บริษัท Facebook มีแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มีนาคมนี้ว่า บริษัทมีแผนความร่วมมือกับบริษัท Google และบริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนที่จะวางเคเบิ้ลใต้ทะเลเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และทวีปอเมริกาเหนือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อผ่านระบบอินเทอร์เน็ตระหว่างภูมิภาค
เครือข่ายเคเบิ้ลใต้ทะเลตามโครงการดังกล่าวประกอบด้วยสายเคเบิ้ลหลักสองเส้น ซึ่งมีชื่อว่า Echo และ Bifrost โดยโครงการเดินเครือข่ายเคเบิ้ล Echo อยู่ภายใต้ความร่วมมือและการดูแลของบริษัท Google และ XL Axiata ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566
ส่วนเครือข่ายเคเบิ้ล Bifrost อยู่ภายใต้ความร่วมมือของบริษัท Telin ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Telkomsel ของประเทศอินโดนีเซีย และบริษัท Keppel ประเทศสิงคโปร์ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 โดยเครือข่ายเคเบิ้ลทั้งสองสายจะเป็นเครือข่ายแรกที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับพื้นที่หลักในประเทศอินโดนีเซีย และถือเป็นเครือข่ายที่เพิ่มการเชื่อมต่อให้กับเมืองใหญ่ทางตอนกลางและตะวันออกของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก
จากผลการสำรวจของสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี 2563 พบว่าประชากร 73% จากประชากรรวมจำนวน 270 ล้านคนในประเทศอินโดนีเซียสามารถเข้าถึงการใช้งานออนไลน์ แต่ประชากรส่วนใหญ่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือเป็นหลัก โดยมีประชากรเพียงไม่ถึง 10% เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์
โครงการสร้างเครือข่ายเคเบิ้ลใต้ทะเลทั้งสองสายดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการเตรียมการและจะต้องยื่นขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการลงทุนของบริษัท Facebook เพื่อสร้างเครือข่ายเคเบิ้ลใยแก้วที่มีความยาวถึง 3,000 กิโลเมตรเชื่อมโยง 20 เมืองหลักภายในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญอันดับ 1 ใน 5 ของ Facebook ด้วย