ไทยคว้าอันดับ 9 ประเทศเปิดกว้างสำหรับทำธุรกิจมากสุด
ไทยติดอันดับ 9 จากทั้งหมด 87 ประเทศในรายชื่อประเทศที่เปิดกว้างสำหรับการทำธุรกิจมากที่สุดประจำปี 2566 จากยูเอส นิวส์ แอนด์ เวิลด์ รีพอร์ต โดยการจัดอันดับประเทศที่เปิดกว้างสำหรับการทำธุรกิจนี้ อิงตามคะแนนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่เท่าเทียมกันจากปัจจัย 5 ประการ เพื่อประเมินว่าแต่ละประเทศเป็นมิตรต่อธุรกิจมากเพียงใด ได้แก่ ระบบราชการ ต้นทุนการผลิตต่ำ การทุจริต สิ่งแวดล้อมทางภาษีที่เอื้ออำนวย และระเบียบปฏิบัติที่โปร่งใสของรัฐบาล
ทั้งนี้ ประเทศที่เปิดกว้างสำหรับธุรกิจมากที่สุด คือสวิตเซอร์แลนด์ ตามมาด้วยลักเซมเบิร์ก ฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก สิงคโปร์ ปานามา ไทย และนิวซีแลนด์
ส่วนประเทศที่เปิดกว้างสำหรับธุรกิจน้อยที่สุดในโลกคือ รัสเซีย ตามมาด้วยอิหร่านและเบลารุส
บริษัทใหญ่ทั่วโลกเล็งอัดฉีดงบความปลอดภัย หวั่นฉ้อโกงเพิ่ม
อัลลายด์ ยูนิเวอร์แซล บริษัทรักษาความปลอดภัยรายใหญ่ของสหรัฐ เผยแพร่ผลสำรวจการรักษาความปลอดภัยโลก ว่าเกือบครึ่งหนึ่งของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก คาดว่าจะเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยอย่างมากในปีหน้า เนื่องจากเล็งเห็นว่าจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบทางเศรษฐกิจและสังคม ก่อให้เกิดการโจรกรรม การฉ้อโกง และการรั่วไหลของข้อมูลละเอียดอ่อนมากขึ้น
การสำรวจครั้งนี้ เป็นการสำรวจผู้บริหารที่ดูแลงบประมาณด้านความปลอดภัย 1,775 คน ใน 30 ประเทศ ผลสำรวจพบว่าบริษัทเหล่านี้สูญเสียรายได้รวมกันมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2565 จากเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ โดยสูญเสียสินค้าระดับไฮเอนด์และสูญเสียทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งจากพนักงานภายในและจากปัจจัยภายนอก โดยบริษัทในอเมริกาเหนือได้รับผลกระทบอย่างหนัก
เจ้าหนี้”คันทรีการ์เดน”ขยายเวลาชำระหุ้นกู้ 3 ปี
แหล่งข่าวเผยว่า บริษัทคันทรีการ์เดน ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีน ได้รับการอนุมัติจากบรรดาเจ้าหนี้ให้ขยายเวลาชำระหนี้หุ้นกู้ในประเทศไปอีก 3 ปี นับเป็นการต่อลมหายใจให้แก่ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
เจ้าหนี้ในประเทศลงคะแนนเสียงสำหรับข้อเสนอจากคันทรีการ์เดน ที่ขอยืดเวลาชำระหนี้สำหรับหุ้นกู้ 6 ตัว มูลค่า 10,800 ล้านหยวนออกไปอีก 3 ปี ส่วนหุ้นกู้อีก 2 ตัวนั้นเจ้าหนี้ได้ชะลอการออกเสียงออกไปก่อน
คันทรีการ์เดน เป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ไม่กี่แห่งของจีน ที่ไม่ได้ผิดนัดชำระหนี้ แต่เผชิญแรงกดดันด้านสภาพคล่อง ผลจากเงินทุนลดน้อยลง เพราะยอดขายทรุดตัว รายงานทางการเงินระบุว่าบริษัทมีหนี้สิน 108,700 ล้านหยวนที่ถึงกำหนดชำระภายใน 12 เดือน ขณะที่มีเงินสดอยู่ประมาณ 101,100 ล้านหยวนนับถึงสิ้นเดือนมิ.ย.
มาร์เก็ตแคป”เทสลา”จ่อพุ่ง รับแผนพัฒนาซูเปอร์คอมฯ
นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มมุมมองความน่าลงทุนของหุ้นเทสลาขึ้นสู่ระดับ “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” จากเดิมที่ให้ “คงน้ำหนักการลงทุน” โดยเชื่อว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์โดโจที่เทสลาพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ฝึกฝนโมเดลปัญญาประดิษฐ์สำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติ จะทำให้เทสลามีข้อได้เปรียบคู่แข่งรายอื่น และจะช่วยหนุนมูลค่าตลาดของเทสลาเพิ่มขึ้นเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 76%
ข่าวดังกล่าวช่วยให้ราคาหุ้นเทสลาปิดตลาดทะยานขึ้นกว่า 10% เมื่อวันจันทร์ (11 ก.ย.) และมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 8.57 แสนล้านดอลลาร์
เทสลาเริ่มผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์โดโจเมื่อเดือนก.ค. และมีแผนเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ดังกล่าวกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ไปจนถึงปีหน้า
อินเดีย–ซาอุฯเผยเส้นทาง”สายเครื่องเทศ”ใหม่
อินเดียยินดีกับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับซาอุดีอาระเบีย หลังจากเปิดเผยเส้นทางคมนาคมสายสำคัญ เชื่อมโยงยุโรป ตะวันออกกลาง และอินเดีย อันเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรในวงกว้าง โดยนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแห่งอินเดีย ระบุว่าการจัดตั้งระเบียงเศรษฐกิจครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นครั้งประวัติศาสตร์
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯอินเดียและผู้ปกครองซาอุฯ พร้อมกับบรรดาผู้นำกลุ่มจี 20 ได้เผยแผนจัดทำเส้นทาง ”สายเครื่องเทศ” สมัยใหม่ เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้า ทั้งยังมีนัยยะทางภูมิรัฐศาสตร์ด้วย โมดีระบุว่าเส้นทางดังกล่าวไม่เพียงเชื่อม 2 ประเทศ แต่ยังนำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเชื่อมโยงทางดิจิทัลระหว่างเอเชีย เอเชียตะวันตก และยุโรป
ทั้งนี้ อินเดีย ซาอุฯ รวมถึงสหรัฐ สหภาพยุโรป สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่น ได้ริเริ่มเส้นทาง”สายเครื่องเทศ” สมัยใหม่ เพื่อเชื่อมโยงทางรถไฟ ท่าเรือ ไฟฟ้า เครือข่ายข้อมูล และท่อส่งไฮโดรเจน