“โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติ 7-3 ลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% โดยข้อความในทวิตเตอร์ระบุว่า
“เจอโรม พาวเวล และเฟดล้มเหลวอีกครั้งหนึ่ง ไม่มีกึ๋น ไม่มีสามัญสำนึก ไม่มีวิสัยทัศน์ และเป็นผู้สื่อสารที่แย่มาก”

แม้เฟดจะลดดอกเบี้ยตามตลาดคาดการณ์ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไป โดยนายพาวเวลกล่าวภายหลังการประชุมว่า
“เฟดจะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง หากมีความจำเป็น อย่างไรก็ดี เขายังไม่เห็นว่าสิ่งนี้มีความจำเป็นในขณะนี้”
โดย 3 เสียงข้างน้อยคือ “นายเอริค โรเซนเกรน” ประธานเฟดสาขาบอสตัน และ “นางเอสเธอร์ จอร์จ” ประธานเฟด สาขาแคนซัสซิตี้ ซึ่งสนับสนุนให้คงดอกเบี้ย ขณะที่ “นายเจมส์ บูลลาร์ด” ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ สนับสนุนให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
“ธนาคารกลางฮ่องกง” ลดดอกเบี้ยตามเฟด
“ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA)” ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 2.25% ในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25%
“นายนอร์แมน ชาน” ประธานธนาคารกลางกล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ในฮ่องกงไม่จำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามเฟด เพราะมีการพิจารณาด้านเงินทุนของตนเอง โดยธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้ง และธนาคารแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย อยู่ในกลุ่มธนาคารที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองเมื่อไม่นานมานี้
โดยนักวิเคราะห์มองว่านโยบายการเงินของฮ่องกงมีความสอดคล้องกับนโยบายการเงินของเฟด เนื่องจากดอลลาร์ฮ่องกงผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบในทันทีต่อต้นทุนสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจและครัวเรือน
“แบงก์ชาติเกาหลีใต้” ชี้เฟดดอกเบี้ยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
“นายลี จู ยอล” ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) กล่าวในวันนี้ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐครั้งล่าสุดได้สร้างโอกาสสำหรับเกาหลีใต้ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น โดยช่วยลดภาระสำหรับประเทศอื่นๆ ในการดำเนินนโยบายการเงินของตนเอง ขณะที่เกาหลีใต้เผชิญกับภาวะการส่งออกลดลง และการลงทุนชะลอตัว
โดยมีการคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางเกาหลีใจ้ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมครั้งหน้า จากเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่กำลังชะลอตัว หลังยอดขายสินค้าในต่างประเทศร่วงลง และการลงทุนอ่อนแอลง
BOJ คงดอกเบี้ย หลัง FED ลดดอกเบี้ย
“ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)” มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุมวันนี้ แม้เผชิญแรงกดดันให้ดำเนินนโยบายตามธนาคารกลางของประเทศอื่นๆที่พากันผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน
โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวไว้ใกล้ระดับศูนย์ นอกจากนี้ยังได้คงขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ในปริมาณมากเช่นกัน