ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทรถยนต์ BMW เปิดเผยว่าบริษัทได้วางแผนการก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเหมาะสม และผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของบริษัทจะพลิกความคาดหมายและความคิดที่ทุกคนมองว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันล้าหลังกว่าค่ายรถยนต์อื่นๆ ในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในอนาคตของ BMW อาจผลักดันให้หุ้นของบริษัทสามารถแข่งขันเทียบเคียงกับหุ้นของบริษัท Tesla ได้
นายโอลิเวอร์ ซิปส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท BMW ระบุว่าในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่าง ๆ แข่งขันกันพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างหนักท่ามกลางกระแสการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานสำคัญในยุโรปและประเทศจีน บริษัท BMW กำลังรอเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าได้รับความนิยมอย่างสูงเพียงพอ โดยบริษัทคาดว่าภายในปี 2573 ยอดขายรถยนต์ครึ่งหนึ่งจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ปัจจุบันบริษัท BMW ยังคงผลิตรถยนต์แบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน รวมทั้งผลิตรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยอาศัยแพลตฟอร์มการผลิตเดียวกัน และบริษัทยังไม่มีแผนที่จะสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2568 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญและนักวิจารณ์มองว่าการใช้แพลตฟอร์มร่วมกันในการผลิตรถยนต์ทั้งสามประเภทจะทำให้บริษัทต้องลดคุณภาพและประสิทธิภาพของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าลง ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BMW อธิบายเพิ่มเติมว่าการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยใช้แพลตฟอร์มโดยเฉพาะทำให้ได้รถยนต์ที่ออกมาหน้าตาคล้ายคลึงกัน แต่รถยนต์ BMW มีจุดยืนที่แตกต่างและชัดเจนที่ต้องการส่งมอบรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์ไม่ซ้ำใครให้กับลูกค้าที่มีความสามารถในการจับจ่ายเท่านั้น
นายโอลิเวอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่าบริษัท BMW คาดว่าสหภาพยุโรปจะรักษาความเข้มงวดของเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับปี 2573 แต่ไม่ควรเร่งดำเนินการตามมาตรฐานไอเสียยูโรตามข้อเสนอ Euro 7 ซึ่งกำหนดไม่ให้มีการปล่อยสารก่อมลพิษ เช่น ก๊าซไนตรัสออกไซด์และอนุภาคขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อปอด ซึ่งมีกำหนดภายในปีนี้ เนื่องจากบริษัท BMW มีความเห็นว่าการพัฒนาเครื่องยนต์ระบบสันดาปภายในเพิ่มเติมจะช่วยลดมลพิษและช่วยให้แต่ละประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษและการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศของโลกได้เช่นเดียวกัน
อ่าน : บีเอ็มดับเบิลยู เล็งลงทุนขึ้นไลน์ผลิตกลุ่มรถสมรรถนะสูงในไทยย้ำฐานผลิตสำคัญ