอ.ธรรมนัส ที่เดินมาเตรียมแถลงข่าว หลังหารือแนวทางหาเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ไม่สามารถแถลงข่าวได้ ทำให้การแถลงข่าวล่มในที่สุด แกนนำทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ ออกจากด้านหลังพรรคขึ้นรถ เดินทางกลับทันที
