“เศรษฐา” ลงพื้นมีที่ขอนแก่น เสื้อแดงแห่รับคับคั่ง
ที่ศาลหลักเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อติดตามสถานการณ์แก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคอีสาน
โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางมาถึง ไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และตัวแทนส่วนราชการ สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยและอดีตผู้สมัคร สส.รวมถึงสมาคมสตรีชาวอีสาน 20 จังหวัด ที่สวมเสื้อแดงมารอให้การต้อนรับนเศรษฐา พร้อมผูกผ้าขาวม้าตั้งแต่เอวสูงถึงหน้าอกและพูดคุย ถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิดและเข้าไปกอดให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งตะโกนว่า “นายกฯ เศรษฐาจะพาประชาชนเป็นเศรษฐี”
เศรษฐา และคณะจะเดินทางไปเยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์ และพบปะประชาชนที่อยู่ทั้งในพื้นที่ชลประทานและในพื้นที่นอกชลประทาน
เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญ พื้นที่ทำกิน และการบริหารจัดการน้ำส่วนราชการถึงสถานการณ์น้ำและมาตรการรับมือภัยแล้ง หลังพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนของปีนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมาถึงครึ่งหนึ่ง
กำหนดการนายกรัฐมนตรีในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรีจะออกเดินทางไปยังอเมือง จ.อุดรธานี เพื่อเข้ารับฟังความคืบหน้าโครงการมหกรรมพืชสวนโลก ที่ อ.เมืองจ.อุดรธานี
“เพื่อไทย” เลือก “ชัย วัชรงค์” เป็นโฆษกรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) กรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ชื่อโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีลงตัวแล้วคือ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์สมาชิกพรรค ที่มีส่วนร่วมในการร่างนโยบายด้านการเกษตร และเป็นคนมีภาพลักษณ์ดี มีความรู้ทางเศรษฐกิจ ไม่เป็นฝ่ายการเมืองที่ออกมาตอบโต้ประเด็นการเมืองมากจนเกินไป
ขณะที่ข้าราชการการเมืองในส่วนของพรรค พท.ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดสรรโดยส่วนใหญ่จะมอบตำแหน่งข้าราชการการเมืองให้กับอดีต ส.ส. หรือคนที่ทำงานร่วมกับพรรค พท.มานาน
เช่น ตำแหน่งรองเลขานายกรัฐมนตรี จะมี 3 คน คือ นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคม และ นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ
ขณะที่ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ อดีต ส.ส.หนองคาย มีชื่อเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากมีความชำนาญในเรื่องเศรษฐกิจ การค้า โดยจะไปช่วยงาน นายภูมิธรรม เวชยชัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุลรองเลขาธิการพรรค พท. มีชื่อเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เนื่องจากมีส่วนจัดทำนโยบายของพรรคในการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมถึงมีความรู้ ความสามารถด้านการเงิน โดยจะไปเสริมงานให้กับนายเศรษฐา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
“นายกฯรับปากพักหนี้เกษตรฯโดยเร็วที่สุด
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่าง ลงพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญ และการบริหารจัดการน้ำและปัญหาของเกษตรกร โดยยืนยันว่าในการประชุม ครม.นัดแรก จะหารือ มาตรการพักหนี้เกษตรกร แน่นอนเพื่อช่วยเหลือลดความเดือดร้อนเกษตรกร
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำและระบบชลประทานสำหรับเกษตรกรและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จากนั้นได้รับฟังปัญหาโดยตรงจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้สะท้อนปัญหาภัยแล้งจากผลกระทบของเอลนีโญ และเมื่อฝนตกก็ไม่มีแหล่งน้ำสำหรับเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะในลำน้ำสาขา รวมไปถึงการต่อยอดชลประทานระบบท่อ
ส่วนปัญหาของเกษตรกรซึ่งสะสมมานานโดยเฉพาะชาวนาผู้ปลูกข้าว ยังมีปัญหาเรื่องพันธุ์ข้าว ที่ขาดแคลนและขาดการพัฒนามายาวนาน รวมถึงปัญหาของพี่น้องเกษตรกร ที่ประสบกับปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ รายได้ของเกษตรกรรวมถึงเรี่องปัญหาหนี้สินที่รุมเร้ามานาน
โดยการเดินทางลงพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ ครั้งนี้ นายกฯ พร้อมคณะ ประกอบไปด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม , ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นายอนุชา นาคาสัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมไปถึง สส.ขอนแก่นและ สส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทยที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้
“อนุทิน” สั่งขึ้นบัญชีดำผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ ทองศรี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยพร้อมกล่าวและพบปะท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งระหว่างมอบนโยบายว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นเหตุให้มีเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ที่บ้านกำนันดัง นั้น ทุกคนก็เห็นและทราบดีว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น ต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้มีระบบเช่นนี้มาทำร้ายชีวิต ทำลายความเป็นอยู่ของประชาชน ลูกน้องผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งถือปืนเข้ามาสังหารประชาชนชาวบ้านหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
สิ่งเหล่านี้ภายใต้ความเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะพ่อเมืองจะปล่อยให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้เราต้องไปดูว่า คนเหล่านี้เข้ามาเป็นกำนัน มาเป็นหัวหน้าผู้นำมวลชนได้อย่างไร และจะปล่อยให้มวลชนเดินตามสไตล์คนเหล่านี้แล้วชุมชนและประเทศจะเป็นอย่างไร
เรื่องเหล่านี้ภายใต้การบริหารงานของพ่อเมืองจะยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศของเราหรือ เราต้องไปดู ไปขึ้นบัญชี ไปดูประวัติและดูพฤติกรรม ใครที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ จะมาเป็นผู้นำมวลชนไม่ได้
“จุรินทร์” วาง 15 ขุนพลวิพากษ์นโยบายรัฐบาล
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมตัวอภิปรายนโยบายรัฐบาลซึ่งจะมีการแถลงนโยบายวันที่11ก.ย.นี้ว่า ในส่วนของพรรคจะพูดทั้ง3ด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
ตอนนี้มีส.ส.แจ้งความจำนงจำนวน15คน โดยพรรคได้เวลาอภิปราย2ชั่วโมง15นาที ในการอภิปรายตนจะอภิปรายเป็นคนแรก เข้าใจว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตนน่าจะอภิปรายเป็นคนที่2ถัดจากพรรคก้าวไกล
นอกจากตนยังมีนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตประธานสภารวมถึงส.ส.ที่เหลือที่เตรียมการไว้
ยืนยันว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการทำหน้าที่ตรวจสอบนโยบายรัฐบาลแต่จะมีการอภิปราบแบบสร้างสรรค์และตรงไปตรงมาตามเนื้อผ้าของนโยบาย รวมถึงพร้อมให้คำเสนอแนะและคำคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามว่าจะเน้นอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอให้รอการอภิปรายจริง
ถามย้ำว่า ที่บอกว่าไม่ตรงปกมีเรื่องอะไรบ้าง รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หลายเรื่องบางเรื่องหาเสียงแต่กลับไม่มีในการแถลงนโยบาย ยืนยันว่าการอภิปรายจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ตรงไปตรงมา และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ลงคะแนนเสียง ยอมรับว่าเราได้เวลาอภิปรายที่ค่อนข้างจำกัดแต่จะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
ถามว่า การอภิปรายจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น เพราะที่ผ่านมามีส.ส.โหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรี รักษาการหัวหน้าพรรคกล่าวว่า เรื่องนี้ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นการสนับสนุนรัฐบาล การลงมติครั้งนั้นก็เป็นเรื่องการลงมติครั้งนั้น และเป็นเรื่องในพรรคที่ได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่การทำหน้าที่ถัดจากนี้ไปประชาธิปัตย์ ก็ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งตนก็ประกาศไปชัดเจน และเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ
