International Property Rights Index ชี้จีนติดอันดับที่ 52 จาก 125 ประเทศในดัชนีทรัพย์สินทางปัญญาโลกปี 2018 ไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2017 แต่สูงกว่าปี 2016 ซึ่งอยู่ที่อันดับ 55
ประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของสงครามการค้า แต่ล่าสุดในปี 2018 จีนต้องจ่ายเงินเป็นค่าทรัพย์สินทางปัญญาสูงกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ และในจำนวนนี้เกือบ 30,000 ล้านดอลลาร์เป็นการจ่ายค่าสิทธิบัตรให้กับสหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ ของจีนต้องจ่ายเงินให้กับการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาจากต่างประเทศเริ่มตั้งแต่ปี 2000 จำนวน 1,300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่ในยุคดอทคอมที่เฟื่องฟูในสหรัฐ แต่ก็ต้องประสบกับวัฏจักรฟองสบู่แตกในช่วงเวลาไม่กี่ปีต่อมา จนถึงปัจจุบันจีนมีค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้นเกือบ 30 เท่าตัว
สำหรับสถิติการใช้จ่ายเงินของจีนในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ นับตั้งแต่ปี 2000-2018 ที่ให้กับต่างชาติ หรือ Foreign intellectual property นั้น ในปี 2000 เป็นจำนวน 1,300 ล้านดอลลาร์
ต่อมาในปี 2007 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจซับไพรม์ ซึ่งเป็นธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐเกิดฟองสบู่แตก ยังคงส่งผลให้จีนต้องมีการใช้จ่ายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจำนวน 8,200 ล้านดอลลาร์ โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวยังคงมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่ในปี 2008 เป็นช่วงที่สหรัฐเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินสหรัฐ เนื่องจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส ทำให้การใช้จ่ายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 10,300 ล้านดอลลาร์ โดยพุ่งขึ้นเป็น 11,100 ล้านดอลลาร์ในปี 2009 และปี 2010 จำนวน 13,000 ล้านดอลลาร์
รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในสมัย 5 ปีแรก โดยที่ในปี 2010 ได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อให้เกิดการปฏิรูปภาคธุรกิจของจีนที่นำไปสู่ยุคที่เรียกว่า Maid In China 2025
ทางการจีนหวังเป็นยุทธศาสตร์ในการผงาดสู่การแข่งขันอย่างสมบูรณ์แบบในตลาดโลก รวมทั้งลดภาระการใช้จ่ายทางด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้กับต่างชาติในอนาคต
นับจากปี 2011 ยังคงพบว่าจีนมีการใช้จ่ายทางด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้กับต่างชาติจำนวน 14,700 ล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอย่างต่อเนื่องในปี 2012 จำนวน 17,700 ล้านดอลลาร์ ปี 2013 จำนวน 21,000 ล้านดอลลาร์ ปี 2014 จำนวน 22,600 ล้านดอลลาร์ ปี 2015 จำนวน 22,000 ล้านดอลลาร์ ปี 2016 จำนวน 24,000 ล้านดอลลาร์
ในปี 2017 ค่าใช้จ่ายทางด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้กับต่างชาติตกอยูในภาวะที่ก้าวกระโดดสูงถึง 28,700 ล้านดอลลาร์ และแตะระดับ 40,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2018
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า จีนจะต้องมีภาระในการใช้จ่ายทางด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้กับต่างชาติจำนวนมหาศาลแต่จีนยังมีฐานะทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สู่ระดับล่าสุดที่ 3.107 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ในจำนวนนี้เป็นการถือทองคำสำรองเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 95,450 ล้านดอลลาร์ในาวง9 เดือนแรกปีนี้ ขณะที่เงินหยวนมีการซื้อขายในตลาด Spot ที่ระดับ 7.1284 หยวนต่อดอลลาร์