HomeBT Newsย่อข่าวธุรกิจต่างประเทศ ภาคเช้า 22 กุมภาพันธ์ 2566

ย่อข่าวธุรกิจต่างประเทศ ภาคเช้า 22 กุมภาพันธ์ 2566

“ปูติน” ระงับข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐ

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แถลงนโยบายประจำปีต่อสมัชชาแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งผู้นำกองทัพ และผู้นำภาคธุรกิจ โดยปูตินได้ประกาศระงับความร่วมมือของรัสเซีย ในข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์  “New START” กับสหรัฐ

- Advertisement -

อย่างไรก็ดี รัสเซียยังไม่ได้ถอนตัวโดยสิ้นเชิงจากข้อตกลงดังกล่าว

ทั้งนี้ สหรัฐและรัสเซียลงนามในข้อตกลง  “New START” เมื่อปี 2553 โดยจำกัดให้แต่ละประเทศมีหัวรบนิวเคลียร์ไม่เกิน 1,550 หัวรบ ข้อตกลงดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในปี 2569

นอกจากนี้ ปูตินยังกล่าวว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซีย และ Rosatom ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย ควรเตรียมพร้อมสำหรับการทดลองนิวเคลียร์ หากมีความจำเป็น อย่างไรก็ดี ปูตินย้ำว่ารัสเซียจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มต้นในการทดลองนิวเคลียร์

ประธานาธิบดีปูติน ระบุด้วยว่า รัสเซียพร้อมเจรจาด้านความมั่นคงกับชาติตะวันตก แต่ได้รับการตอบรับที่เสแสร้ง พร้อมเสริมว่ารัสเซียจะเดินหน้าทำสงครามในยูเครน และกล่าวหาว่าสหรัฐกับพันธมิตรจากนาโต เป็นฝ่ายที่กระพือให้ความขัดแย้งลุกลามออกไป ท่ามกลางความเชื่อที่ว่าชาติตะวันตกจะสามารถเอาชนะรัสเซียได้

 “สิงคโปร์ แอร์ไลนส์” รายได้ทะยาน 7 เท่า

สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลนส์ รายงานกำไรสุทธิช่วงไตรมาส 3 ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. ทะยานลิ่วกว่า 7 เท่า ไปอยู่ที่ 628 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 16,000 ล้านบาท จาก 85 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น

ตัวเลขผลกำไร ได้แรงหนุนจากความต้องการเดินทาง ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในตลาดหลักๆ พร้อมคาดหมายว่าความต้องการเดินทางทางอากาศในช่วงไตรมาส 4 จะดำเนินไปอย่างแข็งแกร่ง หลังจากจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไต้หวัน เลิกมาตรการคุมเข้มการเดินทางที่นำมาใช้ช่วงโควิดระบาด

สิงคโปร์ แอร์ไลนส์ คาดว่าความสามารถในการรองรับผู้โดยสารช่วงไตรมาส 4 จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ยราว 77% ของระดับก่อนเกิดโควิด

อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินเตือนว่าอุตสาหกรรมการบินยังเผชิญการท้าทาย สืบเนื่องจากเงินเฟ้อและราคาเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับสูง อีกทั้งการแข่งขันยังมีแนวโน้มจะดุเดือด เพราะสายการบินต่างๆ พากันเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร สำหรับเส้นทางบินระหว่างประเทศ

อังกฤษเดินหน้าทำงานอาทิตย์ละ 4 วันหลังผลตอบรับดี

         การทดลองทำงานสัปดาห์ละ 4 วันในอังกฤษ ได้รับการตอบรับอย่างดี จนบริษัทจำนวน 92% เดินหน้าแนวคิดนี้

การทดลองดังกล่าวเป็นการทดลองทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ 61 แห่ง โดย 56 แห่งในจำนวนนี้ตัดสินใจเดินหน้านโยบายดังกล่าว หลังจากเห็นว่าศักยภาพในการผลิตหรือการทำงานของพนักงาน ยังมีเสถียรภาพ ส่วนความพึงพอใจของพนักงาน สูงขึ้นอย่างมาก และพนักงาน 71% รายงานว่าความเครียดหรือภาวะเหนื่อยล้า ลดลง

นอกจากนั้น ระดับของความวิตกกังวล ความเหน็ดเหนื่อย และปัญหาในการนอน ก็ลดลงเช่นกัน ขณะที่สุขภาพจิตและสุขภาพกายดีขึ้น

บริษัทและองค์กรที่เข้าร่วมในการทดลองระยะเวลา 6 เดือนครั้งนี้ มีตั้งแต่ธุรกิจท้องถิ่นขนาดเล็ก ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานประมาณ 2,900 คน ซึ่งพนักงานของบริษัทที่เข้าร่วม มีเวลาทำงานลดจาก 5 เหลือ 4 วันต่อสัปดาห์ โดยได้ค่าจ้างเท่าเดิม

         ผลปรากฏว่า รายได้ของบริษัทเหล่านี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.4% และ 14 บริษัทประกาศปรับเปลี่ยนไปทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ เป็นการถาวร

สิงคโปร์จับมืออินเดีย โอนเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์

         สิงคโปร์และอินเดีย เปิดตัวช่องทางอำนวยความสะดวกด้านการโอนเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์ ระหว่างผู้ที่มีบัญชีธนาคารหรืออีวอลเลต (e-wallet) บนมือถือ

บริการดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท PayNow ของสิงคโปร์ กับ UPI แห่งอินเดีย โดยลูกค้าของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมในโครงการนี้ สามารถโอนเงินให้กันเพียงใข้เบอร์โทรศัพท์มือถือ, ชื่อผู้ใช้ของ UPI หรือ  Virtual Payment Address

ธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุว่า บริการนี้มีความปลอดภัย ใช้งานง่าย และประหยัดต้นทุน โดยในสิงคโปร์ ลูกค้าของธนาคารดีบีเอสและบริษัทฟินเทค ลิควิค กรุ๊ป จะสามารถใช้บริการนี้ได้

ส่วนธนาคารในอินเดียที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วยแอกซิสแบงก์, ดีบีเอสอินเดีย, ไอซีไอซีไอแบงก์, อินเดียนแบงก์, อินเดียน โอเวอร์ซี แบงก์ และสเตท แบงก์ ออฟ อินเดีย

ในช่วงแรก ลูกค้าบางรายของธนาคารดีบีเอส จะสามารถโอนเงินได้ครั้งละ 200 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 5,000 บาท โดยจำกัดวงเงินที่วันละ 500 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 12,000 บาท จากนั้นภายในวันที่ 31 มี.ค. ลูกค้าดีบีเอสทุกคนจะสามารถใช้บริการนี้ได้ และอาจโอนเงินได้ถึง 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 25,000 บาท

ชาวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นเพิ่มเดือนมค.

         รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยประมาณการตัวเลขชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นช่วงเดือนม.ค. ว่าเพิ่มขึ้น 130,000 คนจากเดือนธ.ค. เป็นเกือบ 1.5 ล้านคน สืบเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโรคระบาด

แม้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก รวมถึงเกาหลีใต้กับไต้หวัน มีจำนวนประมาณ 1 ล้านคน แต่ยอดรวมยังอยู่ที่ระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดเมื่อเดือนม.ค. ปี 2562 อยู่ 44.3%

นักท่องเที่ยวจากจีน มีจำนวนทั้งสิ้น 31,200 คน เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มการคุมเข้มสำหรับผู้ที่เดินทางจากจีนในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับตัวเลขผู้เดินทางเข้าประเทศ 1,497,300 คนนั้น ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศที่หยุดยาวในช่วงตรุษจีน ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศแถบตะวันตกยังมีน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่เพิ่งเดินทางกันไปในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News