ผู้ประท้วงต้านทุนนิยม-หนุนปาเลสไตน์ ชุมนุมก่อนเอเปคเปิดฉาก
ผู้ประท้วงหลายร้อยคน ตั้งแต่กลุ่มที่ต่อต้านระบบทุนนิยมไปจนถึงกลุ่มที่สนับสนุนปาเลสไตน์ รวมตัวกันที่นครซานฟรานซิสโกก่อนการประชุมสุดยอดเอเปคเปิดฉากขึ้น
ผู้ประท้วงได้เดินขบวนพร้อมเรียกร้องให้ผู้เข้าร่วมประชุมเอเปค ให้ความสำคัญกับคนและโลก มากกว่าธุรกิจ โดยผู้ประท้วงคนหนึ่งแสดงความเห็นว่า เอเปคแสร้งทำเป็นหารือเพื่อสร้างเศรษฐกิจสีเขียว แต่จริงๆ แล้วกำลังหาประโยชน์จากทรัพยากรที่มีค่า อันจำเป็นในการพัฒนาทางเลือกที่สะอาด เพื่อผลกำไรสำหรับบรรดาซีอีโอในสหรัฐ
นอกจากนั้น ยังมีผู้ประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์เข้าร่วมในการชุมนุม และเรียกร้องให้ยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา
ทั้งนี้ ประเด็นที่หลายฝ่ายน่าจะจับตาในการประชุมสุดยอดเอเปคครั้งนี้ คือการพบปะกันของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส
ผู้นำโลกอาหรับ-มุสลิม ร้องเลิกจำหน่ายอาวุธให้อิสราเอล
ที่ประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับและองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) แถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมที่ซาอุดีอาระเบีย เรียกร้องให้ยุติสงคราม และไม่ยอมรับการกล่าวอ้างของอิสราเอลว่ากระทำไปเพื่อปกป้องตนเอง ทั้งยังเรียกร้องให้ยุติการปิดล้อมกาซา เพื่อเปิดทางให้ลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และเรียกร้องให้ยุติการจำหน่ายอาวุธให้แก่อิสราเอล
นอกจากนั้น ผู้นำโลกอาหรับและอิสลามยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งประชาชาติ ออกมติที่เด็ดขาดและมีผลผูกพัน เพื่อยุติการรุกรานของอิสราเอลในกาซา
เดิมสันนิบาตอาหรับที่มีสมาชิก 22 ประเทศ และโอไอซีจะประชุมแยกกัน แต่ต่อมาได้ขยายเป็นการประชุมร่วมกับโอไอซี ซึ่งมีสมาชิก 57 ประเทศ โดยเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงกล่าวเปิดการประชุม เรียกร้องให้ยุติปฏิบัติการทางทหารในกาซาทันทีและปล่อยตัวประกันรวมถึงนักโทษทั้งหมด
ด้านประธานาธิบดีอิบรอฮีม เราะอีซีแห่งอิหร่าน ซึ่งเป็นประธานาธิบดีอิหร่านคนแรกในรอบ 11 ปีที่เดินทางไปซาอุฯ ระบุว่าการทิ้งระเบิดอย่างไม่เลือก เข้าใส่กาซาต้องยุติลง พร้อมชี้ถึงการที่สหรัฐสนับสนุนอิสราเอลในสหประชาชาติ และใช้สิทธิยับยั้งมติต่างๆ ซึ่งเป็นการปูทางให้อิสราเอลทิ้งระเบิดมากขึ้น
รพ.ใหญ่อันดับ 2 กาซายุติดำเนินงาน หลังขาดแคลนพลังงาน
สมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์เปิดเผยว่าโรงพยาบาลอัลกัดส์ ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ในกาซา ยุติการดำเนินงานเพราะขาดแคลนพลังงาน หลังจากอิสราเอลเดินหน้าโจมตีกาซา
สภาเสี้ยวเดือนแดงปาเลสไตน์ระบุว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์กำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อดูแลคนป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บ แม้ต้องใช้วิธีการทางการแพทย์ที่แตกต่างออกไป ท่ามกลางสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้าย และการขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ อาหาร และน้ำ
ขณะที่นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่าโรงพยาบาลอัลไชฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในกาซา ไม่ได้มีสภาพเป็นโรงพยาบาลอีกต่อไปแล้ว โลกไม่อาจอยู่เฉยขณะที่โรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งควรเป็นสถานที่ปลอดภัย กลายเป็นฉากที่มีการเสียชีวิต ทำลายล้าง และสิ้นหวัง
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เปิดเผยว่าคนป่วยและเจ้าหน้าที่ ติดอยู่ในโรงพยาบาลอัลไชฟา ขณะที่การสู้รบดำเนินอยู่ใกล้โรงพยาบาล ส่วนไฟฟ้า อาหาร และอุปกรณ์การแพทย์ในโรงพยาบาลก็กำลังร่อยหรอลง
อิสราเอลระบุว่า ได้เปิดเส้นทางอพยพบริเวณด้านนอกโรงพยาบาลอัลไชฟา แต่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศกล่าวว่าไม่มีผู้ใดอพยพออกมา
ด้านเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์เผยว่า กลุ่มฮามาสระบุว่าระงับการเจรจาเรื่องตัวประกัน สืบเนื่องจากสถานการณ์ที่โรงพยาบาลอัลไชฟา หลังจากสถานีโทรทัศน์อิสราเอลรายงานว่ามีความคืบหน้าเรื่องตัวประกัน ซึ่งจะรวมถึงการปล่อยผู้หญิง เด็ก และคนแก่ 50-100 คนระหว่างการพักรบ 3-5 วัน
เส้นทางการค้าเมียนมา-จีนชะงัก กลุ่มกบฏคุมถนนสายหลัก
กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในรัฐฉาน จับมือกันโจมตีกองทัพเมียนมา และปิดถนนสายสำคัญไปยังจีน 2 สาย ทำให้การค้าข้ามพรมแดนหยุดชะงัก ส่งผลให้สินค้าราคาแพงขึ้น และรัฐบาลขาดรายได้จากภาษี
ทั้งนี้ การสู้รบในรัฐฉานดำเนินมา 2 สัปดาห์ และการปิดกั้นเส้นทางคมนาคมสำคัญทำให้ราคาข้าวของในตลาดแพงขึ้น อีกทั้งยังเป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลในการส่งกองหนุนไปสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ โดยชาวเมืองมูเซที่มีพรมแดนติดกับจีน เผยว่าไม่มีรถบรรทุกสินค้าเข้ามาตั้งแต่เริ่มมีการสู้รบเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ทั้งที่ปกติจะเข้ามาวันละหลายร้อยคันเพื่อนำผักผลไม้ไปจีน และนำเครื่องใช้ไฟฟ้า ยา สินค้าอุปโภคบริโภคกลับมาจากจีน
ขณะที่ชาวเมืองล่าเสี้ยว เผยว่าก่อนเกิดการสู้รบ ข้าวสาร 1 กระสอบมีราคา 160,000 จ๊าต แต่ปัจจุบันราคาขึ้นมาอยู่ที่ 190,000 จ๊าต หากการสู้รบยืดเยื้อ พวกเขาจะยิ่งลำบาก