“นิติบัญญัติ” ได้คีย์แมน ครบ ประธานสภาฯ – รองสภาฯ
ทีประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 4 ก.ค.มีวาระสำคัญในการโหวตเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯคนที่ 1 และ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันมาอย่างยาวนานของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยในขั้นตอนการเลือกวันนี้ประธานในที่ประชุมสภาฯทำหน้าที่โดย พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งอายุมากที่สุด เป็นประธานชั่วคราว จากนั้นได้มีการเสนอชื่อประธานสภา
โดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอชื่อวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ โดยไม่มีส.ส.คนใดเสนอชื่อบุคคลอื่นทำให้วันมูหะมัดนอร์ เป็นประธานสภาฯ ส่วนรองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นการเสนอชื่อแข่งกันระหว่าง ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้ต้องมีการลงคะแนนเป็นความลับแข่งกัน ผลคือปดิพัทธ์ ได้รับการเลือกด้วยคะแนน 312 ต่อ 105 งดออกเสียง 77 เสียง และบัตรเสีย 2 เสียง สำหรับรองประธานสภาฯคนที่ 2 พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เสนอ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 2 ซึ่งที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่มีใครเสนอชื่อเข้าชิง ทำให้ประธานประกาศสรุป ให้นายพิเชษฐ์ เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 2
“พิธา”ลั่น “ก้าวไกล” รุกได้ ถอยเป็น โว เสียง ส.ว.เลือกนายกฯ สัญญาณดีขึ้น
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกลยอมเสนอชื่อให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติเป็นประธานสภาฯ ตามข้อเสนอร่วมกันของพรรคเพื่อไทยนั้นเพื่อเป็นการรักษาเอกภาพ และมิตรภาพของ 8 พรรคร่วม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและเป็นเป้าหมายที่ใหญ่กว่า แสดงให้เห็นถึงความหนักแน่นและคงเส้นคงวาของพรรคก้าวไกลที่เห็นว่าหลักการสำคัญกว่าบุคคล และจากการคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็รับหลักการทุกอย่างในการบริหารสภาฯ ให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเพื่อประชาชน
เพราะมีกฎหมายสำคัญ อาทิ ยาเสพติด และข้อตกลง 4 ข้อ คิดว่าหลักการสำคัญกว่าบุคคลที่ต้องทำกันในสภาฯ เมื่อถามถึงกรณีการรวมเสียง ส.ว. ในการเลือกนายรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลได้เสียงเท่าใดแล้ว นายพิธา กล่าวว่า ต้องรอดูเวลาใกล้ลงมติเลือกนายกฯ ซึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยการเดินหน้าทางการเมืองครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณภาวะที่ดีว่ารุกได้ ถอยเป็น รักษาเอกภาพ เพื่อให้ได้เป้าหมายที่ใหญ่กว่า แสดงให้เห็นว่าผู้นำคนนี้ก็เข้าใจว่าเมื่อเวลารุกต้องรุกให้สุด ถ้าถอยก็ต้องไม่เสียหลักการและได้ในสิ่งที่ต้องการเห็นคือความก้าวหน้าของสภาฯ และเจตจำนงของประชาชนเป็นที่ตั้ง ก็น่าจะเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างให้ ส.ว.ได้เห็น อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้องมองไกล แต่ปฏิบัติก็วันต่อวัน
“วิษณุ” ชี้ ไม่ง่ายเสนอแก้กฎหมายปฏิรูปกองทัพ – กฎอัยการศึก
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีแถลงการณ์ร่วมพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เห็นชอบร่วมกันแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ร่างพ.ร.บ.กฎอัยการศึก และร่างพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สามารถแก้ไขได้เลยหรือไม่ ว่า เมื่อเขาเป็นรัฐบาลก็สามารถทำได้ โดยเสนอกฎหมายเป็นฉบับแรกๆ ก็สามารถทำได้ แต่มันคงไม่ง่าย เพราะกฎหมายต้องผ่านส.ว.ด้วย ส่วนกระแสข่าวว่าจะยุบกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นายวิษณุ กล่าวว่าสามารถทำได้ทั้งนั้น
ทั้งนี้กฎหมายกอ.รมน. และร่างกฎหมายกฎอัยการศึก และร่างกฎหมายจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม เสนอได้ เสนอแก้รัฐธรรมนูญยังได้เลย ส่วนการเสนอให้แก้ร่าง พ.ร.บ. จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม เหมือนจะไม่อยากให้มีคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร (บอร์ด 7 เสือ) นายวิษณุ กล่าวว่า เรายังไม่รู้ ไม่เห็นว่าเขาจะเสนอแก้อย่างไร ส่วนเป็นไปได้หรือไม่หากมีการแก้ไขจะทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารและตำรวจ ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายวิษณุ กล่าว่า เมื่อสมัยโบราณก็เคยมีการนำเข้าครม.แต่ตอนหลังก็มีการแก้ไขให้กลับไป ไม่ต้องเข้าครม.แล้ว เหตุผลเพราะต้องการป้องกันการเมืองเข้าไปเปลี่ยนแปลง เมื่อถามว่าหากมีการปรับแก้กฎหมายดังกล่าวจะถูกสกัดหรือไม่ นายวิษณุตอบว่าไม่ทราบ เพราะในวุฒิสภาก็มีทหารและตำรวจเยอะมีคนรู้เรื่องและดูแลความมั่นคงเยอะ แม้แต่ทางสภาฯยังไม่รู้จะผ่านหรือไม่ ทั้งนี้ เขามีสิทธิเสนออยู่แล้ว
“ประยุทธ์” บอก “No politic” ไม่พูดการเมือง หลังได้ประธานสภาฯ
ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาลในวันประชุมสภาฯเพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีกำหนดการพบ แลโอวาท เยาวชนในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แจกลายเซ็นบนเสื้อแจ็คเก็ตสีขาวของเยาวชนและครอบครัว ที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นที่ระลึก โดยพูดคุยอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะพากลุ่มเยาวชน และผู้ปกครองเยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามความเห็นนายกรัฐมนตรี หลังจากมีความเคลื่อนไหวที่สภาฯเกี่ยวกับผลการโหวตประธานสภาฯ แต่พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยพูดเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ ว่า “No politic”
“สุดารัตน์” ย้ำจุดยืน ไขก๊อก “ส.ส.” ลงพื้นที่ทำงานให้ชาวบ้าน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยเปิดเผยว่าดีใจที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล สามารถตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ได้ หลังเสนอชื่อ วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะตำแหน่งประธานสภาถือเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญ พรรคไทยสร้างไทยก็ดีใจที่มีข้อยุติที่เป็นบวก และเป็นประโยชน์ต่อการเดินหน้าประชาธิปไตย ที่ประชาชนฝากความหวังไว้
โดยไม่อยากให้มีเรื่องอะไรให้ประชาชนผิดหวังอีกอยากให้คิดถึงความคาดหวังและประโยชน์ของประชาชน มากกว่าตำแหน่งของแต่ละพรรค สำหรับจุดยืนทางการเมืองว่ายังจะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.หรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่ายังยึดจุดยืนเดิมการตัดสินใจของตนจะดีต่อส่วนร่วมเพราะตนอยากทำหน้าที่แก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ไม่มีตำแหน่งก็ลงพื้นที่ทำงานให้ชาวบ้าน
