ไต้หวันเล็งแจกเงิน ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ไต้หวันจะแจกเงินหรือแรงจูงใจในรูปของส่วนลด ให้แก่นักท่องเที่ยว 500,000 คนในปีนี้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังยุคโควิด และกระตุ้นการใช้จ่าย
แรงจูงใจดังกล่าว มีมูลค่า 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน อันเป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจมูลค่า 5,300 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
โฆษกกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร แถลงว่านักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้รับสิทธินี้ โดยจะมีการประกาศแผนอย่างเป็นทางการเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
หนึ่งในวิธีการหาผู้โชคดี คือการจับฉลากหรือผ่านทางสายการบิน และอาจแจกเงินทางอิเลกทรอนิกหรือให้เป็นส่วนลดค่าที่พัก ค่าเดินทาง หรือส่วนลดสำหรับซื้อของอื่นๆ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงคมนาคมระบุว่า ต้องการจะเร่งและขยายความพยายามดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามายังไต้หวัน
แผนการดังกล่าวยังรวมถึงข้อเสนอให้แจกเงิน 10,000 ดอลลาร์ไต้หวันแก่บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามากรุ๊ปละ 8 คนเป็นอย่างน้อย และ 20,000 ดอลลาร์ไต้หวันสำหรับกรุ๊ปทัวร์ที่มีนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 15 คน
ทั้งนี้ ไต้หวันคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวในปีนี้ เพราะไต้หวันซึ่งพึ่งพาการค้า เผชิญภาวะการส่งออกลดลง ทำให้ต้องหาทางกระตุ้นกิจกรรมผ่านอุปสงค์ภายในและการท่องเที่ยว
อนามัยโลกวอนทุกประเทศเพิ่มความระวังหวัดนก
องค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังร่วมงานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา หลังจากมีคนในครอบครัวเดียวกันติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่ได้รับการยืนยันแล้ว 2 ราย
ดร.ซิลวี่ ไบรอันด์ ผู้อำนวยการฝ่ายเตรียมความพร้อมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค กล่าวว่า WHO กำลังทบทวนการประเมินความเสี่ยงทั่วโลกโดยพิจารณาจากสถานการณ์ล่าสุด พร้อมอธิบายถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า “น่ากังวล” เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อที่เป็นนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากในช่วงต้นเดือนก.พ. WHO ได้ประเมินว่าความเสี่ยงต่อมนุษย์จากโรคไข้หวัดนกนั้นอยู่ในระดับต่ำ
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่กัมพูชาเปิดเผยว่า เด็กหญิงวัย 11 ขวบเสียชีวิตจากไวรัส H5N1 และได้เริ่มทำการตรวจหาเชื้อไวัสจากผู้ติดต่อใกล้ชิดกับเด็กหญิงคนดังกล่าวจำนวน 12 ราย และพบว่าบิดาของเด็กหญิงดังกล่าวติดเชื้อไวรัส H5N1
ดร.ไบรอันด์ระบุว่า สถานการณ์ H5N1 ทั่วโลกกำลังน่าเป็นห่วง WHO ตระหนักถึงความเสี่ยงจากไวรัสนี้อย่างจริงจัง และเรียกร้องให้ทุกประเทศเพิ่มความระมัดระวัง
อินเทลปันผลต่ำสุดรอบ 16 ปี
บริษัทอินเทลลดการจ่ายเงินปันผลลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 16 ปี และตัดสินใจลดการลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อรักษากระแสเงินสด ท่ามกลางความต้องการชิปที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและดาต้าเซนเตอร์ ชะลอตัวลง
อินเทลจะลดเงินปันผลลงเหลือหุ้นละ 50 เซนต์ต่อปี นับว่าลดลงจากครั้งก่อน 66%
ความต้องการชิปของอินเทลซบเซาลง หลังจากขยายตัวอย่างแข็งแกร่งมา 2 ปีในช่วงทำงานที่บ้านระหว่างเกิดการระบาดของโควิด สภาพการณ์ล่าสุดทำให้ผู้ผลิตชิปรายนี้เตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่าอาจขาดทุนในช่วงไตรมาสแรก
อินเทลมุ่งมั่นลดต้นทุน 3,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ และหวังว่าจะประหยัดต้นทุนได้ 8,000-10,000 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2568
ทั้งนี้ อินเทล ซึ่งเคยเป็นผู้ผลิตชิปชั้นนำ กำลังแข่งขันในเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ กับบรรดาคู่แข่งอย่างบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง
คาดการณ์กลับเข้ามาของจีน ไม่กระทบราคาอสังหาฯสิงคโปร์
การยุติมาตรการคุมเข้มโควิดของจีน มีแนวโน้มจะทำให้คนจีนกลับมาสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์อีกครั้ง แต่จำนวนอาจไม่สูงพอกระทบต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์
นักวิเคราะห์แห่งบริษัทออเรนจ์ทีแอนด์ไท คาดว่าผู้ซื้อต่างชาติจะกลับเข้าตลาดอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ โดยเฉพาะเมื่อจีนเปิดประเทศอีกครั้ง โดยอาจมีชาวจีนเดินทางเข้าไปทำงาน เรียนต่อ หรือทำธุรกิจ และอาจมีการเช่าอสังหาริมทรัพย์
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ชาวจีนแผ่นดินใหญ่มีสัดส่วนมากที่สุดในบรรดาผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ต่างชาติของสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารบริษัทพรอพเนกซ์ มองว่าแม้ชาวจีนหรือต่างชาติ กลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง แต่ไม่มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์มากนัก เพราะการซื้อของชาวต่างชาติมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับข้อตกลงทั้งหมด
ข้อมูลของพรอพเนกซ์ระบุว่า เมื่อปีที่แล้วยอดขายที่อยู่อาศัยที่ขายให้ชาวจีน ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2553
บริษัทต่างชาติร้องเวียดนามผ่อนกฎวีซ่ากระตุ้นท่องเที่ยว
บริษัทต่างชาติเรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนาม ผ่อนคลายข้อจำกัดด้านวีซ่าและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในสนามบิน เพื่อให้เวียดนามมีความน่าดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยว
ประธานยูโรแชม หรือหอการค้ายุโรป ระบุในการประชุมกับผู้นำภาคธุรกิจของนครโฮจิมินห์ซิตี้ ว่าเวีดยนามควรขยายการอยู่ในประเทศแบบไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับชาวยุโรปทั้งหมด จาก 15 วัน เป็น 30 วัน เพราะการท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจของโฮจิมินห์ซิตี้
ปัจจุบัน พลเมืองของเบลารุส เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี นอร์เวย์ รัสเซีย สเปน และสวีเดน ได้รับอนุญาตให้เข้าเวียดนามได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว และพักอยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน
ยูโรแชมขอให้ยกเว้นวีซ่าแก่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมด นอกจากนั้น นักลงทุนบางคนยังขอให้เวียดนามกลับไปใช้นโยบายเดินทางเข้า-ออกได้หลายครั้งภายในเวลา 3 เดือน อันเป็นนโยบายที่เคยใช้ก่อนเกิดโควิด
ยูโรแชมยังเผยว่า ได้รับการบอกเล่าจากนักเดินทางเกี่ยวกับประสบการณ์ที่สนามบินนานาชาติในเมืองโฮจิมินห์ ว่าต้องรอหลายชั่วโมงกว่าจะได้ขึ้นเครื่อง ทั้งนี้สนามบินดังกล่าวไม่มีเลนพิเศษสำหรับผู้โดยสารชั้นนักธุรกิจ นักลงทุน หรือผู้เข้าร่วมการประชุมไมซ์ (MICE)