“อุ๊งอิ๊ง” ขอโทษประชาชนดึงพรรค 2 ลุงร่วมรัฐบาล ชี้ “เพื่อไทย” ต้องเร่งตั้งรัฐบาล
แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการโหวตนายกฯคนที่ 30 ในวันที่ 22 ส.ค. กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพยายามเต็มที่ในการเสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกฯ เรามั่นใจและอยากตั้งรัฐบาลให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และใช้นโยบายพรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาให้กับประชาชน
เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในการหาเสียงก่อนหน้านี้ว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่จับมือกับ “พรรค 2 ลุง” แต่วันนี้กลายเป็นกระแสโจมตีพรรคเพื่อไทยหนักมาก แพทองธาร กล่าวว่า ขอพูดตรงๆเลยว่า อย่างวันนั้นที่เขาบอกว่าเราไม่ชัดเจน เราหาเสียงและพยายามทำทุกอย่างเพื่ออยากได้คะแนนแลนด์สไลด์ แต่เราทำแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ
และในรัฐธรรมนูญปี 2560 มีเรื่องของสว.อยู่ ซึ่งเราเคยผ่านมาก่อน คือชนะการเลือกตั้งแต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นเราทราบดี พร้อมทั้งยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีต้นทุนที่จะต้องจ่าย นั่นคือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน ซึ่งขอน้อมรับ และก็ต้องขอโทษที่ทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวัง หรือเสียใจ แต่หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วเราทำเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนที่มีอยู่มากมาย และเราก็จะก้าวข้ามผ่านสนามอารมณ์นี้ไปให้ได้ด้วยความเข้มแข็ง ด้วยการเอาประชาชนมาเป็นที่ตั้ง
“วิษณุ” กางข้อกฎหมาย “ทักษิณ” กลับไทย หากขออภัยโทษไม่สำเร็จต้องติดคุก 2 ปี
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า จะเดินทางไปรับทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สนามบินดอนเมือง ในวันที่ 22 สิงหาคม เวลา 09.00 น. ว่ายังไม่ได้รับรายงานจากกระทรวง ยังไม่ได้รับแจ้งอะไรอย่างเป็นทางการเลย หากถามจากตำรวจอาจจะรู้ แต่ตนยังไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเดินทางกลับไทยในฐานะผู้ต้องหา จะต้องประสานกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง วิษณุกล่าวว่า ใช่ เมื่อถามต่อว่า ถ้าไม่ประสาน มีโอกาสที่ข่าวนี้จะไม่เป็นจริงหรือไม่ วิษณุกล่าวว่าไม่รู้ ไม่ทราบ แต่ถ้าเขาจะกลับจริงๆ ต้องบอกให้รู้อย่างเป็นทางการ อาจจะเตรียมบอกหรืออย่างไร แต่อาจติดวันหยุด อาจจะบอกไม่ได้
ทั้งนี้ในส่วนที่ตนเคยบอกว่าการดูแลนายทักษิณ จะต้องเป็นมาตรการพิเศษ แต่จะทันทีทันใดหรือไม่นั้น อาจไม่สะดวกกับกรมราชทัณฑ์ ซึ่งก่อนเข้าเรือนจำก็ต้องมีการตรวจสุขภาพเหมือนผู้ต้องหาปกติทุกอย่าง
ส่วนการขอพระราชทานอภัยโทษ ทักษิณจะได้รับสิทธิพิเศษหรือไม่ เพราะเข้ากลุ่มนักโทษอายุเกิน 70 ปี วิษณุ อธิบายว่าไม่มีเงื่อนไขอะไร เพราะเป็นการขอเฉพาะตัว ซึ่งการเขียนขอพระราชทานอภัยโทษ เจ้าตัวจะเขียนเอง หรือคนอื่นขอให้ก็ได้ เช่น คู่สมรส หรือลูก โดยขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษ ถ้าขอแล้วไม่ได้ ต้องรออีก 2 ปี ถึงจะขอพระราชทานอภัยโทษใหม่ได้ และในช่วง 2 ปีก็ต้องถูกจำคุกตามกฎหมาย
“พิธา” ลงพื้นที่ระยองช่วยผู้สมัคร “ก้าวไกล” หาเสียงหวังพรรคได้ ส.ส.ตามเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ (20 ส.ค.) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ช่วยพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.ระยองหาเสียงในพื้นที่ดอนมะกอกล่างและปากน้ำประแส ร่วมกับ พงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 3 เบอร์ 1 ในการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 10 กันยายน 2566
โดยพิธา และพงศธรได้เดินหาเสียง เคาะประตูบ้านพี่น้องประชาชนชาวดอนมะกอกล่าง สลับกับขึ้นรถแห่ปราศรัยชูนโยบาย พร้อมอ้อนขอให้พี่น้องประชาชนในเขต 3 ออกไปใช้สิทธิใช้เสียงในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพื่อให้พรรคก้าวไกลได้กลับมาดูแลพี่น้องประชาชน
ก่อนจะขึ้นรถสามล้อพ่วงข้างซึ่งเป็นพาหนะที่ช่วยสำหรับการขนส่งเดินทางในพื้นที่ขึ้นหาเสียงในพื้นที่ปากน้ำประแส เนื่องจากขนาดพื้นที่ถนนที่แคบและใช้สำหรับขนอุปกรณ์ประมงและคนในครอบครัวเดินทางไปมา ตลอดการนั่งรถสามล้อพ่วงข้างหาเสียงในโซนปากน้ำประแส มีพี่น้องประชาชน คอยเฝ้ากับพิธาและพงศธร เพื่อให้กำลังใจ และถ่ายภาพสนับสนุน และอวยพรให้พงศธรเลือกตั้งชนะในหนนี้
พิธากล่าวว่า ก้าวไกลมาระยอง ไม่ได้มาเล่นๆ มั่นใจในประสิทธิภาพ และคุณภาพ ไม่ใช่ว่าก่อนเลือกตั้งบอกมีลุงไม่มีเรา ประชาชนอุตส่าห์ไปสลายขั้วให้เสร็จสรรพ แต่สุดท้ายกลับไปเทกองรวมกัน ส่วนเรื่องรัฐบาลรักษาการไปตัดงบประมาณผู้สูงอายุ ทำได้อย่างไร บอกต้องมาพิสูจน์ก่อน สำหรับประชากรผู้สูงอายุของ จ.ระยอง มีถึง 103,000 คนจึงขอให้ช่วยเลือกผู้สมัครของพรรคก้าวไกลให้ไปคัดค้านเรื่องนี้ในสภาฯ
“พิเชษฐ์” ลุ้นเพื่อไทยได้เก้าอี้เกษตร – สาธารณสุข ดันกระท่อมเป็นพืชส่งออก
พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 อดีต ส.ส.เชียงรายพรรคเพื่อไทย บรรยายพิเศษ “แนวทางการพัฒนา การปลูกพืชกระท่อม การแปรรูป และการตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ” ภายในงาน ประชุมเชิงปฎิบัติการเพื่อสร้างการรับรู้ความคืบหน้า การส่งเสริมพืชกระท่อม ในเชิงเศรษฐกิจพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่มีสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นประธานเปิดโครงการ ว่าประชาชนให้ความสนใจเรื่องพืชกระท่อมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นอาชีพใหม่ที่มีอนาคตอยู่
โดยที่ผ่านมา พอเรื่องนี้เข้าสภาฯ ยอมรับว่า ตอนแรกไม่ได้สนใจแต่พอพิจารณารายมาตรา จึงเห็นว่า เป็นประโยชน์ และมีอนาคตไกลอย่างแน่นอน ต่างกับลำไยที่มีปัญหามากกว่า ทำให้บางปีได้ผลผลิตน้อย จึงขอให้เกษตรกร ที่ปลูกพืชกระท่อม ไปขอมาตรฐาน จีเอพี ที่เกษตรอำเภอ เพื่อจะได้ส่งออกต่างประเทศได้ ซึ่งถ้าเราส่งออกได้เหมือนยางพารา พืชกระท่อม ก็จะมีอนาคต เพราะทั่วโลกใช้เป็นยาแก้ปวด ที่พบว่าดีกว่ามอร์ฟีนถึง 17 เท่า ที่ผ่านมา จะยังไม่สามารถขายต่างประเทศได้ แต่ถ้าส่งออกได้ ก็จะเป็นอาชีพที่มั่นคง เพราะเป็นพืชยืนต้น โดยตนคิดว่า ถ้าเรามีรมว.เกษตรฯ และเปลี่ยนรมว.สาธารณสุขมาจากพรรคเพื่อไทยก็จะทำให้พืชกระท่อม มีอนาคตอย่างแน่นอน
หัวหน้าพรรค “เป็นธรรม” ไม่โหวตให้นายกฯ “เพื่อไทย” หลังสลายขั้วจับมือ “พรรคลุง” ตั้งรัฐบาล
ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เปิดเผยทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าพรรคเป็นธรรมไม่ร่วมรัฐบาลข้ามขั้ว และไม่โหวตนายกฯที่มาจากรัฐบาลข้ามขั้ว ซึ่งไม่เคารพเสียงประชาชน โดยพรรคเป็นธรรมมีหน้าที่ต้องทำให้พรรคอันดับ 1 เป็นรัฐบาล ตามมติประชาชนจากการเลือกตั้ง
เมื่อเพื่อไทยฉีก MOU แล้วไปจับมือกับพรรครัฐบาลเดิม ไม่เห็นนโยบายของรัฐบาลชัดเจน เราจึงไม่สามารถโหวตเห็นชอบให้กับแคนดิเดตนายกของเพื่อไทยได้
การอ้างว่ารวมไทยสร้างชาติไม่มีลุงแล้ว เป็นเพียงเทคนิคการอ้างเท่านั้น เพราะแม้ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่ยังคงเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความเกี่ยวข้องกับรวมไทยสร้างชาติในทางอ้อม
เพื่อไทยหาเสียงกับประชาชนว่าไม่เอา 3 ป. จะปิดสวิตช์ ส.ว. หัวหน้าพรรคและผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีก็เคยพูดชัดเจนว่าไม่เอาพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติแต่ไม่ทำตามที่หาเสียงไว้ โดยผลการเลือกตั้งชัดเจนว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง แต่เพื่อไทยกลับไปจับมือกับขั้วเดิม หน้าตารัฐบาลเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเพื่อไทย แล้วแบบนี้จะเลือกตั้งกันทำไม แม้เราจะมี ส.ส.เพียงคนเดียว ไม่อาจเปลี่ยนรัฐบาลได้ แต่เสียงเดียวของเราต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน มีอุดมการณ์ที่มั่นคง
