“เศรษฐา” ภูมิใจเข้าร่วม “เพื่อไทย” พร้อมเป็นนายกฯแก้ปัญหาประชาชน
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) ตนเองจะเป็นคนเสนอชื่อ บุคคลที่จะถูกเสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน แคนดิแดตนายกฯในวันพรุ่งนี้ด้วยตัวเอง
ด้านเศรษฐา ได้กล่าวกับสส.ว่าตนภูมิใจที่ยืนอยู่ตรงนี้เวลานี้ ตลอดระยะเวลาที่ก้าวสู่เวทีการเมืองและเข้าสู่บ้านหลังนี้ ภายใต้การเชิญโดยแพทองธารได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ตนเดินเข้ามาคนเดียว แต่ได้รับการประคับประคองอย่างดีจากสมาชิกพรรค มีคนเข้ามาช่วยให้คำแนะนำหลายคน หนึ่งในคนที่ซึ้งใจคือณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และจาตุรนต์ ฉายแสง ผลเลือกตั้งเราได้ 141 เสียง ไม่เป็นตามที่คาดหวัง สิ่งที่พูดไประหว่างการเลือกตั้ง ชัดเจนว่าคำพูดเป็นนาย บนบรรทัดฐานของแลนด์สไลด์
ขณะเดียวกันแพทองธาร ได้ให้สัมภาษณ์ไปวานนี้ว่า หลายเรื่องเราต้องกลืนเลือด เพื่อพาพรรคได้เดินไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่เป็นการโกหกประชาชน แต่เราต้องยอมรับความจริง เพราะ 9 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้เป็นรัฐบาลเป็นฝ่ายค้าน เป็นที่ประจักษ์ว่ามาตรฐานชีวิตประชาชนตกต่ำ
จำเป็นต้องลืมวาทกรรม “สองลุง” “ไม่มีลุงไม่มีเรา” คณิตศาสตร์การเมืองพื้นฐานบกบอกชัดว่าเราต้องมีอะไรบ้าง เรื่องการใช้วาทกรรทสังคมโซเชียลมีเดียด้อยค่าพรรค พท. ตนก็รู้สึกกเจ็บพอกับทุกคน แต่เราอยู่ในสังคมของความเป็นจริง ที่หลายคนรอการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายดีๆของพรรค พท. สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีรัฐบาลภายใต้การนำโดยพรรค พท. ทั้งนี้ ต้องรบกวนสส.ทุกคนอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงความจำเป็นนี้ เพื่อหล่อหลอมจิตใจให้ประเทศให้เดินไปข้างหน้า
“อนุทิน” ไม่ตอบ “ภูมิใจไทย” คุมกระทรวงไหน บอกสูตร 4+4 ร่วมรัฐบาล
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวภายหลังการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล ของ พรรคร่วมรัฐบาลว่าภูมิใจไทยได้ 4 รมว.และ 4 รมช.ในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
ส่วนได้กระทรวงอะไรบ้างนั้นตอนนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอโปรดเกล้าฯก่อน เอาทีละขั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นาย ถึงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยได้ 4 รมว. และ 4 รมช. ว่าได้กระทรวงอะไรบ้าง ว่า ขณะนี้ยัง ซึ่งต้องรอโปรดเกล้าฯก่อน เอาทีละขั้น
เมื่อถามต่อว่า มีกระทรวงเดิมที่พรรคภูมิใจไทยเคยดูหรือไม่ อนุทิน ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินไปขึ้นรถออกจากรัฐสภาไปทันที
“พีระพันธุ์” ปัดนั่งกลาโหม ชี้พรรคร่วมยังไม่แบ่งกระทรวง
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า การร่วมแถลงเข้าร่วมรัฐบาล 11 พรรคภายใต้การนำของพรรเพื่อไทย ถือเป็นการแถลงร่วมกันแต่ไม่ใช่มติ ไม่ได้มีเวลาในการพูดคุยรายละเอียด เป็นเพียงการวางกรอบเบื้องต้นไว้เท่านั้น
เมื่อถามว่า การประชุมพรรคในวันนี้จะพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเลยหรือไม่ พีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่เคาะ เป็นเพียงการแจ้งมติที่ประชุมเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล เพราะยังไม่ทราบจะได้รัฐมนตรีกระทรวงอะไร เมื่อทราบกระทรวงแล้วค่อยมาว่ากัน โดยในฐานะหัวหน้าพรรคจะยึดหลักความถูกต้องและเป็นธรรม ในการเลือกบุคคลที่จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติจะไปนั่งตำแหน่งรมว.กลาโหม พีระพันธุ์ บอกว่า “เป็นไปไม่ได้”
แต่เมื่อถามย้ำว่า ได้โควตารมว.พลังงานหรือไม่ พีระพันธุ์ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบายร่วมกันของพรรคต่างๆจะเป็นอย่างไรบ้าง พีระพันธุ์ กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่เตรียมไว้แล้ว เช่น เรื่องที่ทำกินของประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ เรื่องการปราบปรามการทุจริต ที่มีข้อกังวลว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วจะมีผลกระทบเรื่องนี้จะต้องไม่มี และ การสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในประเทศ เลิกแบ่งแยกแบ่งสี กลับมาทำความดีเพื่อชาติบ้านเมือง โดยทั้งหมดนี้อยู่ในคำแถลงร่วมกันแล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เป็นนโยบายของพรรค ก็จะไปปรับใส่ ตอนแถลงนโยบายของรัฐบาลอีกครั้ง
แตกหัก “ก้าวไกล” มีมติโหวตไม่เห็นชอบแคนดิเดตนายกฯจาก “เพื่อไทย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 21 ส.ค. 2566 ที่รัฐสภา ในช่วงเย็น มีการประชุม สส.ก้าวไกล โดยมีชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาในประเด็นการโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ส.ค. 2566 โดยพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เพื่อให้รัฐสภาลงมติว่าจะเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่
โดยผลปรากฏว่าที่ประชุม สส.ก้าวไกล มีมติว่าในวันที่ 22 ส.ค. จะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน คือลงมติไม่เห็นชอบแคนดิเดตนายกฯ ที่เสนอมาเพื่อแสดงจุดยืนตามเหตุผลต่อไปนี้ ว่าเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลผสมข้ามขั้วที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ได้รวมเอาพรรคสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมรัฐบาลด้วย เท่ากับขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ที่แสดงออกอย่างชัดเจนไปแล้วผ่านการเลือกตั้ง ว่าต้องการพลิกขั้วรัฐบาล ยุติการสืบทอดอำนาจ พรรคก้าวไกลมีการตัดสินใจบนจุดยืนทางการเมืองและคำมั่นสัญญาที่พรรคก้าวไกลได้ให้ไว้กับประชาชนคือ “มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา” ซึ่งพรรคก้าวไกลไม่สามารถตระบัดสัตย์ต่อประชาชนได้
“ประชาธิปัตย์” เอกฉันท์งดออกเสียโหวตนายกฯเพื่อไทย
สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ โฆษกที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สส.จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุม สส.ว่า ที่ประชุมพิจารณาเรื่องที่จะมีการประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) ซึ่งจะเป็นการประชุมเพื่อเลือกบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ที่ประชุม สส. ประชาธิปัตย์ ได้ถกกันในประเด็นดังกล่าวร่วม 2 ชั่วโมง และที่ประชุมได้รับทราบการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลที่รัฐสภา โดยมีการรวม 11 พรรคการเมือง ได้เสียง 314 เสียง มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
โดยจะมีการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ชื่อเศรษฐา ทวีสิน ในวันพรุ่งนี้ ทำให้ที่ประชุม สส. ของพรรค ได้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในประเด็นดังกล่าว โดยมติของพรรคในการโหวตนายกฯ วันพรุ่งนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีมติ งดออกเสียง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความมั่นใจว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีจะจบในวันเดียวหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า อยู่ที่การโหวต แต่สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลก็คงจะต้องจบตามนั้น แต่ในส่วนสว.เป็นเรื่องของ สว.เราไปสั่งการไม่ได้ ตนก็ตอบไม่ได้
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ขอความร่วมมือให้ไปประสานขอเสียง สว.หรือไม่ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวยืนยันว่าไม่มี ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันเลย และที่หารือกันก็ไม่ได้มีเรื่องนี้ แต่เป็นการคุยกันในสิ่งที่จะแถลงข่าว และกรอบนโยบายกว้างๆ เท่านั้น
