HomeBT Newsย่อข่าวธุรกิจต่างประเทศ ภาคเย็น 22 กุมภาพันธ์ 2566

ย่อข่าวธุรกิจต่างประเทศ ภาคเย็น 22 กุมภาพันธ์ 2566

ฮ่องกงเล็งแจกคูปอง 5 พันดอลล์ กระตุ้นบริโภค

รัฐมนตรีคลังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประกาศระหว่างการนำเสนองบประมาณประจำปี 2566 ว่าคนฮ่องกงจะได้รับคูปองสำหรับอุปโภคบริโภครอบใหม่ มูลค่ารวม 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 20,000 บาท โดยผู้มีสิทธิได้รับคูปองได้แก่ผู้มีถิ่นฐานในฮ่องกงและผู้ที่เพิ่งเข้าไป

จะมีการแจกจ่ายคูปองงวดแรกมูลค่า 3,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 12,000 บาท ทางกระเป๋าเงินอิเลกทรอนิกที่ชาวฮ่องกงได้ลงทะเบียนไว้ในเดือนเม.ย. ส่วนที่เหลือจะแจกจ่ายประมาณช่วงกลางปี

- Advertisement -

เมื่อปีที่แล้วได้มีการแจกจ่ายคูปองกระตุ้นการบริโภค แก่ผู้ที่ไม่ได้ถิ่นพำนักถาวรเป็นครั้งแรก แต่ไม่รวมคนทำงานบ้านที่เป็นต่างชาติ

ทางการฮ่องกงแจกคูปองทุกปีตั้งแต่ปี 2563 เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจสืบเนื่องจากโรคระบาด โดยเมื่อปี 2563 คนในฮ่องกงได้รับเงินช่วยเหลือ 10,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 40,000 หมื่นบาท โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารให้เลย จากนั้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทางการได้แจกคูปองมูลค่า 5,000 และ 10,000 ดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้คน อันจะส่งผลดีต่อธุรกิจท้องถิ่นด้วย

เกาหลีใต้เตรียมยกเลิกตรวจโควิดนักเดินทางจีน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีใต้จะไม่บังคับให้นักเดินทางจากจีนตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังจากเดินทางเข้าเกาหลีใต้ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม นักเดินทางจากจีนยังต้องแสดงผลตรวจโควิดที่เป็นลบ ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นการผ่อนปรนกฎระเบียบครั้งล่าสุดของเกาหลีใต้ หลังจากรัฐบาลจีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือซีโร่โควิด โดยนับจากจีนเปิดประเทศ เกาหลีใต้ก็ได้ออกมาตรการจำกัดหลายข้อต่อนักเดินทางจากจีน แต่ผ่อนปรนไปแล้วบางข้อ เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดในจีนกระเตื้องขึ้น

เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้เผยว่า อัตราการติดเชื้อในบรรดาผู้เดินทางจากจีน ลดลงจาก 18.4% ในสัปดาห์แรกของเดือนม.ค. เหลือ 0.6% ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนก.พ. ทำให้สามารถผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมได้

อย่างไรก็ตาม กฎเกณฑ์ที่กำหนดให้นักเดินทางจากจีนตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง จะยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 10 มี.ค. เพื่อสังเกตและประเมินผลกระทบของการผ่อนปรนกฎระเบียบ

“ชิเซโด้” เปิดตัวแบรนด์ NARS ในอินเดีย

ชิเซโด้ เปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก “NARS Cosmetics” ในอินเดีย ผ่านข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนในการจัดจำหน่ายกับบริษัทโกลบอล เอสเอส บิวตี้ แบรนด์

การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการสานต่อการเติบโตและการหันเหไปสู่โครงสร้างที่มีกำไรสูง ด้วยการวางรากฐานสำหรับธุรกิจในตลาดที่มีแนวโน้มดี อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการริเริ่มในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยการเปิดตัว NARS ในอินเดียจะทำให้ชิเซโด้มีแบรนด์ด้านความงามที่แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยังจะหนุนนำการขยายตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ชิเซโด้เข้าไปในตลาดอินเดียครั้งแรกเมื่อปี 2544 และระยะหลังตลาดความงามของอินเดียมีพัฒนาการไปมาก การเพิ่มแบรนด์ NARS เข้าไปจะช่วยเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคอินเดีย ซึ่งมีความต้องการเสริมแต่งความงามที่หลากหลาย โดยหุ้นส่วนในการจัดหน่ายในอินเดียนั้น มีช่องทางการขายที่ครอบคลุม

มีการคาดหมายว่าตลาดเครื่องสำอางในอินเดีย จะขยายตัวเฉลี่ยต่อปี 9.6% จาก 1,200 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2563 เป็น 1,600 ล้านดอลลาร์ในปี 2568 ได้แรงหนุนจากผู้บริโภคที่เน้นคุณภาพและคุ้นเคยกับช่องทางดิจิทัล

แรงงานมีทักษะดิจิทัลเอเชียทำเงินได้มากกว่า

รายงานฉบับใหม่จากแกลลัพ และอเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส เปิดเผยว่า แรงงานในเอเชียแปซิฟิกที่มีทักษะทางดิจิทัลขั้นสูง มีโอกาสทำรายได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้ทักษะดิจิทัลในการทำงานมากสุดถึง 65% แม้มีวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ทำงานในระดับเดียวกัน

ทักษะดิจิทัลขั้นสูงหมายถึงทักษะในส่วนงานที่ซับซ้อน เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชัน ปัญญาประดิษฐ์ และแมชชีนเลิร์นนิง ตัวอย่างของแรงงานดิจิทัลขั้นสูง ได้แก่ สถาปนิกด้านคลาวด์และนักพัฒนาซอฟต์แวร์

รายงานทักษะทางดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2566 ระบุว่า แรงงานที่มีทักษะทางดิจิทัลขั้นสูง รวมถึงผู้ที่มีทักษะระดับกลางหรือพื้นฐาน เช่น ทักษะการใช้โปรแกรมประมวลคำและอีเมล สามารถเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของทั้งภูมิภาค ได้ประมาณปีละ 4.7 ล้านล้านดอลลาร์

องค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่จ้างแรงงานมีทักษะดิจิทัลขั้นสูง เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือสถาปนิกด้านคลาวด์ มีรายได้ต่อปีในปี 2564 สูงกว่าองค์กรที่จ้างแต่แรงงานที่มีทักษะดิจิทัลพื้นฐาน 150% และสูงกว่าองค์กรที่จ้างแรงงานมีทักษะดิจิทัลระดับกลาง 286%

โตโยต้าญี่ปุ่นไฟเขียวขึ้นค่าแรงครั้งใหญ่

มีรายงานข่าวจากกรุงโตเกียว ว่าบริษัทโตโยต้า ในญี่ปุ่น ตกลงที่จะขึ้นค่าแรงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี นับเป็นแนวโน้มเริ่มแรกในการปรับขึ้นค่าแรง หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือบีโอเจ มองหาหลักฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของค่าแรงกับเงินเฟ้อ ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบาย

โตโยต้าระบุว่า ตกลงจะเพิ่มค่าตอบแทน ซึ่งรวมถึงค่าแรงพื้นฐานและโบนัส ในการเจรจารอบแรก โดยมีกำหนดเจรจาให้ได้ข้อสรุปในเดือนมี.ค. และนับเป็นปีที่สามติดกันที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานทั้งหมด

ค่าแรงกลายเป็นประเด็นสำคัญในญี่ปุ่น เนื่องจากบีโอเจระบุว่าต้องเห็นค่าแรงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เพื่อให้แน่ใจเกี่ยวกับแนวโน้มขาขึ้นของราคาสินค้า หลังจากที่ผ่านมาญี่ปุ่นตกอยู่ในภาวะเงินฝืดมาเป็นสิบปี โดยบีโอเจกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% และมุ่งดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ จนกว่าค่าแรงจะเพิ่มขึ้นมาก

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News