ญี่ปุ่นเตือนนักท่องเที่ยว ระวังแท็กซี่ไร้ใบอนุญาต
รัฐบาลญี่ปุ่นเตือนนักท่องเที่ยว ให้ระมัดระวังการใช้บริการรถแท็กซี่ที่ไม่มีใบอนุญาต หลังจากความต้องการใช้บริการขนส่งเพิ่มขึ้นในกรุงโตเกียว เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งขึ้น
เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่น เผยแพร่ใบปลิวคำเตือนเกี่ยวกับการใช้บริการรถแท็กซี่ที่ไม่มีใบอนุญาต เป็นภาษาอังกฤษและจีน ที่สนามบินนาริตะในกรุงโตเกียว ระบุว่ารถแท็กซี่ที่ไม่มีใบอนุญาต ผิดกฎหมายและไม่ปลอดภัย พร้อมเสริมว่า ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุขณะโดยสารรถแท็กซี่เหล่านี้ อาจไม่ได้รับการคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย โดยแท็กซี่ที่มีใบอนุญาตจะมีป้ายทะเบียนสีเขียว ส่วนแท็กซี่ที่ไม่มีใบอนุญาตจะมีป้ายทะเบียนสีขาว
โอเพนเอไอดึงซีอีโอกลับทำหน้าที่ หลังเพิ่งปลดฟ้าผ่า
นายแซม อัลต์แมน ซีอีโอบริษัทโอเพนเอไอ ซึ่งพัฒนาแชตจีพีที ถูกดึงกลับไปทำหน้าที่เดิมหลังจากถูกบอร์ดบริษัทปลดจากตำแหน่งแบบฟ้าผ่าเพียงวันเดียว โดยเขาได้เดินทางไปพูดคุยยังบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นมาเองแห่งนี้ หลังจากบรรดานักลงทุนของบริษัท ผลักดันให้แต่งตั้งอัลต์แมนกลับมาดำรงตำแหน่ง
นอกจากนั้น พนักงานกลุ่มใหญ่ของโอเพนเอไอ รวมถึงบรรดาผู้บริหาร ก็แสดงการสนับสนุนนายอัลต์แมนเช่นกัน โดยในบรรดาผู้ที่สนับสนุนนายอัลต์แมนรวมถึงบริษัทไมโครซอฟท์, Sequoia Capital, Tiger Global และ Thrive Capital ขณะที่นายแบรด ไลต์แคป กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการของโอเพนเอไอ ก็ระบุว่าคำประกาศของบอร์ดสร้างความประหลาดใจแก่ทุกฝ่าย
ก่อนหน้านี้ โอเพนเอไอเปิดเผยว่านายอัลต์แมน จะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ หลังจากคณะกรรมการบริษัทพบว่าเขามักไม่ตรงไปตรงมา หรือไม่มีความชัดเจนด้านการสื่อสาร
การตัดสินใจของบอร์ดทำให้นายเกร็ก บรอคแมน ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งโอเพนเอไอประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน พร้อมโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X ว่าภูมิใจกับสิ่งที่เขาและอัลต์แมนได้สร้างขึ้นมาด้วยกัน ตั้งแต่เริ่มต้นในอพาร์ตเมนต์ของเขาเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
ซีอีโอออปตัสลาออก หลังมือถือ-เน็ต ล่ม 14 ชั่วโมง
เคลลี เบเยอร์ รอสมาริน ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทออปตัส ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมอันดับ 2 แห่งออสเตรเลีย หลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้เกิดเหตุระบบของออปตัสล่มทั่วประเทศ ทำให้โทรศัพท์และบริการอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้คนเกือบครึ่งประเทศ ใช้งานไม่ได้เป็นเวลา 14 ชั่วโมง
เบเยอร์ รอสมาริน ระบุในแถลงการณ์ที่ออกโดยสิงเทล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของออปตัส ว่าเป็นเวลาเหมาะสมที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง หลังจากเธอไปให้การต่อคณะกรรมการประจำวุฒิสภาเกี่ยวกับการล่มของระบบเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ออปตัสยืนยันว่าการล่มของระบบเป็นผลจากประเด็นเกี่ยวกับการตั้งค่าเราเตอร์มากกว่า 90 ตัว หลังจากการอัปเกรดซอฟท์แวร์ตามปกติ อย่างไรก็ดี ออปตัสระบุว่าได้ดำเนินการแก้ไขเพื่อป้องกันประเด็นนี้ เกิดขึ้นซ้ำรอยแล้ว
“ทรัมป์”ลั่นยกเลิกกรอบศก.อินโด-แปซิฟิก ถ้าชนะเลือกตั้ง
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในการเลือกตั้งปีหน้า สัญญาจะยกเลิกกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (ไอพีอีเอฟ) อันเป็นแนวคิดริเริ่มทางการค้าในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หากเขาชนะการเลือกตั้งปีหน้าและได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ
ทรัมป์ระบุในการหาเสียงที่รัฐไอโอวา วิจารณ์กรอบความร่วมมือดังกล่าวว่าอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตและตำแหน่งงานของสหรัฐ ดังนั้นหากเขาได้ขึ้นบริหารประเทศ แผนการของไบเดนสำหรับ “ทีพีพีสอง” จะยุติลงในวันแรก
ทั้งนี้ ไอพีอีเอฟถือเป็นกรอบความร่วมมือที่เป็นทางเลือกหนึ่ง เพื่อคานอิทธิพลทางการค้าของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก อย่างไรก็ตาม การเจรจาการค้าภายใต้กรอบไอพีอีเอฟเผชิญอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานแรงงานและสิ่งแวดล้อม
อิสราเอลเผยภาพตัวประกันไทย–เนปาลที่รพ.
กองทัพอิสราเอลเปิดเผยภาพวงจรปิดและภาพนิ่ง ที่ระบุว่าเป็นภาพนักรบฮามาสนำตัวประกัน ซึ่งเป็นชาวเนปาล 1 คนและชาวไทย 1 คน ไปยังโรงพยาบาลอัล-ชีฟา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยวิดีโอแสดงให้เห็นว่าตัวประกันคนหนึ่งถูกนำตัวเข้าทางประตูหน้าของโรงพยาบาล ส่วนตัวประกันอีกคนซึ่งมือถูกพันแผลและเห็นชัดว่าเลือดไหล นอนบนเตียงและถูกเข็นเข้าไปในห้อง
กระทรวงสาธารณสุขในกาซาระบุว่า หากภาพและวิดีโอเหล่านี้เป็นของจริง ก็แสดงให้เห็นว่าโรงพยาบาลกำลังให้การรักษาแก่ผู้คนที่ต้องการการรักษา อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพอิสราเอลระบุว่าตัวประกันคนหนึ่งไม่ได้บาดเจ็บ แต่ทั้งสองคนถูกนำตัวไปโรงพยาบาลก่อน จากนั้นก็ถูกย้ายไปซ่อนตัวที่อื่น ซึ่งอาจเป็นอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้เคียง
ขณะที่กลุ่มฮามาสได้แถลงเมื่อวันเสาร์ (18 พ.ย.) ก่อนวิดีโอและภาพนิ่งเหล่านี้ถูกนำมาเผยแพร่ ว่าได้นำตัวประกันหลายคนไปยังโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา หลังจากได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
โฆษกกองทัพอิสราเอลระบุว่าได้แจ้งรัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องให้ทราบแล้ว แต่ทหารอิสราเอลยังไม่พบตัวประกัน
ทั้งนี้ หลังจากบุกโรงพยาบาลอัล-ชีฟาเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพอิสราเอลตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก ให้พิสูจน์ข้อกล่าวอ้างว่ากลุ่มฮามาสใช้โรงพยาบาลแห่งนี้เพื่อการสู้รบและบัญชาการ โดยนอกจากเผยแพร่วิดีโอตัวประกันทั้งสองแล้ว กองทัพอิสราเอลยังเผยแพร่วิดีโอที่ระบุว่าเป็นเครือข่ายอุโมงค์ใต้โรงพยาบาลดังกล่าว
