การเมืองมาเลเซีย มาถึงจุดที่เกิดความวุ่นวายและเข้มข้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อจู่ๆ นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด ยื่นใบลาออก สร้างความงุนงงแก่หลายฝ่าย
นอกจากลาออกจากตำแหน่งนายกฯแล้ว มหาธีร์ยังลาออกจากพรรค Parti Pribumi Bersatu Malaysia และพรรคนี้ก็ประกาศถอนตัวจากรัฐบาลผสม Pakatan Harapan เพื่อแสดงการสนับสนุนมหาธีร์ด้วย
การตัดสินใจของมหาธีร์ ซึ่งขณะนี้ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ มีขึ้นหลังจากเกิดความวุ่นวายช่วงสุดสัปดาห์ เมื่อมีข่าวว่าพรรคของเขามีแผนตั้งรัฐบาลใหม่ โดยปราศจากอันวาร์ อิบราฮิม ผู้ที่มหาธีร์เคยประกาศว่าจะส่งมอบตำแหน่งนายกฯ ให้หลังจากคว้าชัยในการเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ข่าวเกี่ยวกับแผนการตั้งรัฐบาลใหม่มีขึ้น เพราะเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการหารือกันระหว่างบรรดาพันธมิตรของมหาธีร์ กับสมาชิกที่แตกแถวของพรรคความยุติธรรมประชาชน ซึ่งเป็นพรรคของอันวาร์ และสมาชิกสภาจำนวนหนึ่ง รวมถึงจากพรรคฝ่ายค้าน (อัมโน)
การพบปะกันของคนเหล่านี้ ก่อให้เกิดการคาดหมายว่ารัฐบาลผสมคงใกล้ล้ม และน่าจะมีการจัดแถวใหม่ในการเมืองมาเลเซีย
ก่อนเรื่องราวจะดำเนินมาถึงจุดนี้ มหาธีร์ วัย 94 กับอันวาร์ วัย 72 เพิ่งสร้างความประหลาดใจแก่หลายฝ่าย ด้วยการประกาศจับมือกันเพื่อโค่นรัฐบาลผสม Barisan Nasional ภายใต้การนำของพรรคอัมโนในการเลือกตั้งปี 2561 เนื่องจากมหาธีร์ไม่พอใจนาจิบ ราซัก อย่างหนัก ถึงขั้นออกมาวิจารณ์หลายต่อหลายครั้ง และตราหน้าว่าคอร์รัปชันรวมถึงเป็นเผด็จการ
การจับมือกันของทั้งสองทำให้นาจิบ ซึ่งพัวพันกับเรื่องอื้อฉาว 1 MDB หลุดจากตำแหน่งนายกฯและปิดฉากการบริหารประเทศยาวนาน 6 ทศวรรษของรัฐบาลผสมภายใต้การนำของพรรคอัมโน
หลังจากชนะการเลือกตั้ง มหาธีร์ ซึ่งขึ้นรับตำแหน่งผู้นำประเทศที่มีอายุมากที่สุดในโลก ได้ย้ำคำสัญญาว่าเมื่อถึงเวลาอันควร จะมอบอำนาจให้อันวาร์ ผู้ซึ่งเคยถูกรัฐบาลภายใต้การนำของเขา จับเข้าคุกมาแล้ว
กระนั้น ความตึงเครียดภายในรัฐบาลผสม Pakatan Harapan มีแต่เพิ่มขึ้น เพราะมหาธีร์ไม่ยอมบอกเสียทีว่าจะส่งมอบอำนาจให้อันวาร์เมื่อไร
ประกอบกับความนิยมทางการเมืองของรัฐบาลผสม ก็ลดน้อยถอยลงไป เห็นได้จากการปราชัยในการเลือกตั้งซ่อม 5 ครั้งเมื่อไม่นานมานี้
ในส่วนของอันวาร์เองก็เกิดแตกคอกับเพื่อนร่วมพรรค ซึ่งเป็นรัฐมนตรีกิจการเศรษฐกิจ โมฮัมเหม็ด อัซมิน อาลี ที่ไปร่วมพบปะหารือกับฝ่ายต่างๆ ด้วยเมื่อวันอาทิตย์ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่วันต่อมาพรรคของอันวาร์ประกาศขับอัซมินออกจากพรรค
ด้านอัซมินก็ไม่ไปมือเปล่า เพราะหอบหิ้วเพื่อนร่วมพรรคอีก 10 คนไปด้วย พร้อมประกาศจะไปตั้งกลุ่มใหม่ที่เป็นอิสระในสภา
อันวาร์พูดถึงเหตุวุ่นวายครั้งนี้ว่า ไม่ได้มีต้นเหตุมาจากมหาธีร์ แต่เป็นฝีมือคนในพรรคของเขา และคนนอกพรรคที่อ้างชื่อมหาธีร์ พร้อมเสริมว่ามหาธีร์ย้ำกับเขาหลายครั้งว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหลาย และไม่มีทางจะไปจับมือกับคนในพรรครัฐบาลเดิม
หากย้อนไปดูความสัมพันธ์ระหว่างมหาธีร์กับอันวาร์ จะพบว่าโดดเด่นคู่กับการเมืองมาเลเซีย เพราะอันวาร์เคยเป็นรองนายกฯ และถูกวางตัวเป็นทายาทการเมือง สมัยมหาธีร์ทำหน้าที่นายกฯ ช่วงปี 2524-2546
แต่จู่ๆ อันวาร์ก็ถูกปลดกลางอากาศเมื่อปี 2541 เพราะความเห็นขัดแย้งกับมหาธีร์เรื่องวิธีรับมือวิกฤติการเงิน ช่วงที่วิกฤติการเงินเอเชียลามไปหลายประเทศ
จากนั้นไม่นาน อันวาร์ก็ถูกจำคุก 6 ปีในข้อหาคอร์รัปชัน ต่อด้วยข้อหาวิตถารทางเพศกับอดีตคนขับรถ อันล้วนเป็นข้อกล่าวหาที่เขาระบุว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง
ศาลฎีกายกคำร้องในข้อหาวิตถารทางเพศและสั่งให้ปล่อยอันวาร์ออกจากคุกเมื่อปี 2547 แต่คำตัดสินในคดีคอร์รัปชันทำให้อันวาร์ไม่สามารถลงสมัครในตำแหน่งทางการเมืองได้จนถึงปี 2551
พอคำสั่งห้ามมีส่วนร่วมทางการเมืองหมดอายุลง อันวาร์ก็เจอข้อกล่าวหาวิตถารทางเพศต่ออีก และต้องเข้าคุกอีกครั้งเมื่อปี 2558 ขณะที่รัฐบาลระบุว่าข้อกล่าวหาต่างๆ นี้ไม่ได้มีแรงจูงใจทางการเมือง
จนกระทั่งปี 2561 มหาธีร์กับอันวาร์วางความบาดหมางทั้งหลายลง และจับมือกันโค่นพรรคอัมโนภายใต้การนำของนาจิบ จากนั้นอันวาร์ก็ได้รับอภัยโทษ ทำให้เขาได้กลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง
ภรรยาของอันวาร์ เคยพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างอันวาร์กับมหาธีร์ว่า “เมื่อก่อนเคยเป็นศัตรูกัน แต่ตอนนี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และร่วมมือกันเพื่อพัฒนาประเทศ”
