ธนาคารกลางจีนนำโด่งทั่วโลก ซื้อทองมากสุดช่วง 9 เดือนแรก
ธนาคารกลางจีนนำโด่งทั่วโลก เข้าซื้อทองคำในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ในช่วงที่ประเทศต่างๆ หาแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและลดการพึ่งพาเงินสกุลดอลลาร์ โดยสภาทองคำโลกรายงานว่าธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ซื้อทองคำ 800 ตันในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้น ประกอบกับค่าเงินที่อ่อนค่าลงในหลายตลาด จุดชนวนการเข้าซื้อทองคำอันเป็นแหล่งลงทุนที่มั่นคง นอกจากนั้น ธนาคารกลางของหลายประเทศยังเข้าซื้อทอง เพราะต้องการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในทุนสำรอง
จีนโดดเด่นเรื่องของการซื้อทองคำในปีนี้ โดยรายงานระบุว่าธนาคารกลางจีนซื้อทองเพิ่ม 181 ตัน เป็น 2,192 ตัน หรือคิดเป็น 4% ของทุนสำรอง ธนาคารกลางโปแลนด์ซื้อทอง 57 ตัน รวมเป็น 105 ตัน ส่วนธนาคารกลางสิงคโปร์ซื้อ 75 ตันในปีนี้
นักวิเคราะห์แห่งสภาทองคำโลก คาดว่าการเช้าซื้อทองคำของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ในปีนี้ จะอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางกระแสวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
มาเลเซียตั้งเป้าดึงต่างชาติ ลงทุนอุตสาหกรรม EV
ตนกู ซาฟรูล อาซิซ รัฐมนตรีการค้าและการลงทุนของมาเลเซีย กล่าวว่ามาเลเซียกำลังเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV), เซมิคอนดักเตอร์ รวมทั้งเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน
ตนกู ซาฟรูล กล่าวว่า ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์นั้น มาเลเซียต้องการพัฒนาไปมากกว่าการประกอบและทดสอบ เพื่อเข้าสู่การออกแบบวงจรรวมและการผลิตแผ่นเวเฟอร์ ขณะเดียวกัน มาเลเซียกำลังดึงดูดให้ต่างชาติเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ปิโตรเคมี เศรษฐกิจดิจิทัล และเวชภัณฑ์
ตนกู ซาฟรูล เผยว่าจะพบปะกับนักลงทุนที่มีศักยภาพในสหรัฐสัปดาห์หน้า ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ที่นครซานฟรานซิสโก ระหว่างวันที่ 11-17 พ.ย.
ผู้ก่อตั้ง FTX ถูกตัดสินผิด 7 กระทงรวด อาจเจอคุก 115 ปี
คณะลูกขุนสหรัฐตัดสินว่า นายแซม แบงก์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้งบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) มีความผิดในข้อหาอาญาทั้ง 7 กระทงที่ถูกกล่าวหา และอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 115 ปี
นายแบงก์แมน-ฟรีด วัย 31 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์, สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ต่อลูกค้าของ FTX และต่อบริษัทอลาเมดา รีเสิร์ช, สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงหลักทรัพย์, สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงสินค้าโภคภัณฑ์ต่อนักลงทุน FTX และสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน
นายแบงก์แมน-ฟรีด ให้การปฏิเสธทุกข้อหา ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการล่มสลายของ FTX และกองทุนบริหารความเสี่ยง อลาเมดา เมื่อปีที่แล้ว
อัยการเขตนิวยอร์กใต้ระบุว่านายแซม แบงก์แมน-ฟรีด กระทำการฉ้อโกงทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา แม้อุตสาหกรรมคริปโตอาจเป็นของใหม่ และตัวละครอย่างแซม แบงก์แมน-ฟรีด อาจเป็นตัวละครใหม่ แต่การฉ้อโกงแบบนี้เป็นของเก่า ซึ่งใช้วิธีการโกหก โกง และขโมย
ทั้งนี้ ประเด็นหลักที่คณะลูกขุนพิจารณา คือนายแบงก์แมน-ฟรีดมีเจตนากระทำความผิดทางอาญาหรือไม่ในการยักยอกเงินของลูกค้า FTX และใช้เงินนั้นเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์, นำเงินไปร่วมลงทุน, ให้การสนับสนุนธุรกิจ, บริจาคทางการเมือง และเพื่อชดเชยการขาดทุนของอลาเมดา รีเสิร์ช
สายการบินเอเชีย ติดโผเป็นมิตรกับครอบครัวมากสุด
บรรดาสายการบินจากเอเชีย ติดโผสายการบินที่เป็นมิตรกับครอบครัวมากที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของเดอะ แฟมิลี เวเคชัน ไกด์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยว โดยสายการบิน 8 แห่งจาก 11 แห่งที่ได้อันดับสูงสุด อยู่ในภูมิภาคเอเชีย
การจัดอันดับดังกล่าวอิงตามปัจจัย 8 ประการ เช่น ความสะดวกสบายของที่นั่ง การเลือกที่นั่งฟรี และการให้สิทธิ์ผู้โดยสารที่มาเป็นครอบครัวขึ้นเครื่องบินก่อน โดยมีคะแนนเต็ม 18 คะแนน
สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ของญี่ปุ่น ได้คะแนนสูงสุดที่ 15 คะแนน ซึ่งเสียคะแนนไปเพราะการเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่อุ้มทารกบนเที่ยวบิน ส่วนสายการบินโคเรียน แอร์ของเกาหลีใต้และไห่หนาน แอร์ไลน์ของจีน ติดอันดับ 2 คู่กัน
อันดับ 4 เป็นสายการแควนตัส กับไชนา เซาเทิร์น แอร์ไลน์ และสิงคโปร์ แอร์ไลน์ อันดับ 7 เป็นของไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์, อีวีเอ แอร์ และฮาวายเอียน แอร์ไลน์ ส่วนอันดับ 10 เป็นของลุฟท์ฮันซ่าและเอเอ็นเอ ออล นิปปอน แอร์เวย์
สตาร์บัคส์ลุยขยาย 17,000 สาขาทั่วโลก ภายใน 7 ปี
บริษัทสตาร์บัคส์ ซึ่งเป็นธุรกิจร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประกาศแผนขยายสาขาทั่วโลกเพิ่มอีก 17,000 สาขา เป็น 55,000 สาขาภายในปี 2573 จากปัจจุบันที่มีสาขาทั่วโลกประมาณ 38,000 สาขา
นอกจากนี้ นายไมเคิล คอนเวย์ ประธานฝ่ายพัฒนาช่องทางการจำหน่ายระหว่างประเทศของสตาร์บัคส์ ได้ประกาศแผนการลดต้นทุนมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยการปรับปรุงร้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะช่วยประหยัดต้นทุน 1,000 ล้านดอลลาร์