รอน เคลน หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวคนใหม่ เปิดเผยว่า ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารนับสิบฉบับ เพื่อยกเลิกนโยบายบางอย่างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันพุธ
ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 จะนำสหรัฐกลับเข้าร่วมข้อตกลงลดโลกร้อนปารีส, ยกเลิกคำสั่งห้ามคนจาก 7 ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมเข้าสหรัฐ, ขยายเวลาพักการชำระหนี้เงินกู้เพื่อการศึกษา, ระงับการไล่ที่และการยึดที่ช่วงโควิด-19 ระบาด รวมถึงกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยในช่วงของการเดินทางข้ามรัฐและระหว่างอยู่ในอาคารของรัฐบาลกลาง
นอกจากยกเลิกนโยบายที่ทรัมป์ประกาศไว้ส่วนหนึ่งแล้ว มาตรการดังกล่าวยังเป็นการผลักดันนโยบายที่ไม่สามารถกระทำได้ในยุคของทรัมป์อีกด้วย
ในบรรดานโยบายที่ไบเดนจะลงมือทำในช่วง 10 วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ยังรวมถึงเพิ่มการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และขอให้รัฐบาลพิจารณาสินค้าที่ผลิตในสหรัฐตอนที่มีแผนสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
เคลนระบุว่า ไบเดนเข้ารับตำแหน่งผู้นำในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติ และจะเริ่มลงมือแก้ไขวิกฤติต่างๆ ในทันที พร้อมกับฟื้นฟูเศรษฐกิจในแบบที่สร้างความแข็งแกร่งให้แก่แกนหลักของประเทศ
สำหรับการรักษาความปลอดภัยในช่วงพิธีสาบานตนนั้น ได้มีการระดมกองกำลังสำรองเข้าสู่กรุงวอชิงตันอย่างต่อเนื่อง คาดว่าน่าจะมีจำนวนประมาณ 25,000 นาย หลังจากผู้ว่าการรัฐต่างๆ ตอบรับคำขอของเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม ให้ส่งกองกำลังเข้าไปเพิ่ม แต่บางรัฐ อย่างโอเรกอน ขอกองกำลังส่วนหนึ่งไว้ดูแลที่รัฐ เพื่อเตรียมพร้อมกรณีเกิดเหตุรุนแรง