ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชั้นนำของโลกต่างให้มุมมองหากนางเอลิซาเบท วอร์เรน วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเสตต์ สังกัดพรรคเดโมแครต ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2563 ตลาดหุ้นสหรัฐฯอาจทรุดหนักกว่า 25%
พอล ทิวดอร์ โจนส์ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์มูลค่ามากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ กล่าวว่า ดัชนี S&P 500 จะดิ่งลง 25% หากนางวอร์เรนสามารถคว่ำประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อแผนการจัดเก็บภาษีความมั่งคั่งของนางวอร์เรน เขายังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวแตะระดับ 1% จากที่คาดไว้มากกว่า 2% ในปีนี้
นางวอร์เรนเคยเสนอแผนที่จะจัดเก็บภาษี 2% ต่อครัวเรือนที่มีมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ และ 3% ต่อครัวเรือนที่มีมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ โดยภาษีที่ได้รับมาจะนำไปใช้ในโครงการสนับสนุนการศึกษา, การประกันสุขภาพ และรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งตลาดวอลล์สตรีทต่างก็ต่อต้านนางวอร์เรน และแผนการจัดเก็บภาษีดังกล่าว
มาร์ค โมเบียส ประธานกรรมการบริหาร เทมเพิลตัน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ กรุ๊ป และผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส กล่าวเช่นกันว่า ตลาดหุ้นจะร่วงลง 25% หากนางวอร์เรนชนะการเลือกตั้งในปีหน้า
ขณะที่จอร์จ โซรอส เจ้าของฉายาพ่อมดการเงิน กล่าวว่า นางวอร์เรนถือเป็นตัวเก็งของพรรคเดโมแครตในการต่อสู้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2563 แต่ไม่ขอที่จะให้การสนับสนุนใครให้ชนะการเลือกตั้งเป็นพิเศษ กล่าวเพียงว่าไม่ว่าใครมาก็ต้องอยู่รอดให้ได้
อ้างอิง : Bloomberg
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง :ไม่น่าเชื่อ! “สงครามการค้า” ยืดเยื้อยาวนานเกือบ2ปี ยังหาข้อยุติไม่ได้