ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐ ยืนยันว่าพบการติดเชื้อโคโรนาไวรัสจากคนสู่คนรายแรกในสหรัฐ
ผู้ติดเชื้อคนนี้เป็นสามีของผู้หญิงในชิคาโกที่เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น ชายคนนี้อยู่ในวัย 60 ปีและมีอาการทรงตัว เช่นเดียวกับภรรยา โดยทั้งคู่ถูกกักตัวแยกบริเวณในโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ St. Alexius Medical Center ที่รัฐอิลลินอยส์
หญิงคนนี้เดินทางไปเมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายเดือนธ.ค. และกลับไปสหรัฐเมื่อวันที่ 13 ม.ค. สามีของเธอไม่ได้เดินทางไปจีน และไม่ได้เดินทางไปตามสถานที่สาธารณะหลังจากมีอาการป่วย
เจ้าหน้าที่กำลังจับตาดูอาการของคนอีก 21 คนในรัฐอิลลินอยส์ ที่มีการติดต่อกับผู้หญิงคนนี้ ว่าติดเชื้อหรือไม่
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอิลลินอยส์ย้ำว่า ไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพในเมืองชิคาโก และมีความเสี่ยงต่ำของการติดเชื้อโคโรนาไวรัสในพื้นที่
นายโรเบิรต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐ (ซีดีซี) กล่าวว่าจากสถานการณ์ในจีนและประเทศอื่น ผู้เชี่ยวชาญของซีดีซีคาดว่าจะมีการติดเชื้อจากคนสู่คนมากขึ้นในสหรัฐ ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นประเด็นน่าวิตก แต่เท่าที่ซีดีซีทราบมา ทำให้เชื่อว่าความเสี่ยงต่อคนอเมริกันทั่วไปยังอยู่ในระดับต่ำ
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันคือหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสไวรัส แต่สำหรับคนทั่วไป ยังไม่มีคำแนะนำเพิ่มเติม นอกจากคอยเอาใจใส่ระมัดระวังดูแลตัวเองในทุกๆ วัน ซีดีซียังแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปจีน หากไม่มีเหตุจำเป็น
ขณะที่ ดร.แนนซี เมนซันเนียร์ ผู้อำนวยการศูนย์โรคทางเดินหายใจของสหรัฐ กล่าวว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นสถานการณ์ร้ายแรงเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน แต่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องสังเกตว่า การติดต่อจากคนสู่คนครั้งนี้ มีขึ้นเพราะทั้งสองคนมีการติดต่อสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด
สหรัฐนับเป็นประเทศที่ 5 เป็นอย่างน้อย ที่พบการติดเชื้อจากคนสู่คน โดยเจ้าหน้าที่ซีดีซีระบุว่ามีกรณีของการติดเชื้อจากคนสู่คนอย่างน้อย 9 กรณีเกิดขึ้นนอกจีน
เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังพยายามควบคุมการระบาดของไวรัส รวมถึงเพิ่มคำเตือนเดินทางและเพิ่มการคัดกรองตามสนามบิน 20 แห่ง ทางการระบุว่าประเมินสถานการณ์อยู่ตลอด และอาจดำเนินมาตรการเข็มงวดมากขึ้นหากจำเป็น
ในส่วนของสถานการณ์ในจีนนั้น คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีจำนวนผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อมากกว่า 12,100 คนในจีน คนเหล่านี้กำลังรอผลการตรวจจากห้องทดลอง หรือยังไม่ได้ตรวจ และองค์การอนามัยโลกระบุว่ามีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ 8,137 คนในจีน
รายงานข่าวระบุว่า แม้โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดูเหมือนไม่ร้ายแรงเท่าซาร์สซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 11% แต่การระบาดดำเนินไปรวดเร็วกว่า ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่ามีคนประมาณ 1,400 คนในจีนที่ป่วยรุนแรง
ในส่วนของยุโรปนั้น บริษัท Costa Cruises กำลังกักผู้โดยสาร 6,000 คนไว้บนเรือสำราญ Costa Smeralda ใกล้อิตาลี หลังจากผู้หญิงจีนวัย 54 ปีคนหนึ่งมีไข้ จนก่อให้เกิดความวิตกว่าอาจเป็นโคโรนาไวรัส โดยทางเรือได้แยกตัวผู้หญิงคนนี้กับเพื่อนร่วมทางอีก 1 คนไว้ต่างหาก พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ขึ้นมาดูอาการพร้อมทั้งดำเนินมาตรการที่จำเป็นแล้ว
ด้านนายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวหลังการประกาศให้โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานระหว่างประเทศระดมความช่วยเหลือทางการเงินและการเมืองในการควบคุมการระบาด ว่าประเด็นที่ WHO วิตกมากที่สุด คือความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสจะลามไปยังประเทศที่มีระบบสาธารณสุขอ่อนแอและไม่พร้อมรับมือ
ผู้อำนวยการ WHO ยังขอให้สาธารณชนอยู่ในความสงบ และบอกว่าองค์การอนามัยโลกไม่ได้แนะนำให้ออกมาตรการที่ไปแทรกแซงหรือขัดขวางการเดินทาง-การค้าระหว่างประเทศโดยไม่จำเป็น พร้อมระบุว่าจีนกำลังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อควบคุมการระบาด
“นี่เป็นเวลาสำหรับข้อเท็จจริง ไม่ใช่เวลาที่จะหวาดกลัว นี่เป็นเวลาที่ต้องนำวิทยาศาสตร์มาใช้ ไม่ใช่ข่าวลือ นี่เป็นเวลาของความสามัคคี ไม่ใช่เวลาที่จะมาตราหน้ากัน” ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกระบุ