การประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) เป็นการประชุมประจำปีว่าด้วยการจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงในทวีปยุโรป ทำให้มีการตัดสินใจว่าการประชุมในปีนี้จะจัดขึ้นที่ ประเทศสิงคโปร์ ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึง ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมราว 1,000 คน
อ่าน : สิงคโปร์ เตรียมเป็นเจ้าภาพการประชุม World Economic Forum กลางปีหน้า
นายบอร์เก เบรนเด ประธานสภาเศรษฐกิจโลก กล่าวว่า การประชุมประจำปีสมัยพิเศษในปีนี้จะคำนึงถึงมาตรฐานสูงสุดด้านสุขภาพเป็นหลัก โดยจะมีการตรวจผู้เข้าร่วมงานทุกคนอย่างเข้มงวด
ประเทศสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และในปัจจุบันสิงคโปร์กำลังอยู่ระหว่างการผ่อนคลายมาตรการทางเศรษฐกิจขั้นที่ 3 ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ชี้ว่า สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 59,425 คน มีผู้เสียชีวิต 29 คน และ 90% ของผู้ติดเชื้อเป็นแรงงานต่างด้าวซึ่งส่วนใหญ่ติดเชื้อเมื่อปีที่แล้วในระหว่างที่รัฐบาลพยายามควบคุมการระบาดตามบ้านพักของคนงานต่างด้าว
ล่าสุดสิงคโปร์ได้จัดโครงการฉีดวัคซีนให้แก่พนักงานและแรงงานที่จะต้องทำงานเกี่ยวข้องกับการประชุมสภาเศรษฐกิจโลกในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ เพื่อป้องกันโอกาสการติดเชื้อและการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นในที่ประชุมด้วย ซึ่งปัจจุบันรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีประชาชนชาวสิงคโปร์และบุคคลที่พำนักอยู่ในสิงคโปร์ถาวรได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วกว่า 113,000 คน
นอกจากนี้แล้ว ประเทศสิงคโปร์ยังได้มีการเตรียมการที่จะดูแลให้แน่ใจว่าผู้ร่วมงานส่วนใหญ่หรือจำนวนมากที่สุด ได้รับวัคซีนเป็นที่เรียบร้อย ส่วนผู้ร่วมงานที่ไม่ได้รับวัคซีนอาจมีขั้นตอนการทดสอบและตรวจติดตามที่แตกต่างกันออกไป และจะมีการนำเทคโนโลยีแอปพลิเคชันซึ่งติดตั้งบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เพื่อติดตามและระบุตัวบุคคลผู้สัมผัสใกล้ชิด ในกรณีที่มีผู้ร่วมงานที่ติดเชื้อระหว่างการประชุม เพื่อให้สามารถแยกบุคคลเหล่านี้ออกจากคนกลุ่มใหญ่ได้ทัน
นายชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพจัดงานสภาเศรษฐกิจโลกจะต้องดำเนินไปโดยคำนึงถึงสุขอนามัยและความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ร่วมงานและประชาชนชาวสิงคโปร์ทุกคนที่ต้องทำงานและสัมผัสกับตัวแทนจากต่างประเทศ นอกจากจะมีการตรวจติดตามผู้เข้าร่วมงานทุกคนทั้งก่อนเข้าร่วมงานและระหว่างการประชุมอย่างเข้มงวดแล้ว สิงคโปร์ยังต้องการให้ผู้ร่วมการประชุมทุกคนรับการตรวจหาเชื้ออีกครั้งก่อนเดินทางกลับประเทศของตน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจอีกขั้นว่าไม่มีใครนำเชื้อไวรัสกลับไปจากสิงคโปร์