“เศรษฐา” ควักเงินเองออกรถป้ายแดงใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลา 10.35 น. ด้วยรถยนต์ยี่ห้อ Lexus LM 350h Executive หมายเลขทะเบียน ถ 6506 กรุงเทพมหานครเพื่อนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ที่พระที่นั่งอัมพรสถานในเวลา 14.00น.
โดยรถรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ในราคา 7,590,000 บาท และเศรษฐาซื้อรถคันนี้ด้วยเงินส่วนตัวเพื่อใช้เป็นรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
โดยภายในออกมาอย่างพรีเมียมสมกับระดับ VVIP ด้วยเบาะที่นั่งพิเศษคาบิน เลานจ์ (Cabin Lounge) หรือห้องโดยสารเดียวกับระดับเฟิสต์คลาสจำนวน 2 ที่นั่ง พร้อมผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวในระหว่างการเดินทางภายในห้องโดยสารติดตั้งกระจกปรับความเข้มแสงอัจฉริยะ และที่สำคัญมาพร้อมหน้าจอขนาด 48 นิ้ว พร้อมระบบเครื่องเสียงชั้นเลิศจาก Mark Levinson Reference 3D Surround Sound System และหน้าจอควบคุม ไปจนถึงที่เก็บไวน์ภายในด้วย
ทันทีที่มาถึง นายกฯได้ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนจะเดินลงมาผ่านทางเชื่อมเพื่อไปถ่ายภาพทำบัตรประจำตัวที่ตึกสันติไมตรี โดยนายกฯ อารมณ์ดี ทักทายสื่อมวลชน และหยุดให้สื่อมวลชนถ่ายภาพอย่างเป็นกันเอง
“ก้าวไกล” ยังไม่ตัดสินใจผู้นำฝ่ายค้าน รอศาลรธน.ตัดสิน “พิธา”
วันนี้ (5ก.ย.) ที่พรรคก้าวไกล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ก้าวไกล เพื่อเตรียมอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ที่จะมีการแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 ก.ย.นี้
โดยชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน หลังเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล โพสต์ข้อความระบุว่า ยังไม่มีผู้ใดมีคุณสมบัติเลย นายชัยธวัช กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นไปตามนั้น วานนี้ได้มีการหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ นอกรอบ เห็นตรงกันว่า หากดูตามรัฐธรรมนูญจะไม่มีการไหลไปพรรคลำดับรอง เพราะจะกลายเป็นไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ส่วนของพรรคก้าวไกลจะรอก่อน
ส่วนการคัดเลือกบุคคลเป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ที่ยังมีปัญหาการจัดสรรไม่ลงตัว ใน 2 เก้าอี้สำคัญที่ฝ่ายค้านต้องการ คือ กมธ.การศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ และ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ว่า ตอนนี้ยังมีปัญหาที่กรรมาธิการ ป.ป.ช.
“เสริมศักดิ์” พร้อมดันนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ว่าก่อนถ่ายบัตรประจำตัวรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า ไม่ได้ เข้าทำเนียบรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2557 วันที่ 6 ก.ย. หลังประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เสร็จแล้วจะเข้าทำงานที่กระทรวงวัฒนธรรม ส่วนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ถือเป็นเรื่องนโยบายที่ทำให้พี่น้องอยู่ดีมีสุข
ทั้งนี้กระทรวงวัฒนธรรมจากนี้จะเน้นด้านเศรษฐกิจตามนโยบายหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ ทำงานควบคู่ไปกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาและอีกหลายหลายกระทรวง
ส่วนกรณีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ออกประกาศ เรื่องผลการคัดเลือกกิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องจากบางเมนูคนในพื้นที่ไม่รู้นั้น ตรงนี้จะมีการปรับปรุงและประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น พร้อมกันนี้จะมีการนำนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลเดิมมาศึกษาด้วย ถ้าวางแนวทางไว้ดีแล้วก็จะไปต่อยอด
“ปิยบุตร” จับตา “เศรษฐา” ถวายสัตย์กล่าวถ้อยคำครบถ้วนหรือไม่
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการถวายสัตย์ปฏิญาณของรัฐมนตรี ในคณะรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า วันนี้ 5 ก.ย. เวลา 14.00 นายเศรษฐา ทวีสิน จะนำรัฐมนตรีทั้งคณะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 ซึ่งบัญญัติว่า “ก่อนเข้ารับหน้าที่ รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำ ดังต่อไปนี้
“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
การถวายสัตย์ปฏิญาณนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนกล่าวถ้อยคำนำ โดยอ่านตามข้อความที่ปรากฏในมาตรา 161 โดยเมื่อ 4 ปีก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณ ด้วยข้อความที่ไม่ครบถ้วน ขาดคำว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
“ลูกท็อป” ขอพรแม่ – พี่สาว ก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี
วันนี้ (5 ก.ย.)วราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้เดินทางไปยังบ้านศิลปอาชา ย่านจรัญสนิทวงศ์ เพื่อนำพวงมาลัยไปไหว้ขอพรคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา มารดา และ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา พี่สาว เนื่องในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยคุณหญิงแจ่มใส กล่าวให้พรกับนายวราวุธ ให้มีสติปัญญาในการทำงาน ให้เจริญในหน้าที่การงาน ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน อายุมั่นขวัญยืนให้มีตำแหน่งสูงขึ้นๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง
ขณะที่นางสาวกัญจนา อวยพรว่า ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีสติปัญญาเฉียบแหลม สามารถทำการงาน ทั้งทางการเมืองและทุกด้านให้สำเร็จลุล่วงทุกอย่าง ขอให้เจริญก้าวหน้าในเส้นทางทางการเมืองอย่างไร้อุปสรรค หรือถ้ามีอุปสรรคก็เอาชนะได้หมดทุกอย่าง ให้มีผู้สนับสนุนค้ำจุนที่เข้มแข็ง ไม่ว่าจะทำงานตรงจุดไหนให้ได้รับความร่วมมืออย่างดี สำเร็จลุล่วงทุกเป้าหมาย ให้ประทับใจคนทั่วไป
