สหรัฐฟ้อง Binance ละเมิดกฎหมายฟอกเงิน
กรรมาธิการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ ยื่นฟ้องนายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอของไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก ข้อหาละเมิดกฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
คำฟ้องระบุว่าไบแนนซ์ละเมิดกฎระเบียบ 8 ข้อเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันและตรวจจับการฟอกเงินรวมถึงการสนับสนุนเงินทุนก่อการร้าย โดยไบแนนซ์ไม่ได้จดทะเบียนในฐานะคนกลางซื้อขายตราสารอนุพันธ์ตามที่กฎหมายสหรัฐบัญญัติไว้, ละเมิดกฎหมายด้วยการช่วยให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ, แนะนำให้ลูกค้าปกปิดที่อยู่ด้วยการใช้เครือข่าย VPN, ละเมิดกฎหมายควบคุมการฟอกเงินและสนับสนุนเงินทุนต่อกลุ่มก่อการร้าย
“แจ็ค หม่า” กลับจีนหลังอยู่ต่างแดนกว่า 1 ปี
มีรายงานข่าวว่า แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง ได้กลับไปยังจีนแล้ว หลังจากเดินทางในต่างประเทศนานกว่า 1 ปี โดยหม่าได้ไปเยี่ยมครูและนักเรียนในโรงเรียนที่เขาก่อตั้งขึ้น ณ เมืองหางโจว ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานอาลีบาบาและแอนต์ กรุ๊ป
ทั้งนี้ หม่าเดินทางออกจากจีนเมื่อปลายปี 2564 และมีผู้พบเจอเขาที่ยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงไทย อันเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางมาศึกษาการเกษตรและประมง
หม่าหายตัวไปจากสาธารณะช่วงปลายปี 2563 หลังจากวิจารณ์ระบบกำกับดูแลของจีน จนส่งผลให้ทางการปราบปรามอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แม้ทางการประกาศยุติการปราบปรามและจะหาทางสนับสนุนภาคเอกชน แต่ผู้ประกอบการจีนยังรู้สึกไม่เชื่อมั่น เพราะหม่ายังไม่กลับจีน จนกระทั่งมีรายงานข่าวล่าสุดว่าเขาเดินทางกลับประเทศแล้ว
สื่อเปรียบซีอีโอแอปเปิลเยือนจีนกีบซีอีโอติ๊กต็อกถูกซักฟอกที่สหรัฐ
ทิม คุก ซีอีโอบริษัทแอปเปิล เยือนจีนพร้อมเข้าร่วมการประชุมที่รัฐบาลจีนจัดขึ้น คุกระบุว่าแอปเปิลกับจีนเติบโตมาด้วยกันในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และเขายินดีที่ได้กลับมาจีน
การเยือนจีนของซีอีโอแอปเปิลมีขึ้นในช่วงที่สหรัฐกับจีนกำลังต่อกรกันในอุตสาหกรรมไฮเทค ทั้งยังมีขึ้นหลังจากซีอีโอติ๊กต็อกถูกกรรมาธิการประจำสภาสหรัฐซักฟอกนานกว่า 5 ชั่วโมง ด้วยความเชื่อมั่นว่าแอปติ๊กต็อกของจีน เป็นภัยด้านความมั่นคง
กระบอกเสียงทางการจีนรีบนำบรรยากาศของสองซีอีโอมาเปรียบเทียบกัน โดยหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ระบุว่า “ซีอีโอติ๊กต็อกถูกถล่มยับระหว่างตอบคำถามในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ขณะที่ซีอีโอแอปเปิลได้รับการต้อนรับอย่างดีระหว่างการไปปรากฎตัวที่ร้านแอปเปิลในจีน สิ่งนี้สะท้อนว่าจีนทำการค้าแบบบริสุทธิ์และยุติธรรมจริงๆ”
ธนาคารคู่แข่งเข้าซื้อกิจการเอสวีบี
บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐเปิดเผยว่า เฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์ (First Citizens Bank) ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ หรือเอสวีบี ครอบคลุมถึงเงินฝากและเงินกู้ทั้งหมดคิดเป็นมูลค่า 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากมูลค่าเดิมที่ 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนหลักทรัพย์ประมาณ 9 หมื่นล้านดอลลาร์ และสินทรัพย์ประเภทอื่นจะยังอยู่ภายในมาตรการพิทักษ์ทรัพย์
การเคลื่อนไหวนี้มีขึ้น 2 สัปดาห์ หลังจากเอสวีบีล่มสลาย อันนับเป็นการล้มของธนาคารสหรัฐครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกปี 2551 ผู้บริหารเฟิร์สต์ ซิติเซนต์ แบงก์ ระบุว่าข้อตกลงนี้จะสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินสหรัฐ โดยเฟิร์สต์ ซิติเซนต์ ซึ่งเป็นคู่แข่งของเอสวีบี มีสินทรัพย์ 1.09 แสนล้านดอลลาร์ และมีเงินฝาก 8.94 หมื่นล้านดอลลาร์
ดิสนีย์เริ่มลดพนักงาน
นายบ็อบ ไอเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ เปิดเผยว่าบริษัทจะเริ่มปลดพนักงานในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นรอบแรกจากทั้งหมด 3 รอบ ส่วนการปลดพนักงานในรอบ 2 จำนวนหลายพันคนจะมีขึ้นในเดือนเม.ย. และการปลดพนักงานในรอบ 3 จะมีขึ้นก่อนช่วงฤดูร้อน ซึ่งจะทำให้มีพนักงานถูกปลดออกรวม 7,000 คน
การปลดพนักงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มกระแสเงินสด โดยคาดว่าจะลดค่าใช้จ่ายได้ 5.5 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น ดิสนีย์ยังเผยแผนปรับโครงสร้างองค์กรเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์, อีเอสพีเอ็น, สวนสนุกดิสนีย์และผลิตภัณฑ์-สินค้าของดิสนีย์ โดยดิสนีย์กำลังตามรอยวอเนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี และบริษัทสื่ออื่นๆ ที่กำลังลดงานและค่าใช้จ่าย