ไทยติดอันดับ 64 ในดัชนีเสรีภาพเศรษฐกิจโลก
สถาบันเฟรเซอร์แห่งแคนาดา เปิดเผยรายงานดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจทั่วโลกประจำปี 2566 ปรากฎว่าไทยติดอันดับ 64 จากทั้งหมด 165 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ด้วยคะแนน 7.07 คะแนน และติดอันดับ 3 ในอาเซียน ขณะที่สิงคโปร์รั้งอันดับ 1 ด้วยคะแนน 8.56 คะแนน แซงหน้าฮ่องกงที่ร่วงลงเป็นครั้งแรกไปอยู่อันดับ 2 ด้วยคะแนน 8.55 คะแนน ตามมาด้วยสวิตเซอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และสหรัฐ ซึ่งอยู่ในอันดับ 3,4,5 ตามลำดับ
รายงานอ้างอิงข้อมูลล่าสุดเมื่อปี 2564 ระบุว่าฮ่องกงหลุดจากอันดับ 1 เป็นครั้งแรก โดยรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการจำกัดการเข้าเมือง จำกัดการจ้างแรงงานต่างชาติ และเพิ่มต้นทุนการทำธุรกิจ ซึ่งทำให้คะแนนในหัวข้อเกี่ยวกับกฎระเบียบของฮ่องกงลดลง ขณะที่สิงคโปร์ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้แรงหนุนจากคะแนนที่เพิ่มขึ้นในหัวข้อรัฐบาลและการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ
เมื่อพิจารณาในอาเซียนแล้วพบว่า สิงคโปร์อยู่ในอันดับ 1 ตามด้วยมาเลเซียอันดับ 56 ไทยอันดับ 64, ฟิลิปปินส์อันดับ 70 อินโดนีเซียอันดับ 74 กัมพูชาอันดับ 78 และเวียดนามอันดับ 106
ญี่ปุ่นเล็งตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพิ่มต่างชาติลงทุน
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะแห่งญี่ปุ่น กล่าวกับบรรดาผู้บริหารภาคธุรกิจและนักการธนาคารที่สมาคมเศรษฐกิจนิวยอร์ก รับปากจะจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อเพิ่มการลงทุนของต่างชาติในญี่ปุ่น โดยขอให้บรรดาผู้บริหารต่างชาติพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่นและแผนการที่รัฐบาลวางไว้สำหรับอนาคต
นายคิชิดะระบุว่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารในญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 50% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนมีมูลค่าแตะ 800 ล้านล้านเยนในขณะนี้ พร้อมเสริมว่าเพื่อสนับสนุนการลงทุนใหม่ๆ จากต่างแดน ญี่ปุ่นจะตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับธุรกิจบริหารสินทรัพย์เป็นการเฉพาะ ซึ่งกระบวนการด้านการอนุญาตจะกระทำในรูปแบบของภาษาอังกฤษล้วน
รัฐบาลภายใต้การนำของนายคิชิดะ มีแนวโน้มจะเปิดเผยเค้าโครงนโยบายภายในปลายปี เพื่อทบทวนกฎหมายผ่อนคลายกฎระเบียบสำหรับการลงทุนของต่างชาติ และปรับลดกำแพงในการเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น ท่ามกลางภาวะที่อุปสงค์ภายในประเทศซบเซาหลังจากจำนวนประชากรลดลง
“รูเพิร์ต เมอร์ดอค” วางมือวงการสื่อ ส่งไม้ต่อลูกชาย
รูเพิร์ต เมอร์ดอค วัย 92 ปี เจ้าพ่อสื่อ ผู้สร้างและดูแลอาณาจักรสื่อทรงอิทธิพลแห่งหนึ่งของโลก ประกาศจะก้าวลงจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฟอกซ์ คอปอเรชัน และนิวส์ คอร์ปอเรชัน โดยเมอร์ดอคระบุว่าเขาผูกพันกับข่าวมาทุกวัน แต่ถึงเวลาแล้วที่จะรับบทบาทใหม่และส่งไม้ต่อให้ทีมงานที่มีความสามารถ
ลาคแลน เมอร์ดอค บุตรชายคนโตของเขา จะรับหน้าที่ประธานนิวส์คอร์ปและซีอีโอฟอกซ์คอร์ป
ทั้งนี้ ในฐานะประธานฟอกซ์และนิวส์ คอร์ปอเรชัน ซึ่งตีพิมพ์สื่อทรงอิทธิพลอย่างวอลล์สตรีทเจอร์นัลและนิวยอร์กโพสต์ เมอร์ดอคนับว่ามีอิทธิพลในพรรครีพับลิกัน การวางมือครั้งนี้นับเป็นการปิดฉาก 70 ปีในแวดวงสื่อ หลังจากเขาก่อร่างสร้างอาณาจักรสื่อที่มีตั้งแต่เคเบิลทีวีไปจนถึงแทบลอยด์
การวางมือของเมอร์ดอคยังมีขึ้นในช่วงเวลาสำคัญของอุตสาหกรรมสื่อ ที่เผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และผู้บริโภคหันให้ความสนใจบริการสตรีมมิงกันมากขึ้น
เอเชียอาคเนย์ไม่ถึงครึ่ง เชื่อโลกร้อนเป็นภัยร้ายแรง
การสำรวจแนวโน้มภูมิอากาศเอเชียอาคเนย์ประจำปี 2566 พบว่าคนในเอเชียอาคเนย์ไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่เข้าร่วมการสำรวจ มองว่าภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นประเด็นที่มีความเร่งด่วนในระดับสูง ทั้งที่ภูมิภาคกำลังเผชิญภัยพิบัติสืบเนื่องจากสภาพอากาศสุดขั้วผลจากโลกร้อน
ผู้ตอบแบบสำรวจในเอเชียอาคเนย์ 49.9% มองว่าภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงและเป็นภัยเฉพาะหน้าต่อความเป็นอยู่ของประเทศตนเอง เทียบกับเมื่อปี 2564 ที่มองคนเช่นนี้ถึง 68.8%
ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 41.9% มองว่ามีความจำเป็นต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงของมาเลเซีย ชี้ว่าผลการสำรวจสะท้อนว่ารัฐบาลของประเทศต่างๆ สื่อ และนักวิชาการ ต้องทำงานอย่างเร่งด่วนมากกว่านี้เพื่อสื่อสารให้เห็นถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการแก้ปัญหาภูมิอากาศ
รัสเซียระงับส่งออกน้ำมันเบนซิน–ดีเซล
รัสเซียระงับการส่งออกน้ำมันดีเซลและเบนซินเป็นการชั่วคราว มีผลบังคับใช้ทันที เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดเชื้อเพลิงภายในรัสเซีย แต่รัสเซียจะยังส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลให้แก่อดีตสมาชิกสหภาพโซเวียต ได้แก่ เบลารุส คาซัคสถาน อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน
รัสเซียระบุว่า คำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันชั่วคราวจะช่วยให้ตลาดเชื้อเพลิงมีความอิ่มตัว และจะลดราคาน้ำมันสำหรับผู้บริโภค ทั้งยังจะช่วยสกัดการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ หลายพื้นที่ในรัสเซียประสบภาวะขาดแคลนน้ำมันเบนซินและดีเซลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของรัสเซียมีขึ้นขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับขึ้นใกล้ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อันก่อให้เกิดกระแสวิตกว่ารัฐบาลกรุงมอสโกอาจใช้น้ำมันเป็นอาวุธ เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรของตะวันตก