บริษัท Walmart ผนึกกำลังกับบริษัท Ribbit Capital หนึ่งในธุรกิจสนับสนุนการลงทุนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินอย่าง Robinhood ของสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างบริษัทฟินเทคสตาร์ทอัพน้องใหม่ แต่ยังไม่ได้มีการประกาศชื่อบริษัทออกมาอย่างเป็นทางการ และยังไม่มีกำหนดการเปิดให้บริการแต่อย่างใด
บริษัท Walmart ระบุว่าบริษัทฟินเทคสตาร์ทอัพน้องใหม่ดังกล่าวจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีจุดเด่นและมีราคาย่อมเยาสำหรับพนักงานของ Walmart เอง และลูกค้าทั่วไป โดยบริษัท Walmart จะถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทฟินเทคสตาร์ทอัพนี้ และจะมีผู้บริหารระดับสูงหลายรายเข้าดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในบริษัทด้วย เช่น นายเบรตต์ บิ๊กส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และนายจอห์น เฟอร์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Walmart นอกจากนี้บริษัทยังจะเชิญผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการเงินมาเข้าร่วมดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท และบริษัทอาจควบรวมกิจการหรือร่วมทุนกับบริษัทฟินเทคอื่นๆ ด้วย
นายเฟอร์เนอร์ ได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ลูกค้านับล้านรายต่างให้ความไว้วางใจในการจับจ่ายที่ประหยัดกว่ากับ Walmart และยังไว้วางใจและต้องการให้ Walmart ดูแลและจัดการความต้องการทางด้านการเงินของพวกเขาด้วย บริษัท Walmart มีหน้าร้านกว่า 4,700 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา และต้องดูแลลูกค้านับล้านรายในแต่ละปี ในขณะที่ลูกค้าส่วนหนึ่งที่ไม่มีความสัมพันธ์กับธนาคารและไม่มีที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัว
ข้อมูลจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันจำนวน 6% ไม่มีบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวัน ออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากลักษณะอื่นๆ ที่มีในท้องตลาด และอีก 16% ไม่ได้ใช้งานบัญชีธนาคารอย่างเต็มศักยภาพที่มี บางส่วนยังคงนิยมใช้บริการทางการเงินอื่นๆ เช่น ธนาณัติสั่งจ่าย และบางส่วนนิยมใช้วิธีแก้ปัญหาทางการเงินระยะสั้น เช่น การพึ่งพาโรงรับจำนำ สินเชื่อบุคคลเพย์เดย์ ซึ่งเป็นวิธีที่มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและดอกเบี้ยสูง
ก่อนหน้านี้ Walmart ได้นำเสนอบริการทางการเงินบางประเภทให้แก่ลูกค้า เช่น Walmart MoneyCard ซึ่งเป็นบัตรเดบิตที่ลูกค้าสามารถเติมเงินเพื่อใช้ซื้อสินค้า และบัตรเดบิตนี้ยังมีข้อกำหนดที่ช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการด้านการเงินได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ Walmart ยังมีบริการผ่อนชำระสินค้าสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์อีกด้วย
บริษัท Ribbit Capital ผู้ร่วมลงทุนกับ Walmart ในการก่อตั้งบริษัทฟินเทคสตาร์ทอัพในครั้งนี้มีประสบการณ์การลงทุนในบริษัทฟินเทคหลายแห่ง เช่น บริษัท Affirm บริษัท Robinhood และบริษัท Credit Karma ผู้ให้บริการทางการเงินและบริการตรวจสอบคะแนนเครดิตหรือความน่าเชื่อทางการเงิน เป็นต้น