“บิ๊กซี” เปิดสาขาฮ่องกง ลงทุนนอกอาเซียนครั้งแรก
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กว่า นายจาตุรนต์ ไชยะคำ กงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ร่วมพิธีเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตบิ๊กซี (Big C) ในฮ่องกง โดยได้แสดงความยินต่อการลงทุนนอกอาเซียนครั้งแรกของบิ๊กซี และแสดงความเชื่อมั่นว่าจะเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมสินค้าไทยในฮ่องกง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 นายจาตุรนต์ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต Big C ของไทยในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงอย่างเป็นทางการ ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต Big C สาขา Mira Place 2 โดยมีนายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีร่วมกับนางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ส่วนฝ่ายฮ่องกงมี ดร. เบอร์นาร์ด ชาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง และนายจิมมี เฉียง ผู้ช่วยอธิบดีหน่วยงานการลงทุนฮ่องกง เข้าร่วมพิธีเปิดงานด้วย
กงสุลใหญ่ฯ ได้แสดงความยินดีต่อการลงทุนนอกภูมิภาคอาเซียนเป็นครั้งแรกของบริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันมีสาขาในฮ่องกงรวม 24 สาขา และเชื่อว่าจะเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมสินค้าไทยในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
สิงคโปร์แจกเงิน บรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน
รัฐมนตรีคลังสิงคโปร์ประกาศแพคเกจใหม่มูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะครอบครัวผู้มีรายได้ต่ำหรือปานกลาง รับมือค่าครองชีพที่สูงขึ้น เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ ที่ได้มีการออกมาตรการบรรเทาผลกระทบของการขึ้นภาษีสินค้าและบริการไปแล้ว
กระทรวงการคลังระบุว่า แม้เงินเฟ้อปรับตัวลง แต่ครัวเรือนต่างๆ ยังต้องเผชิญกับผลกระทบของที่ราคาสินค้าต่างๆ สูงขึ้น ล่าสุดมีการขึ้นค่าน้ำ 18.2% ในช่วง 2 ปีหน้า
มาตรการใหม่นี้จะมีการแจกเงินสด 200 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 5,000 บาท) สำหรับผู้อายุ 21 ปีขึ้นไปซึ่งมีที่อยู่อาศัยอย่างน้อย 1 แห่งและมีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ เงินก้อนนี้จะจัดสรรให้ในเดือนธ.ค. นอกจากนั้น ทุกครัวเรือนยังจะได้ voucher อีก 200 ดอลลาร์สิงคโปร์ในปีหน้า และสามารถนำ voucher ไปใช้ตามร้านค้าและแผงลอยที่เข้าร่วมโครงการ
อีกทั้งเพื่อแบ่งเบาค่าสาธารณูปโภค จะมีการคืนเงินค่าบำรุงรักษาอาคารให้ครึ่งเดือนในเดือนม.ค. ปีหน้า ทั้งยังจะมีส่วนลดค่าสาธารณูปโภคเพิ่มเติมระหว่างเดือนม.ค.ปีหน้าไปจนถึงเดือนธ.ค. 2568
เจ้าของ “เอเวอร์แกรนด์” ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีอาญา
ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ระบุว่า นายหุย กาหยั่น ประธานไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอาญา ซึ่งทำให้นักธุรกิจรายนี้เผชิญความเสี่ยงทางกฎหมายเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์หนี้ท่วมของเขาทำให้กลุ่มนักลงทุน เจ้าของบ้าน และซัพพลายเออร์เสียเงินไปรวม ๆ แล้วหลายพันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปเปิดเผยในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสบดี (28 ก.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งต่อทางบริษัทว่า นายหุยตกอยู่ภายใต้มาตรการบังคับ สืบเนื่องจาก “เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอาญา” อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการที่บังคับใช้กับนายหุย หรือรายละเอียดเกี่ยวกับคดีที่นายหุยตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยหุ้นของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปจะถูกระงับการซื้อขายต่อไปจนกระทั่งมีประกาศแจ้งเพิ่มเติม
เวียดนามเผยจีดีพีขยายตัว 5.33% อานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น
สำนักงานสถิติเวียดนามเปิดเผยว่า เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 5.33% ในไตรมาส 3 ปีนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการขยายตัวเร็วขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าการขยายตัวที่ 6% – 7% ก่อนโรคโควิด-19 ระบาด ซึ่งบ่งชี้ว่า รัฐบาลเวียดนามมีแนวโน้มจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่ 6.5% ได้ในปีนี้
เศรษฐกิจเวียดนามชะลอตัวมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ต่อมาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริง ขยายตัวลดลงสู่ 3.28% ในไตรมาส 1 ปีนี้ โดยถูกกดดันจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศที่ทรุดตัวลงและการส่งออกที่ตกต่ำ
รายงานระบุว่า ภาคบริการช่วยหนุนผลผลิตทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 โดยหลักๆ แล้วได้แรงหนุนจากภาคค้าปลีกและการท่องเที่ยว
“ไบแนนซ์” ถอนธุรกิจรัสเซีย ขายกิจการให้ “CommEX”
ไบแนนซ์ บริษัทซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ ตกลงขายธุรกิจทั้งหมดในรัสเซียให้กับ CommEX ซึ่งเพิ่งก่อตั้ง อันจะทำให้ไบแนนซ์ไม่มีธุรกิจเหลืออยู่ในรัสเซียอีกต่อไป โดยกระบวนการขายธุรกิจดังกล่าวจะใช้เวลาหนึ่งปี เพื่อรับประกันความราบรื่นให้กับผู้ใช้งานในรัสเซีย โดยสินทรัพย์ทั้งหมดของผู้ใช้งานรัสเซียปลอดภัยดีและได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวด
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับธุรกิจของไบแนนซ์ระบุว่า เมื่อพิจารณาถึงอนาคตแล้ว บริษัทตระหนักว่าการดำเนินงานในรัสเซีย ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของไบแนนซ์ และจะทุ่มเทไปยังประเทศอื่นๆ กว่า 100 ประเทศที่ดำเนินงานอยู่ในปัจจุบัน
การประกาศของไบแนนซ์มีขึ้น หลังจากมีข่าวว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังสอบสวนว่าบริษัทละเมิดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหรือไม่