สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางของจีนเพิ่มการอัดฉีดสภาพคล่องในวันจันทร์ (16 ม.ค.) โดยมีวงเงินทั้งเงินกู้ระยะกลางและระยะสั้นรวมกันมากกว่า 7.79 แสนล้านหยวน ก่อนช่วงตรุษจีนที่จะมีประชาชนและห้างร้านต้องการเม็ดเงินเพิ่มเป็นจำนวนมาก
ธนาคารประชาชนจีน ได้เสนอเงินกู้มูลค่า 7.79 แสนล้านหยวน (1.16 แสนล้านดอลลาร์) ผ่านสินเชื่อระยะกลางระยะเวลา 1 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.75% ซึ่งเมื่อดูในรายละเอียดแล้ว ราว 7 แสนล้านหยวนจะหมดอายุในสิ้นเดือนนี้ ดังนั้นจึงเป็นเม็ดเงินใหม่ที่เปิดให้กู้ราว 7.9 หมื่นล้านหยวน
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้นมูลค่า 1.56 แสนล้านหยวน ซึ่งแยกเป็นเม็ดเงิน 8.2 หมื่นล้านหยวนโดยผ่านกลไกซื้อคืนพันธบัตร (Reverse Repo) ระยะ 7 วัน และอีก 7.4 หมื่นล้านหยวนสำหรับการซื้อคืนอายุ 14 วันอีกด้วย
ในแถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนระบุเป้าหมาย เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ให้เพียงพอ และตอบสนองความต้องการเงินสดของสถาบันการเงินอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.75% เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิมเข้าสู่เดือนที่ห้าติดต่อกัน ทำให้บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าทางการจีนจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราสินเชื่อระยะกลางหรือมักใช้เป็นแนวทางในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐาน ซึ่งที่ประกาศเป็นรายเดือน และในเดือนนี้กำหนดประกาศในวันศุกร์ ทำให้นักวิเคราะห์เห็นว่าธนาคารกลางน่าจะลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ลงราว 5 -10 เบซิสพอยท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่ออายุ 5 ปี โดยมุ่งช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังประสบวิกฤตอย่างหนัก