การกู้ยืมของ รัฐบาลอังกฤษ พอกพูนขึ้นเมื่อเดือนก.พ. เหตุต้องนำเงินมาใช้ในมาตรการพยุงเศรษฐกิจฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด-19
สำนักงานสถิติของอังกฤษ ระบุว่า การกู้ยืมเมื่อเดือนที่แล้ว ขึ้นถึง 19,100 ล้านปอนด์ (821,000 ล้านบาท) ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์สำหรับช่วงเดือนก.พ. และเทียบกับเมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ตัวเลขการกู้ยืมอยู่ที่ 1,600 ล้านปอนด์ ก่อนเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่
สำนักงานสถิติชี้ว่า โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพเศรษฐกิจ และการกู้ยืม รวมถึงหนี้สินภาครัฐ
ทั้งนี้ รัฐบาลต้องอาศัยการกู้ยืม เพราะรายรับจากภาษีลดฮวบในช่วงล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาด
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ทุ่มเงิน 352,000 ล้านปอนด์ (15,000,000 ล้านบาท) ไปกับการจัดทำมาตรการฉุกเฉินต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการจ่ายเงินเยียวยาและช่วยเหลือค่าจ้างให้แก่ภาคเอกชน เพื่อให้มีการจ้างงานคนอังกฤษหลายล้านคน
ปัจจุบันหนี้สินโดยรวมของอังกฤษอยู่ที่ 2.13 ล้านล้านปอนด์ (90 ล้านล้านบาท) หรือเท่ากับ 97.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศอังกฤษ อันเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ทศวรรษ 1960
รัฐมนตรีคลังอังกฤษระบุว่า โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะช็อกมากที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ จนทางการต้องรับมือด้วยมาตรการขนานใหญ่ เพื่อปกป้องชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจมีแนวโน้มของการปรับขึ้นภาษีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อนำเงินมาอุดหนุนมาตรการเหล่านี้ โดยมีแผนการปรับขึ้นภาษีกำไรภาคธุรกิจเป็น 25% ภายในปี 2566 จาก 19% ในปัจจุบัน
อ่าน : อียู ขู่แบนส่งออกวัคซีนไปอังกฤษ หลังเจอโควิดระลอก 3