“เศรษฐา” พร้อมเป็นนายกฯ มั่นใจ “พรรคเพื่อไทย” รวมเสียงได้ครบ
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีความพร้อมในการโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 22 ส.ค.ว่า ปัจจุบันคณะเจรจาได้เจรจากับหลายพรรค มีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี มีพรรคการเมืองหลายพรรคตอบรับมาแล้วว่าจะโหวตให้ ซึ่งวันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็โทรมาบอก 71 เสียงจะยกมือโหวตให้ ตนก็ต้องขอขอบคุณ
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายพรรคที่แสดงเจตจำนงมาแล้วหากเพื่อไทยเสนอตนในวันที่ 22 ส.ค.ผมก็มีความพร้อม และขอวิงวอนว่า เราก็ต้องการเสียงของสว. ด้วย และตอนคิดว่าการกระทำและการชี้แจงของตนเป็นที่ประจักษ์ ว่ามีความตั้งใจจริง มีความปรารถนาดีกับประเทศชาติ หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสว.
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยเศรษฐา กล่าวต่อว่า พรรคเรามีความพร้อม และมั่นใจในคณะเจรจา ว่าจะตกลงได้กับพรรคร่วมที่จะมาเป็นรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยเพื่อพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ตนคิดว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องมีนายกรัฐมนตรีรัฐบาล ที่มาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน
“ไผ่” ลั่น “ประวิตร” ไม่สร้างเงื่อนไข มั่นใจโหวตนายกฯจบ 22 ส.ค.นี้
ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ยืนยันเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น เพราะต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นโดยเร็ว ส่วนที่จะมีภาพการแถลงข่าวร่วมกันหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะชวนหรือไม่ หากพรรคเพื่อไทยชวนจะพิจารณาอีกครั้ง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน
ทั้งนี้ยืนยันว่า สส.ของพรรคพลังประชารัฐ40คนไปไหนไปด้วยกันน และการเข้าร่วมนั้นไม่ได้เรียกสินสอด เพราะไม่ได้คุยอะไรกัน ขณะที่โควต้ารัฐมนตรียืนยันว่ายังไม่ได้คุยอะไร แต่ถ้าคุยแบบนี้คงใช้เวลาไม่นาน ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ต้องดำเนินการ เพราะถ้าไม่ทำ สว. ก็ไม่สบายใจ สว.ก็ถามมา รอดูอีกสักนิด 22 ส.ค.นี้จบแน่ โดยพรรคเราตัดสินใจชัดเจนไปก่อนหน้านั้นแล้ว ทุกคนอยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพราะมีปัญหาที่รอการแก้ไขมาก และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้สร้างเงื่อนไขอะไรที่ทำให้การโหวตนายฯมีปัญหา
“โรม” ยันก้าวไกลเดินเกมสภาฯขอแก้มติ ข้อบังคับ 151 ยันสภาฯต้องยอมแก้ข้อผิดพลาด
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ต่อประเด็นที่ประชุมตัวแทนวิปวุฒิสภา และพรรคการเมือง มีข้อตกลงร่วมกัน จะไม่ให้ลงมติในญัตติด่วน ให้รัฐสภาทบทวนมติ เมื่อ 19 ก.ค. กรณีพรรคก้าวไกลจะยืนยันในการเสนอญัตติดังกล่าว โดยจะนำไปหารือกันภายในพรรค และจะเตรียมผู้อภิปราย 2-3 คน
อย่างไรก็ดีมีแนวโน้มชัดเจนที่วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา จะใช้อำนาจเพื่อไม่ให้มีการลงมติในญัตติดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลตามข้อบังคับการประชุมข้อ 151 ที่ระบุว่ามติถือเป็นเด็ดขาด ที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ ซึ่งตนได้โต้แย้งในที่ประชุมว่า ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ทั้งนี้เป็นอำนาจของที่ประชุมฐานะผู้ลงมติ และตนมองว่าหากพิจารณาอย่างรอบคอบ เมื่อมีเหตุผิดพลาดต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลง
การทำงานของรัฐสภามีโอกาสจะผิดพลาดได้ดังนั้นจะเป็นอันตรายหากรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากนั้นฝ่ายกฎหมายของสภาฯ คิดไปไกลว่าการเสนอญัตติของก้าวไกล นั้นต้องการฟื้นชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ห้วหน้าพรรคกก้าวไกล ให้โหวตนายกฯอีกครั้ง ผมยืนยันว่าไม่ใช่ และข้อเท็จจริงคือการเสนอให้แก้ไขความผิดพลาด
“ปิยบุตร” แจง 6 ข้อสำคัญทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์คลิปวีดีโอผ่านเฟซบุ๊ก อธิบายปัญหา 6 ประการ
เรื่องการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนี้
- ถ้าจะทำประชามติว่าสมควรทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนที่ฉบับ 60 หรือไม่ ต้องมั่นใจว่าไม่แพ้ หากแพ้ รัฐธรรมนูญ 2560 จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงทำใหม่ได้ยากแล้ว เพราะชนะประชามติสองรอบ
- เขียนคำถามประชามติให้ชัด ป้องกันความสับสนซับซ้อน ไม่เช่นนั้นจะเหมือนประชามติปี 2559
- เลือกตั้ง สสร. โดยใช้ระบบสัดส่วนและประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง
- ไม่ต้องกังวลเรื่องการล้มล้างฯ เพราะติดล็อครัฐธรรมนูญ 2560 อยู่แล้วว่าห้ามเปลี่ยนรูปของรัฐและระบอบการปกครอง
- นักการเมือง สส. และ ผู้สมัคร สสร. ต้องรณรงค์เสนอว่าร่างฉบับใหม่ด้วยว่ามีเนื้อหาอย่างไร
- หากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะจัดออกเสียงประชามติ ก็ต้องวางกรอบระยะเวลาให้ประชาชนเห็นชัดเจน ว่าจะใช้เวลาเท่าไรในการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
“สุพัฒนพงษ์” ปัดอยากนั่งกระทรวงพลังงานเก้าอี้เดิม ชี้เป็นเรื่องหัวหน้าพรรค
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการดีลตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ลงตัวเพราะการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ว่า ตนไม่ทราบ
เมื่อถามย้ำว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องการเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานใช่หรือไม่ สุพัฒนพงษ์ กล่าวย้ำคำเดิมว่า อันนั้นก็ไม่ทราบเหมือนกัน พร้อมปฏิเสธที่จะตอบว่าจำเป็นต้องนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีเดิมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าการแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงานไม่ลงตัวเนื่องจากมีเรื่องกลุ่มทุนเข้ามาเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ สุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ผมไม่ทราบอะไร เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค
