สหรัฐปิด”ซิกเนเจอร์ แบงก์”หวั่นความเสี่ยง
ทางการสหรัฐประกาศปิดกิจการซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่ปล่อยกู้ให้อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันความเสี่ยงในระบบธนาคาร การสั่งปิดครั้งนี้นับเป็นการล่มสลายครั้งใหญ่อันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ธนาคารสหรัฐ
กระทรวงการคลัง พร้อมด้วยธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด และบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลาง แถลงร่วมกันว่า ได้ตัดสินใจปิดกิจการซิกเนเจอร์ แบงก์ เนื่องจากกังวลว่าจะเกิดความเสี่ยงเชิงระบบ และขอยืนยันว่าประชาชนที่ฝากเงินไว้กับซิกเนเจอร์ แบงก์ สามารถเข้าถึงเงินฝากได้เต็มจำนวน
ซิกเนเจอร์ แบงก์ มีขนาดใหญ่รองจากซิลเวอร์เกต ราคาหุ้นของธนาคารร่วงลงเกือบ 40% ในปีนี้ หลังจากซิลเวอร์เกต แคปิตอล ประกาศยุติการดำเนินงาน
ข้อมูลระบุว่า นับถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ซิกเนเจอร์ แบงก์ มีสินทรัพย์ 1.104 แสนล้านดอลลาร์ และมีเงินฝาก 8.86 หมื่นล้านดอลลาร์
เฟดยันปชช.เข้าถึงเงินฝาก
เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูธนาคารและการเงินของสหรัฐ ประกาศแผนคุ้มครองเงินฝากของประชาชนที่ฝากเงินไว้กับซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ หรือเอสวีบี หวังบรรเทาความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นจากการล่มสลายของเอสวีบี
ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ประกาศว่าจะจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสถาบันการเงินต่างๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของเอสวีบี โดยจะเสนอเงินกู้อายุ 1 ปีให้ธนาคารพาณิชย์, สถาบันรับฝากเงิน, เครดิตยูเนี่ยน และสถาบันการเงินประเภทอื่นๆ
ขณะที่กระทรวงการคลังยืนยันว่าประชาชนที่ฝากเงินไว้ที่ธนาคารเอสวีบี และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ สามารถเข้าถึงเงินฝากของตนได้เต็มจำนวน โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มี.ค.
เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด พร้อมด้วยเจเนต เยลเลน รัฐมนตรีคลัง และมาร์ติน กรุนเบิร์ก ประธานบรรษัทค้ำประกันเงินฝาก แถลงร่วมกันว่าได้ตัดสินใจใช้นโยบายที่เด็ดขาดเพื่อปกป้องเศรษฐกิจของสหรัฐ ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นในระบบธนาคาร
คลังสหรัฐประกาศไม่อุ้มเอสวีบี–ซิกเนเจอร์
กระทรวงการคลังสหรัฐยืนยันว่าจะไม่พยุงกิจการเอสวีบีและซิกเนเจอร์ แบงก์ หลังจากถูกสั่งปิดกิจการ พร้อมระบุว่าประชาชนที่ฝากเงินไว้ที่ธนาคารทั้งสอง สามารถเข้าถึงเงินฝากได้เต็มจำนวน แต่กลุ่มผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้บางส่วนของเอสวีบีรวมถึงซิกเนเจอร์ แบงก์ จะไม่ได้รับการคุ้มครอง อีกทั้งยังจะมีการถอดฝ่ายบริหารระดับสูงของเอสวีบีออกทั้งหมด
นอกจากนั้น ประชาชนผู้เสียภาษีจะไม่ต้องแบกรับต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับโครงการคุ้มครองเงินฝาก
อินเดียเตรียมหารือสตาร์ทอัพ ผลกระทบธนาคารสหรัฐ
รัฐมนตรีกระทรวงอิเลกทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดีย เปิดเผยว่าจะหารือกับสตาร์ทอัพในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินผลกระทบจากการล่มสลายของเอสวีบี
รัฐมนตรีอินเดียระบุว่า สตาร์ทอัพมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ เขาจะพบกับบรรดาสตาร์ทอัพ
เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบ และวิธีที่รัฐบาลสามารถช่วยเหลือได้ในช่วงวิกฤต โดยอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดสตาร์ทอัพใหญ่สุดในโลก ด้วยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนต่างชาติ ที่ลงทุนในธุรกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีอื่นๆ
“มิเชล โหย่ว” นักแสดงหญิงเอเชียคนแรก คว้าออสการ์
มิเชล โหย่ว นักแสดงหญิงวัย 60 ปี สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะชาวเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลออสการ์ ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากบทบาทการแสดงในภาพยนตร์ไซไฟเรื่อง Everything Everywhere All At Once หรือในชื่อไทยว่า “ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส”
มิเชลล์ โหย่ว เป็นนักแสดงหญิงเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลนี้ในประวัติศาสตร์ 95 ปีของออสการ์ ทั้งยังเป็นชาวมาเลเซียคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อและคว้ารางวัลออสการ์มาครอง
มิเชลล์ โหย่ว กล่าวระหว่างขึ้นรับรางวัลว่า สิ่งนี้เป็นบทพิสูจน์ของการฝันให้ไกลและไปให้ถึง พร้อมฝากถึงสตรีทุกคนว่าอย่าไปฟังคำพูดของคนที่บอกว่าเราผ่านช่วงสูงสุดของชีวิตมาแล้ว โดยมิเชลล์ โหย่ว นับเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่มีอายุมากที่สุดที่ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์