อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ไม่ธรรมดา ฝันไกลห้ามรถใช้น้ำมันทุกชนิด เข้าเมืองในอีก 11 ปีข้างหน้า หวังต่ออายุชาวเมืองพร้อมลดมลพิษ
กรุงอัมสเตอร์ดัมมีแผนการใหญ่ ห้ามรถใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล เข้าเมืองภายในปี 2573 เร่งสร้างสถานีชาร์จ แหล่งขุมพลังรถพลังไฟฟ้า
แผนการบางส่วนจะเริ่มประเดิมใช้ต้นปีหน้า ด้วยการห้ามรถใช้น้ำมันดีเซลบางประเภท เข้าไปบริเวณกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม และตั้งแต่ปี 2565 รถบัสและรถโคชจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปกลางเมืองหากใช้เครื่องยนต์พลังไฟฟ้าหรือไฮโดรเจน
ขั้นต่อไปคือภายในปี 2573 หรือ 11 ปีข้างหน้า ยวดยานทุกประเภทในเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ต้องปลอดมลพิษ
รองนายกเทศมนตรีอธิบายว่า กรุงอัมสเตอร์ดัมเล็งเห็นประเด็นเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พร้อมไปกับเป้าหมายของการลดโลกร้อนไปด้วยในตัว ทางเมืองจึงพยายามสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมให้ทุกคนได้สูดอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ ด้วยการกำหนดให้การเดินทางไปไหนมาไหนไม่ก่อให้เกิดมลพิษ รวมถึงลดมลพิษจากแหล่งอื่นๆ ด้วย
กรุงอัมสเตอร์ดัมหวังว่าการสร้างสภาพแวดล้อมให้อากาศสะอาดบริสุทธิ์ จะเพิ่มอายุขัยเฉลี่ยของชาวเมือง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 9%
นอกจากกรุงอัมสเตอร์ดัมแล้ว เมืองใหญ่ๆ อีกหลายเมืองทั่วโลกก็เริ่มจำกัดยวดยานที่ปล่อยมลพิษ โดยกรุงปารีส มาดริด เอเธนส์ และเม็กซิโกซิตี ประกาศจะห้ามยานพาหนะที่ใช้น้ำมันดีเซลภายในปี 2568
ส่วนปีนี้กรุงลอนดอนได้เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมในระดับสูงจากยวดยานที่ไม่ได้มาตรฐานการปล่อยมลพิษอันเข้มงวดและต้องการเดินทางเข้าไปกลางเมือง ขณะที่หลายเมืองของเยอรมนีได้ออกข้อจำกัดสำหรับยวดยานใช้น้ำมันดีเซลแล้ว
ปัจจุบันกรุงอัมสเตอร์ดัมมีเขตปล่อยมลพิษต่ำ 5 เขต ซึ่งห้ามยวดยานที่ปล่อยมลพิษสูง ในอนาคตจะมีการขยายเขตปล่อยมลพิษต่ำออกไปอีก พร้อมกับการเข้มงวดกฎระเบียบ
ขณะเดียวกัน ชาวเมืองอัมสเตอร์ดัมได้รับการส่งเสริมให้เปลี่ยนไปใช้รถพลังไฟฟ้า ด้วยโครงการ car-share และการให้เงินอุดหนุน แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าอาจต้องมีสถานีชาร์จมากถึง 23,000 สถานีภายในปี 2568 เพื่อรองรับบรรดารถพลังไฟฟ้า
ปัจจุบัน กรุงอัมสเตอร์ดัมมีจุดชาร์จประมาณ 3,000 จุดตามลานจอดรถสาธารณะ และกำลังมีการติดตั้งสถานีชาร์จเพิ่มเติมอีก 1,000 สถานีตามถนนสายต่างๆ ขณะที่ผู้ซื้อรถพลังไฟฟ้าสามารถขอให้มีการติดตั้งจุดชาร์จได้แถวบ้าน
Vattenfall บริษัทพลังงานยุโรปที่จัดหาพลังงานจากฟาร์มลมและแสงอาทิตย์ รับหน้าที่ติดตั้งจุดชาร์จตามบ้านเรือน ธุรกิจต่างๆ และสถานที่สาธารณะในเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ โดยผู้บริหารบริษัทระบุว่า Vattenfall เป็นบริษัทแรกในโลกที่ติดตั้งจุดชาร์จมากขนาดนี้
แต่การติดตั้งจุดชาร์จไม่ใช่งานง่ายๆ และหากทั้งเมืองต้องการชาร์จรถในเวลาเดียวกัน ระบบน่าจะล่ม ดังนั้นบริษัทจึงพยายามติดตั้งจุดชาร์จอย่างยืดหยุ่นเพื่อดูความเหมาะสม
ปัจจุบันมีรถยนต์พลังไฟฟ้าประมาณ 17,000 คันในกรุงอัมสเตอร์ดัม แต่ตัวเลขนี้น่าจะเพิ่มขึ้น 4 เท่าในช่วง 3 ปีข้างหน้า
สำหรับรถแท็กซี่และรถเช่านั้น ได้เปลี่ยนไปใช้รถพลังไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าของรถส่วนตัวทุกคน ยังไม่มีกำลังพอเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า
รองนายกเทศมนตรีกรุงอัมสเตอร์ดัมยอมรับว่า รถที่ไม่ปล่อยมลพิษต้องมีราคาถูก รวมถึงมีตลาดรถไฟฟ้ามือสองภายในปี 2568 แม้การผลักดันให้หลายอย่างเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันเป็นเรื่องยาก แต่เจตนารมย์ทางการเมืองและการร่วมใจกันของสังคม จะช่วยขับเคลื่อนแผนการนี้ไปสู่ความสำเร็จ