“อุ๊งอิ๊ง” แจ้ง ต้องอาศัยเสียง “พรรคลุง” ก่อน “พปชร.” เท 40 เสียงร่วมโหวตนายกฯ
กรณีที่แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย เดินจากที่ทำการพรรคเพื่อไทยไปยังตึกไทยซัมมิท เมื่อ9ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อหารือกับแกนนำพรรคก้าวไกล โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า การหารือดังกล่าวแพทองธาร ไม่ได้ไปขอเสียง โหวตจาก 150 สส.พรรคก้าวไกล ในการสนับสนุนเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย แต่อย่างใดหากเป็นการพูดถึงสถานการณ์การเมืองและการรวบรวมเสียงของพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงการพูดคุยกับสว. ที่มีจุดยืนว่าต้องไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล และมีความเป็นจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพราะล่าช้ามาหลายเดือนแล้ว
เพื่อไทยจึงมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบว่า พรรคมีความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ โดยอาศัยเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ดังนั้นเพื่อไทยต้องมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง
จากสัญญาณดังกล่าว ส่งผลให้ในวันเดียวกัน ไผ่ ลิกค์สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคว่า สส.ทั้ง 40 คน จะโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย
“ชัยธวัช” แจง “ก้าวไกล” ไม่เคยขอพลังประชารัฐช่วยโหวตนายกฯ
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชี้แจงกรณีที่ ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคพลังประชารัฐจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โดยพาดพิงว่าพรรคก้าวไกลเองก็เคยมาขอคะแนนจากพลังประชารัฐให้โหวตให้แคนดิเดตก้าวไกลเช่นกัน
ชัยธวัชยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่เคยมีการเจรจาขอให้พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนหรือโหวตให้ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น และไม่เคยคิดจะร่วมสังฆกรรมกับพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นกลไกสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร จุดยืนนี้ของพรรคชัดเจนตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่มาในยุคพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลก็ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ไม่เคยกลับคำ หรือเปลี่ยนจุดยืนที่เคยพูดมาโดยตลอด
“วันชัย” เชื่อโหวตนายกฯครั้งหน้า “เพื่อไทย” ฉลุย
วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเด็นโหวตนายกฯว่า หมดเรื่อง 112 และก้าวไกลไปแล้ว สว.เห็นว่าประเทศไทยต้องเดินหน้า จะชักช้าไม่ได้
เป็นที่ชัดเจนและเสียงดังฟังชัดในหมู่เพื่อนสว.ส่วนใหญ่ว่า ใครรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ จะเลือกคนนั้นพรรคนั้นเป็นนายกฯ” แน่นอน สัญญาณครั้งนี้จากทุกสายชัดยิ่งกว่าชัด โหวตนายกฯ ครั้งหน้าจากเพื่อไทยผ่านฉลุย สว.เต็มคาราเบล
โดยการโพสต์ของ สว.วันชัยเกิดขึ้นหลังจากที่มีกระแสข่าวการตกลงกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติเรียบร้อยแล้ว และแพรทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทยได้ไปพูดคุยชี้แจงให้แกนนำของพรรคก้าวไกลรับทราบสถานการณ์การเมืองล่าสุดแล้ว
“ปิยะบุตร” แนะ “ก้าวไกล” ประกาศชัด พร้อมเป็นฝ่ายค้านอย่างสง่างาม
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สถานการณ์ชัดเจนขนาดนี้ ทำไมพรรคก้าวไกลยังไม่ประกาศจุดยืนเป็นฝ่ายค้านอย่างทรนงองอาจ หากรัฐบาลหน้ามีก้าวไกลย่อมไม่มีวันได้ใบอนุญาตจัดตั้งรัฐบาล เสียงซุบซิบ ข้อความในการเจรจาในที่ลับ สัญญาณและการแสดงออกของทุกพรรคและ สว.หลายคน เป็นประจักษ์พยานอย่างชัดแจ้ง
โดยการแสดงออกของพรรคเพื่อไทย และพรรคอื่น ๆ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่มีก้าวไกล เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมพรรคก้าวไกลจึงไม่แถลงแสดงจุดยืนเสียทีว่า บัดนี้ พรรคก้างไกลต้องเป็นฝ่ายค้าน และจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างดีที่สุด ไม่ต้องรับคำร้องขอ ไม่ต้องรับคำเจรจา ไม่ต้องหวังว่าจะมีแสงริบหรี่รำไรให้ได้กลับมาร่วมรัฐบาลอีก
ไม่ต้องเล่นเกมชักเย่อชิงไหวชิงพริบกับพรรคอื่นๆ ปล่อยให้พวกเขาแย่ง เศษเนื้อ/ชามข้าวกันต่อไป ขีดเส้นแบ่งชัดเจนระหว่าง เก่า-ใหม่ และ อดีต-อนาคต หนทางนี้ พรรคกก้าวไกลอาจไม่เหลือใคร แต่อย่างน้อยที่สุด ยังมีประชาชนผู้ดุจดังผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ขอให้พอได้แล้ว กับความคลุมเครือ
“อนุสรณ์” ค้าน “ประยุทธ์” ตั้งปลัดกระทรวง-ทำโผทหาร แซะไหนบอกวางมือแล้ว
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าในขณะที่พรรคเพื่อไทยกำลังเดินหน้ารวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่าอาศัยสถานการณ์ ในช่วงภาวะสุญญากาศ หาประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง ทั้งที่ประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว อย่าให้ใครตำหนิได้ว่า “ปากบอกวางมือ แต่ใจคิดวางคน”
โดยมารยาทความชอบธรรมและข้อกฎหมาย ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเตรียมการในการแต่งตั้งปลัดกระทรวง รวมถึงผู้นำเหล่าทัพ ควรปล่อยให้รัฐบาลใหม่ได้เข้ามาบริหารจัดการ เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายเพื่อให้สอดรับกับการผลักดันนโยบายของรัฐบาลใหม่ เพื่อนำพาประเทศชาติและประชาชนออกจากวิกฤติบอกว่า วางมือก็ต้องวางมือจริงๆ ตอนนี้ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาสไปมากแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ และคณะสืบทอดอำนาจ ไม่ควรฉวยโอกาสซ้ำเติมวิกฤติประเทศ
“กกต.” เปิดยอดบริจาคเงินเข้าพรรคการเมือง อันดับ 1 “ไทยสร้างไทย” 46 ล้าน
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศรายชื่อผู้บริจาคและจำนวนเงินบริจาคที่ไม่น้อยกว่า 5,000 บาท ให้แก่พรรคการเมือง ประจำเดือนเมษายน 2566 จำนวน 314 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 134,159,986 บาท
โดยมีพรรคการเมืองรายงานการรับบริจาค จำนวน 24 พรรคการเมือง รายละเอียด เช่น
1.พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2,000,000 บาท 2.พรรคก้าวไกล จำนวนเงิน 13,343.986 บาท ประโยชน์อื่นใด 244,000 รวม 13,587,986บาท 3.พรรคเพื่อไทย 20,000,000บาท 4.พรรคภูมิใจไทย 1,800,000 บาท 5.พรรคเสรีรวมไทย 10,950,000
6.พรรคพลังธรรมใหม่ 1,020,000บาท 7.พรรคกล้า 200,000 บาท 8.พรรคประชาชาติ 7,500,000 บาท ประโยชน์อื่นใด 1,000,000บาท รวม 8,500,000 บาท 9.พรรคพลังสยาม 3,000,000 บาท 10.พรรคประชาภิวัฒน์ 900,000บาท 11.พรรครวมไทยสร้างชาติ 6,600,000 บาท 12.พรรคเศรษฐกิจไทย 400,000 บาท 13.พรรคพลังปวงชนไทย 296,000 บาท 14.พรรคชาติไทยพัฒนา 8,000,000 บาท 15.พรรคทางเลือกใหม่ 410,000 บาท 16.พรรคชาติพัฒนากล้า7,000,000บาท 17.พรรครักษ์ธรรม 21,000บาท
ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.co.th. หรือ สอบถามบริการสายด่วน 1444
