ChargePoint Inc ผู้ให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์พลังไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของโลก เล็งระดมทุนด้วยการควบรวมกิจการกับ Switchback Energy Acquisition ในข้อตกลงมูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์
ChargePoint Inc ผู้ให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์พลังไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก จะระดมทุนด้วยการควบรวมกิจการแบบ reverse-merger (การที่บริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์เข้าทำธุรกรรมซื้อขายสินทรัพย์กับบริษัทจดทะเบียนในตลาด ส่งผลให้บริษัทที่อยู่นอกตลาดสามารถสวมสิทธิความเป็นบริษัทจดทะเบียนได้) กับ Switchback Energy Acquisition Corp ในข้อตกลงมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์
คาดว่าข้อตกลงจะแล้วเสร็จประมาณปลายปีนี้ และบริษัทจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อ ChargePoint Holdings พร้อมเข้าซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก
Switchback เป็นบริษัทประเภท SPAC (special-purpose acquisition company) ที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบรวมกับกิจการอื่น บริษัทระดมทุนได้ 300 ล้านดอลลาร์ในการนำหุ้นออกขายแก่สาธารณชนเมื่อปีที่แล้ว ซีอีโอของบริษัทระบุว่าอุตสาหกรรมชาร์จรถ EV กำลังเดินหน้า และคาดว่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จจะมีมูลค่า 190,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปีข้างหน้า ทางบริษัทเชื่อว่า ChargePoint จะขยายตัวได้ต่อเนื่องในฐานะผู้นำตลาด แม้คาดว่ารายได้ปีนี้จะลดลงเพราะยอดขายรถ EV ชะลอตัวเนื่องจากโควิด-19 ก็ตาม
ข้อตกลงนี้จะทำให้ ChargePoint ได้ทุนมาเกือบ 500 ล้านดอลลาร์และนำไปใช้ขยายธุรกิจในอเมริกาเหนือกับยุโรป
SPAC เป็นทางลัดเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะสตาร์ทอัพเทคโนโลยียานยนต์ บริษัท EV รายอื่นที่ใช้ข้อตกลง SPAC รวมถึง Fisker, Lordstown Motors, Canoo และ Nikola ซึ่งรายหลังสุดเป็นสตาร์ทอัพยานยนต์ไฟฟ้าและรถเซลล์เชื้อเพลิง ที่กำลังตกเป็นข่าวจนผู้ก่อตั้งประกาศลาออก
ChargePoint ดำเนินการเครือข่ายสถานีชาร์จมากกว่า 100,000 แห่งทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกาเหนือ แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของเอง บริษัทเคยระดมทุนได้กว่า 600 ล้านดอลลาร์หลังจากก่อตั้งที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2550 และสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนรายใหญ่ อย่างเดมเลอร์ บีเอ็มดับเบิลยู ซีเมนส์ รวมถึงบริษัทพลังงานสหรัฐ อย่างเชฟรอน
เมื่อปีที่แล้วบริษัทมีรายได้ 147 ล้านดอลลาร์และคาดว่าจะเพิ่มเป็นกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ใน 6 ปีข้างหน้า พร้อมคาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 86 ล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีหน้า จากขาดทุนสุทธิ 133 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว