เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐได้อนุมัติยืดเวลาการจัดการเกี่ยวกับการขายหุ้นของ TikTok แอปแชร์วิดีโอของบริษัท ByteDance ออกไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นการเลื่อนแผนความพยายามของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะบีบให้บริษัทเจ้าของโซเชียลมีเดียแอปชื่อดังกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของธุรกิจอเมริกัน
คณะกรรมการการลงทุนของต่างชาติในสหรัฐ (Committee on Foreign Investment in The United States) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ดูแลเกี่ยวกับธุรกิจร่วมค้าหรือการควบรวมกิจการกับบริษัทต่างชาติได้อนุมัติยืดเวลาการจัดการดังกล่าวออกไปจากเดิมคือวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 เป็นวันที่ 4 ธันวาคม 2563 เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัท ByteDance ได้ทบทวนและปรับปรุงข้อเสนอที่เคยยื่นให้กับ CFIUS ก่อนหน้านี้
อ่าน : TikTok ขอเลื่อนนัดถอนการลงทุนจากสหรัฐ
การท้าทายทางด้านกฎหมายจากทั้ง ByteDance และหน่วยงานด้านความยุติธรรมต่อความพยายามของรัฐบาลสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้แอป TikTok ขายกิจการในสหรัฐให้กับบริษัทสัญชาติอเมริกันเข้าครอบครองหรือไม่ก็ต้องถูกเนรเทศออกจากสหรัฐอเมริกา ทำให้ฝ่ายรัฐบาลสหรัฐเข้าข่ายถึงทางตันอยู่ในขณะนี้
เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ได้ออกแถลงการณ์ว่ากระทรวงฯ อาจไม่สามารถบังคับใช้คำสั่งขัดขวางไม่ให้บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือผู้ให้บริการส่งคอนเทนต์ให้บริการต่อแอป TikTok ซึ่งเท่ากับเป็นการบีบให้ TikTok ไม่สามารถให้บริการหรือต้องยุติการให้บริการในสหรัฐต่อไปได้ เนื่องจากยังติดขัดในเรื่องของผลของการต่อสู้คดีอยู่
ในการแถลงการณ์ข้างต้น กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐยังได้อ้างถึงคำสั่งเบื้องต้นของผู้พิพากษาเวนดี้ บีเทิลสโตน แห่งรัฐฟิลาเดลเฟียเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งออกมายืนยันคัดค้านการสั่งปิดแอป TikTok ตามที่มีผู้มีชื่อเสียงที่ใช้งาน TikTok เป็นผู้ยื่นฟ้องในคดีที่เกี่ยวข้องสามราย ได้แก่ นักแสดงตลก ดั๊กลาส มาร์แลนด์ กูรูด้านแฟชั่น คอร์เซ็ตต์ รินับ และนักดนตรี อเล็กซ์ เชมเบอร์ส ซึ่งสุดท้ายแล้วกระทรวงยุติธรรมได้ยื่นอุทธรณ์ในกรณีดังกล่าว
นอกจากคดีความที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว TikTok ยังได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลอุทธรณ์ของสหรัฐ ในกรณีที่คณะกรรมการการลงทุนของต่างชาติในสหรัฐ และประธานาธิบดีทรัมป์ มีคำสั่งให้บริษัท ByteDance ขายแอป TikTok ให้ธุรกิจสัญชาติอเมริกันด้วย