“เศรษฐา”ลงพื้นที่อีสานก่อนกำหนด รับรายงานน้ำท่วมกาฬสินธุ์
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า ผมเดินทางมาจังหวัดขอนแก่นก่อนกำหนด 1 วันครับ เหตุเพราะได้รับรายงานจาก ส.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่ามีฝนตกหนักในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวาน จนถึงวันนี้ ทำให้น้ำท่วมหนักใน 4 อำเภอ ของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะที่อำเภอ กุฉินารายณ์ ที่มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายหลายครัวเรือน ด้วยรู้สึกเป็นกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าวจึงตัดสินใจเดินทางด่วนมาก่อนกำหนด
มาถึงสนามบินขอนแก่น เกือบ 5 โมง ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มารายงานสถานการณ์ให้ทราบทันทีว่า ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายไปในทางที่ดีมากแล้ว ทำให้รู้สึกคลายกังวล แต่ก็อยากส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยทุกคน แม้ว่าขณะนี้รัฐบาลจะยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ แต่ผมอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวเร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา และคณะรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย ในวันที่ 8-9 ก.ย.นี้
“ธรรมนัส” สั่งการกรมชลฯเร่งแก้น้ำท่วมด่วน
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าตามที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยในเขตพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกุฉินารายณ์ เขาวง ห้วยผึ้ง นาคู และ สมเด็จ ทำให้ส่งผลกระทบต่อประประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งพื้นที่ทำการเกษตร ไร่นาถูกน้ำท่วมจำนวนมาก ขณะที่ถนนหนทางสัญจรไปมาด้วยความยากลำบากนั้น
ล่าสุดตนเองได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดโดยเฉพาะสำนักงานชลประทานที่ 6 ให้จัดเตรียมเครื่องจักร และเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือระบายน้ำอย่างเร่งด่วนแล้ว และให้เร่งลดระดับน้ำลำน้ำยัง ลงไปยังลำน้ำชี เพื่อให้สามารถรองรับที่อาจจะหลากล้นลงมาอีกหากมีปริมาณฝนตกหนักเพิ่มขึ้นมาอีก พร้อมกันนี้ให้รายงานสถานการณ์ทุกระยะ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้กำชับเร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนอย่างเร่งด่วนด้วย
นายกฯมีความเป็นห่วงประชาชนและพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างมาก ได้กำชับให้ทางกระทรวงเกษตรฯสั่งหน่วยงานในสังกัดช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนอย่างเต็มที่
“ป.ป.ช.” ยันหมายจับ “อิทธิพล” ไม่ขาดอายุความ ถ้าหนีต้องหนีตลอดชีวิต
นิวัติไชย เกษมมงคลเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีข้อวิจารณ์การทำงาน ป.ป.ช.ที่ดองคดีอิทธิพล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม ออกใบอนุญาตแก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด ก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ ที่เชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยมิชอบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา เป็นเหตุให้นายอิทธิพลหลบหนีคดี ทำให้คดีอาจหมดอายุความในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ว่า ยืนยันว่า ป.ป.ช.ไม่ได้ดองคดีดังกล่าว คดีนี้แม้จะมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นปี 2551 แต่ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องมาตรวจสอบเมื่อปี 2558 มีการรวบรวมหลักฐานต่างๆจนตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนปี 2563
นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่าที่อิทธิพลหลบหนีไปได้ คงเพราะรู้แกวว่า อัยการจะสั่งฟ้องนายอิทธิพลในวันที่ 30 ส.ค. ทำให้รีบหลบหนีไปต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ฝั่งอัยการทำหนังสือแนะนำมายังป.ป.ช.ให้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อหมายจับอิทธิพลใหม่นั้น ป.ป.ช.จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต ภาค 2 เพื่อขอออกหมายจับนายอิทธิพลรอบใหม่ โดยมีการระบุไปว่า ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หลบหนีคดี เพื่อให้เข้าข่ายกฎหมายใหม่ ป.ป.ช.ว่า หากผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีคดี ให้ถือว่าอายุความคดีสะดุดหยุดลง จนกว่าจะจับกุมตัวผู้ถูกกล่าวหาได้ ล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายจับใหม่ให้แล้ว ทำให้ตอนนี้ไม่มีเรื่องอายุความ 15ปี ที่จะหมดลงในวันที่ 10ก.ย.เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้คดีนายอิทธิพลในขณะนี้ไม่มีอายุความแล้ว
“เศรษฐา” เตรียมโรดโชว์ดึงลงทุน 18-24 ก.ย.
วันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สรัสนันท์ อรรณนพพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านนโยบายการต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย หารือกับนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เกี่ยวกับการเดินหน้าการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย
การลงทุนจากต่างประเทศและการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในไทย (FDI) ต้องใช้ระยะเวลานาน หากไม่เริ่มดำเนินการในวันนี้ จะเห็นผลต่อระบบเศรษฐกิจไทยในอีก 2-3 ปี จึงต้องเร่งทำงานทันที พร้อมทั้งต้องเร่งเตรียมการเดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา วันที่ 18-24 กันยายน 2566 กับบีโอไอ
ซึ่งต้องพบปะกับนักธุรกิจจากหลากหลายประเทศ วันนี้ทางบีโอไอเข้ามาให้ข้อมูลเพื่อจะได้เร่งเดินหน้าผลักดันและส่งเสริมการลงทุนในไทย ยืนยันว่าโครงการใดที่มีประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม จะผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการรอพิจารณาจะรับฟังข้อมูลต่อเนื่องเพื่อทำงานร่วมกันต่อไป
“รทสช.”วาง 3 ขุนพลอภิปรายนโยบายรัฐบาล
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการสานงานงานพรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสภา (วิป 3 ฝ่าย) ว่า ได้ประชุมร่วมวิป 3 ฝ่ายว่า ในส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะได้เวลาอภิปรายในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลรวม 5 ชั่วโมง เพื่อให้ไปบริหารเวลากันเองในพรรคร่วมรัฐบาล โดยในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติได้เวลามา 30 นาที
ทั้งนี้สุพัฒนพงษ์ พันธุมีเชาว์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานสส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้นัดสส.ของพรรคประชุมในเช้าวันที่ 11 กันยายน เวลา 08.00-09.00 น.เพื่อเตรียมความพร้อมครั้งสุดท้ายก่อนจะร่วมอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยเบื้องต้นได้กำหนดผู้อภิปรายไว้ 3 คน ใช้เวลารวมกันประมาณครึ่งชั่วโมง
เนื้อหาที่อภิปรายจะเน้นมุมมองด้านเศรษฐกิจ พลังงาน และอุตสาหกรรม ตามที่พรรคได้รับมอบหมายมีรัฐมนตรีเข้าไปดำรงตำแหน่ง การอภิปรายครั้งนี้ยืนยันว่าจะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลเพื่อนำไปบริหารประเทศชาติ
