“ภูมิธรรม” เผย “เศรษฐา” ฝากการบ้านเร่งแก้ รธน.
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าหลังจากที่นายกฯให้ตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ภูมิธรรม กล่าวว่า นายกฯมอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการ ขณะนี้กำลังดูและติดต่อทาบทามคนโดยพยายามให้มาจากภาคส่วน หรือคนที่มีความรู้ด้านกฎหมายมหาชน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้อยากให้คนมีส่วนร่วมให้มากขึ้น และให้มีการทำประชามติให้ได้โดยเร็ว และยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะผลักดันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตามมีการวางแนวทางไว้คร่าวๆ
ซึ่งต้องไปหารือกับหน่วยงานต่างๆอีกว่าเห็นอย่างไร และจะทำอย่างไรให้เป็นที่พึงพอใจกับทุกฝ่าย อย่างที่ครม.ได้กำหนดเป็นฐานไว้แล้วว่าการทำประชามติและการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เราอยากให้ผ่านได้โดยเร็ว และเรายืนยันในหลักการที่ว่า เราจะไม่แตะต้องหมวด 1 หมวด 2 เบื้องต้นในวันนี้ถ้าทำประชามติจะถามประชาชนว่า จะแก้ไขหรือไม่แก้ไขอย่างไร และเราก็อยากดูรายละเอียดทั้งหมด
“พิชิต” พร้อมช่วยรัฐบาลดูแลงานด้านกฎหมาย
พิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดูแลเรื่องแก้ไขหรือยกเลิก กฎหมายสำคัญตั้งแต่สมัยคสช.หรือกฎหมายอื่นๆที่จำเป็นจะต้องพิจารณาขึ้นมาใหม่ ว่า ส่วนตัวก็คงจะดูหลายๆเรื่องตามที่ได้รับมอบหมายงานมา ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญและคำสั่งคสช. ก็หลายๆเรื่องที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งตนพร้อมดูแลงานด้านกฎหมายให้รัฐบาล
ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญจะใช้คำว่าแก้ไขหรือจัดทำฉบับใหม่ พิชิต ระบุว่า วันนี้มาหารือว่ารูปแบบวิธีการ แต่เบื้องต้นมติของคณะรัฐมนตรี มีมติให้ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมามอบหมายให้กับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้รับผิดชอบ วันนี้ก็มา ปรึกษารูปแบบวิธีการ ให้เป็นไปตามนโยบายพรรคในช่วงหาเสียง ส่วนจะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดนี้ด้วยหรือไม่ ตนก็กำลังคุยกันอยู่
ส่วนแนวทางเบื้องต้นในการจัดทำประชามติ ก็คงจะมีการพูดคุยกันในหลายประเด็น เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะมีประเด็นเรื่องของการแก้ไขรายมาตรา หรือว่าแก้ทั้งฉบับ และจะต้องทำอย่างไร พร้อมยืนยันจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามประชาธิปไตยมากที่สุด และจะทำให้สำเร็จภายในรัฐบาลของนายเศรษฐา
ส่วนการแก้ไขรายมาตราหรือทั้งฉบับแนวทางไหนน่าจะเหมาะสมที่สุด นายพิชิต ย้ำว่า ก็ต้องคุยกันก่อน เพราะอะไรที่แก้ได้และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน ให้มีความรู้สึกว่าไม่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ทำได้ก็น่าทำ ส่วนการแก้ไขทั้งฉบับ ก็มีกรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร แก้ก็ต้องทำให้สำเร็จด้วย
“พิเชษฐ์” ชี้ “ก้าวไกล” มีสิทธิ์ทางการเมืองรักษาตำแหน่งรองประธานสภาฯ
พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพรรคก้าวไกลจะขับปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ให้ออกจากพรรคก้าวไกล เพื่ออยู่ในตำแหน่ง รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ขณะที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ว่า เป็นความคิดของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นสิทธิทางทการเมือง ส่วนจะมีความสง่างามหรือไม่นั้น เป็นประเด็นที่สังคมคิดได้
ส่วนทิศทางของการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ตนทราบว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุป แม้รัฐบาลจะตั้งให้ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติ อย่างไรก็ดีตนมองว่าในแนวทางของการแก้ไขนั้น สภาฯ ต้องเป็นเวทีกลางที่จะดำเนินการ
พิเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ในแนวทางแก้รัฐธรรมนูญนั้นตนสนับสนุนให้ใช้กลไกของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เหมือนกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540
“อุ๊งอิ๊ง” เผย “ทักษิณ” พักฟื้นหลังผ่าตัด ชี้ยังไม่ยื่นขอพักโทษ
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวถึงอาการป่วยและการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคุณพ่อได้มีการผ่าตัดไป ส่วนในเรื่องของรายละเอียดนั้น ขอให้มีการพูดคุยกับหมอ ซึ่งตนได้มีการปรึกษา เนื่องจากจะต้องได้พบกับสื่อมวลชนบ่อยๆ
ทั้งนี้ มีการสอบถามว่าจะมีการพูดได้มากน้อยแค่ไหน โดยเรื่องนี้ให้เป็นในส่วนของการแพทย์เป็นผู้ตอบคำถามดีกว่า ส่วนรายละเอียดต่างๆ ขออัปเดตว่าในวันนี้อยู่ในระหว่างการพักฟื้น ส่วนเรื่องโรคความดันก็แล้วแต่วัน บางวันก็ดี แต่บางวันก็ไม่ค่อยดี ส่วนจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ตนไม่ทราบ รวมถึงไม่ทราบด้วยว่าจะอยู่นานขนาดไหน เนื่องจากเพิ่งผ่าตัดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อถามถึงแนวทาการยื่นขอพักโทษของนายทักษิณ ในครอบครัวได้มีการพูดคุยกันอย่างไร แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้เรามีการศึกษาเรื่องกฎหมายว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ในการที่จะทำให้คุณพ่อรู้สึกว่าหากไม่สบาย ต้องพักผ่อน จะมีโอกาสที่จะได้พักที่บ้านหรือไม่ ซึ่งเราช่วยกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และยังไม่มีในเรื่องขอพักโทษ
“ธรรมนัส” ปัดขัดแย้ง รมช.เกษตร เผยแบ่งงานเรียบร้อยดี
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่ากรณีการแบ่งงานของกระทรวงเกษตรฯ ส่วนตัวไม่ได้มีความขัดแย้งกับ2รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯแต่อย่างใด แต่โดยตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯมีความรับผิดชอบต้องดูแลทุกกรม ในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และงานที่จัดสรรให้เป็นเรื่องภายในบ้าน ผมในฐานะหัวหน้าครอบครัวต้องดูแลให้เรียบร้อยตามสายบังคับบัญชา
อย่างนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชา รัฐมนตรีทุกกระทรวงต้องน้อมรับนโยบายของนายกรัฐมนตรี และเช่นเดียวกับ กรณีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงหากมีนโยบายอะไรไว้ ข้าราชการและรัฐมนตรีช่วยว่าการก็ต้องนำไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดสัมฤทธิ์ผลเป็นประโยชน์กับเกษตรกร
หากทำดีก็อาจมอบหมายงานให้อีก เป้าคือความสุขของเกษตรกร ดังนั้นหากพบปัญหาอุปสรรคเร่งด่วนผมจะไม่รอ ผมจะสั่งการให้เร่งแก้ปัญหาทันที
ยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่งแบ่งงาน ให้ 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่ขอให้ทำงานที่ได้รับมอบหมายไปให้ดี อาจมีการพิจารณาให้งานเพิ่ม หรือไม่อีก 6 เดือนหรือ ไตรมาส
