ไปรษณีย์ไทยเปิดตัว “พาร์ทเนอร์แอทโพสต์” ตัวช่วยเสริมธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ส่งเสริมธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ด้วยการเปิดตัว Partner@Post ตัวช่วยจัดการธุรกิจออนไลน์แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การนัดหมายบริการรับฝากส่งสิ่งของนอกสถานที่ฟรีหรือ Pick up Service ดูแลหลังบ้านเรื่องการขนส่งโดยที่ทำการไปรษณีย์ในพื้นที่

การนำระบบช่วยจัดการไลฟ์สดขายของ รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ร้านที่ต้องการพื้นที่ในการบริหารจัดการเก็บ แพ็ก ส่งสินค้าแบบเบ็ดเสร็จ ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์และให้ลูกค้าเลือกได้ให้ตรงตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ พร้อมช่วยประหยัดต้นทุนในการทำการค้า

นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทุกคนต้องเผชิญตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทยได้ตื่นตัวในการรับมือกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

จากการซื้อของผ่านหน้าร้านมาเป็นช็อปสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการมีการปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์ม e-Commerce เกือบ 100% โดยรูปแบบการส่งของพ่อค้าแม่ค้าที่เปลี่ยนไป ด้วยปริมาณออเดอร์สินค้าที่มีจำนวนมากขึ้น ไปรษณีย์ไทยจึงวางรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับกลุ่มผู้ค้าที่ส่งของจำนวนมากโดยเฉพาะ

ภายใต้การให้บริการในรูปแบบ “Partner@Post” ซึ่งถือเป็นรูปแบบการให้บริการที่มีความพิเศษที่ลูกค้าแต่ละรายสามารถเลือกใช้บริการได้ตรงตามความต้องการของธุรกิจตนเอง การสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยการเก็บเงินปลายทางแบบ COD การนำระบบช่วยจัดการ Live ขายของ

อาทิ Proship Vrich เข้ามาเป็นตัวช่วยแม่ค้าไลฟ์สดสร้างใบจ่าหน้าได้ทันที รวมทั้งร้านที่ต้องการพื้นที่ในการบริหารจัดการเก็บ แพ็ก ส่งสินค้าให้แบบเบ็ดเสร็จ ไปรษณีย์ไทยก็มีบริการ Fulfillment เป็นคลังสินค้าครบวงจร ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กอย่าง SMEs เติบโต และเป็นส่วนช่วยผลักดันกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นได้

สำหรับในปี 2021 ยังคงเป็นปีแห่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจขนส่งยังคงเป็นพื้นฐานสำคัญในการรองรับการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ไปรษณีย์ไทยเข้าใจถึงขั้นตอนการทำธุรกิจของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ซึ่งกว่าจะได้กำไรนั้นต้องผ่านขั้นตอนมากมาย

และบางขั้นตอนไม่ได้ก่อให้เกิดมูลค่าแถมต้องใช้เวลามาก อาทิ การเดินทางไปส่งของที่ทำการไปรษณีย์ที่ต้องฝ่ารถติดและต้องรอคิวเป็นเวลาหลายชั่วโมง การต้องมานั่งเขียนหรือพิมพ์จ่าหน้าชื่อที่อยู่ของทั้งผู้ส่งและผู้รับเอง หรือเมื่อออเดอร์มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีสถานที่เก็บของ ไม่มีคนช่วยห่อช่วยแพ็ก ดังนั้นหากสามารถลดขั้นตอนเหล่านี้ได้ เท่ากับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะได้ใช้เวลาที่จะไปบริหารธุรกิจ หรือโปรโมตสินค้าของตัวเองได้มากขึ้น