ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จัดประชุมหารือสุดยอดผู้นำร่วมกับผู้นำออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับความพยายามในการกระชับความสัมพันธ์กับเหล่าประเทศพันธมิตร ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของประเทศจีนกำลังทวีความรุนแรง
ท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวายทางการทูต รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีประกาศว่านายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซึกะ จะเป็นผู้นำต่างชาติรายแรกที่จะเข้าพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นการส่วนตัว ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นายแอนโทนี บลิงเคน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายลอยด์ ออสติน มีแผนการเยือนประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้า ในขณะที่นายออสติน จะเดินทางต่อไปยังประเทศอินเดีย
การประชุมสุดยอดผู้นำของทั้งสี่ประเทศเกิดขึ้นเนื่องจากทั้งสี่ประเทศเล็งเห็นถึงความสัมพันธ์กับจีนที่ถดถอย ทั้งในกรณีความขัดแย้งกับกองกำลังทหารอินเดียในหิมาลัย กรณีการส่งกองกำลังของจีนลาดตระเวนรอบชายฝั่งของเกาะที่อยู่ภายใต้การดูแลของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการคว่ำบาตรสินค้าจากประเทศออสเตรเลียและกรณีพิพาทอื่น ๆ
สำหรับการหารือแนวทางเชิงกลยุทธ์กับประเทศพันธมิตรทั้งสามประเทศในครั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ชี้ว่าประเทศจีนถือเป็นความท้าทายอันดับสูงสุด และสหรัฐอเมริกาสามารถให้ความช่วยเหลือในการตอบโต้การรุกรานของประเทศจีนด้วยการสนับสนุนและคุ้มกันให้กับกลุ่มเครือข่ายพันธมิตร นายบลิงเคนกล่าวว่าจะมีการกดดันรัฐบาลจีนเกี่ยวกับกรณีการค้าและสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการตั้งข้อกำหนดเกี่ยวกับการเลือกตั้งในฮ่องกง และการกักกันตัวมุสลิมชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ ในขณะที่อีกสามประเทศพันธมิตรแสดงความสนใจในการหารือเกี่ยวกับการรับมือกับโรคโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก
หนังสือพิมพ์ Global Times ของประเทศจีนได้กล่าววิจารณ์การประชุมสุดยอดผู้นำของทั้งสี่ประเทศว่าเป็นแผนการของสหรัฐในการต่อต้านประเทศจีนโดยตรง พร้อมกับระบุว่าประเทศอินเดียซึ่งค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ทั้งที่ไม่ได้เป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญาใดๆ ไม่ควรเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว นอกจากนี้ยังระบุว่าประเทศพันธมิตรทั้งสี่ไม่ได้มีความคิดเห็นที่ตรงกันตามที่สหรัฐฯ กล่าวอ้าง แต่อีกสามประเทศมีความลำบากใจเนื่องจากถูกกดดันจากสหรัฐฯ และกังวลเกี่ยวกับผลประโยชน์ในประเทศจีน
อ่าน : ดาวโจนส์บวก 188.57 จุด ตอบรับ ‘ไบเดน’ ลงนามกระตุ้นเศรษฐกิจ