บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ (Samsung Electronics) ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้ตั้งเป้าวางแผนลงทุนราว 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปในสหรัฐอเมริกา โดยกำลังเลือกสถานที่ตั้งระหว่างเมืองเท็กซัส รัฐแอริโซนา หรือในย่านอุตสาหกรรมทางฝั่งตะวันตกของรัฐนิวยอร์ค
ปัจจัยสำคัญสำหรับการพิจารณาการลงทุนดังกล่าวขึ้นอยู่กับแรงจูงใจจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่จะสามารถชดเชยข้อเสนอเปรียบเทียบและต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าในประเทศอื่นๆ โดยข้อเสนอดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่สหรัฐอเมริกากำลังพิจารณาการจัดสรรงบประมาณเพื่อก่อตั้งอุตสาหกรรมผลิตชิปในสหรัฐฯ และเพื่อลดการพึ่งพาไต้หวัน จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนตามกฎหมายด้านกลาโหมแห่งชาติที่เพิ่งได้รับอนุมัติเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ตามข้อเสนอการก่อตั้งโรงงานผลิตชิปของบริษัท Samsung จะมีการจ้างงาน 1,900 ตำแหน่งและตั้งเป้าที่จะเริ่มดำเนินงานได้ภายในเดือนตุลาคม ปี 2565
โดยปกติในอดีต รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เคยมีงบประมาณสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตชิปในประเทศ แต่การระบาดของโรคโคโรนาไวรัสที่ผ่านมาได้เน้นให้เห็นว่าการหยุดชะงักของระบบซัพพลายเชนทั่วโลกส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการจัดส่งชิปซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับการผลิตและใช้งานในเทคโนโลยี 5G สมาร์ทโฟน ตลอดจนเครื่องบินขับไล่ จนทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ หันมาให้ความสนใจที่จะพึ่งพาตนเองในด้านการผลิตชิปมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้การเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตชิปในเอเชียในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมดังกล่าวของสหรัฐฯ หดตัวลงราว 12% ด้วยเหตุนี้อุตสาหกรรมการผลิตชิปในสหรัฐฯ จึงมีความต้องการงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อที่จะช่วยให้สามารถเปลี่ยนแปลงสถานะของส่วนแบ่งการตลาดได้
การตัดสินใจลงทุนของ Samsung ในครั้งนี้ถือเป็นการตามติดคู่แข่งอย่าง Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) ซึ่งได้วางแผนก่อตั้งโรงงานผลิตชิปที่ทางตอนเหนือของเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา และล่าสุดได้ตกลงซื้อที่ดินสำหรับโครงการมูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัท TSMC เป็นบริษัทรับผลิตชิปเพื่อป้อนให้กับบริษัทอื่นๆ ส่วนบริษัท Samsung มีธุรกิจรับผลิตชิปซึ่งจะเป็นธุรกิจหลักของโรงงานที่วางแผนไว้ และชิปอีกส่วนที่บริษัทผลิตจะป้อนเข้าสู่การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ Samsung เองด้วย