“เศรษฐา” เผยสื่อนอกจ่อขอคำปรึกษา “ทักษิณ” เมื่อพ้นโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.การคลัง ที่ให้สัมภาษณ์กับฮัสลินดา อามิน แห่ง บลูมเบิร์ก เทเลวิชั่น สื่อธุรกิจชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ในนิวยอร์ก ซึ่งนายเศรษฐาอยู่ระหว่างเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสามัญครั้งที่ 78
เศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมีบทบาทในรัฐบาลเมื่อพ้นโทษแล้ว ขณะที่นายกฯคนใหม่ของไทยพยายามฟื้นเศรษฐกิจไทย หลังอัตราการเจริญเติบโตขยายตามหลังเพื่อนบ้านเกือบทศวรรษในช่วงรัฐบาลทหาร
เชื่อว่าเขาจะสร้างประโยชน์เพิ่มให้กับรัฐบาลและคนไทยและเศรษฐากล่าวด้วยว่าทักษิณยังคงเป็นนายกฯที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลที่ดีอย่างเห็นได้ชัดว่า ถ้าหากท่านเป็นอิสระแล้วผมไม่ไปขอความเห็นจากท่านหรืออดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็คงไม่ฉลาดนัก
“จุลพันธ์” ชงตั้ง กรรมการดิจิทัลฯ
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากที่ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) นั้น ในเรื่องของโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต ขณะนี้ได้กำหนดกรอบการทำงานและเรื่องของวิธีการทำงาน รวมถึงระยะเวลาว่าจะเร่งดำเนินการได้อย่างไร ซึ่งดูแล้วทุกฝ่ายก็ตอบรับอย่างดี จึงเชื่อมั่นว่า โจทย์หลักคือเริ่มใช้จ่ายวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ตามที่เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ไว้ น่าจะทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ตสำเร็จ
ตอนนี้เป็นเพียงการวางกรอบการทำงานเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังต้องรอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ซึ่งในอังคารที่ 26 กันยายนนี้ คลังจะเสนอเรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ก่อน หลังจากนั้นก็จะเริ่มการนัดประชุมจริงอีกครั้ง
คณะกรรมการโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ตนั้น จะประกอบด้วยกรรมการจากหลายหน่วยงาน ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานที่ทำระบบ หน่วยงานที่จะดูแลเรื่องการใช้งาน หน่วยงานที่ช่วยตรวจสอบเรื่องของการโกง การทุจริต และสุดท้ายคือหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบหลังจากที่โครงการจบลง ถือว่าเป็นคณะกรรมการที่มีความครอบคลุม รวมตั้งแต่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ซึ่งก็จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการในการขับเคลื่อนประเด็นต่างๆด้วย
“ชัยธวัช” รับเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรค “ก้าวไกล”
ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเลือกหัวหน้าพรรค ก.ก. หลังจากที่ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่ 1 ออกมาระบุว่าชื่อของนายชัยธวัช เป็นหนึ่งในแคนดิเดตว่า ความคืบหน้ายังไม่มีอะไร ซึ่งช่วงเช้าของวันที่ 23 กันยายน จะเป็นการประชุมวิสามัญพรรค คาดว่าจะจบภายในครึ่งวัน ขอให้รอผลอย่างเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวถามยํ้าว่า ยืนยันหรือไม่ว่าเป็นหนึ่งในแคนดิเดตหัวหน้าพรรค ชัยธวัชกล่าวว่า ตนก็เป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่มีการเสนอ แต่ทุกอย่างต้องรอผลให้ชัดเจน
โฆษกรัฐบาลโต้ออกกฎเหล็กคุมสื่อ ชี้ระเบียบเดิม 20 ปี
ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อกรณีมีการนำเสนอข่าวว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติออกกฎเหล็กรักษาความลับของทางราชการที่เกี่ยวข้องกับการประชุม ครม. และการให้ข่าวสารแก่สื่อมวลชน ว่าเป็น มติ ครม.รับทราบแนวทางปฏิบัติในการรักษาความลับของราชการที่เกี่ยวข้องกับการประชุม ครม. และการให้ข่าวสารแก่สื่อมวลชน ซึ่งกระทำต่อเนื่องกันมาย้อนหลังกว่า 20 ปี โดยเรื่องดังกล่าว เป็นปกติในการแจ้งผู้เข้าร่วมประชุม ครม.ถึงแนวทางปฏิบัติ
โดยมีสาระสำคัญคือ ไม่เผยแพร่ข้อมูลใดๆ ในที่ประชุม ครม. เพราะเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอาจมีความอ่อนไหว และมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือผลประโยชน์แห่งชาติ แต่หากเรื่องที่เป็นมติเห็นชอบหรืออนุมัติแล้ว สามารถเผยแพร่สื่อสารได้ตามเหมาะสม
เรื่องใดมีผลกระทบอ่อนไหว ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเป็นผู้ชี้แจงหลัก และให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่และอำนาจให้ข่าวสารการประชุม มติ และการดำเนินงานของ ครม. และชี้แจงต่อสาธารณชนหากมีการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง
ป.ป.ช.จ่ออุทธรณ์คดี “กนกวรรณ” รุกป่าสงวน
นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 2 จ.ระยอง ยกฟ้องสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี และกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ กับพวกอีก 8 ราย ในคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงปี 2545 ว่าคดีดังกล่าวถือว่ายังไม่สิ้นสุด เบื้องต้นต้องรอฟังคำพิพากษาฉบับเต็มเสียก่อนว่ากรณีที่ศาลยกฟ้องนั้นมีประเด็นใดบ้าง
เพราะที่ ป.ป.ช.ฟ้องไปคือฐานความผิดตามมาตรา 151 และ 157 แต่ศาลอาจจะมองว่ามาตรา 157 ขาดอายุความ และไม่ได้เป็นความผิดตามมาตรา 151 ซึ่งเมื่อได้ดูคำพิพากษาแล้ว ป.ป.ช.อาจพิจารณาขออุทธรณ์ได้ ทั้งนี้ หากเป็นกรณีอัยการเป็นผู้ฟ้องต้องให้อัยการเสนอว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ และต้องให้ ป.ป.ช.เห็นชอบด้วยว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ เป็นดุลพินิจตามอำนาจของอัยการสูงสุดที่จะไม่อุทธรณ์ก็ได้ แต่ถึง ตอนนี้คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด ยังสามารถอุทธรณ์ได้ นี่เพิ่งศาลชั้นต้นเท่านั้น
