เหตุประท้วงวุ่นวายที่ยืดเยื้อนาน 4 เดือนในฮ่องกง อาจทำให้เงินทุนมากถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ ไหลออกจากฮ่องกงไปสิงคโปร์
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์ประเมินว่า เงินฝาก 3,000-4,000 ล้านดอลลาร์ (90,000-120,000 ล้านบาท) ได้ไหลไปยังศูนย์กลางการเงินที่เป็นคู่แข่งของฮ่องกงนับถึงสิ้นเดือนส.ค.
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังนับว่าน้อยเมื่อเทียบกับเงินฝากในรูปของดอลลาร์ฮ่องกงและดอลลาร์สหรัฐที่มีอยู่ในฮ่องกง ซึ่งมีจำนวนถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ (45 ล้านล้านบาท) อันหมายความว่าระบบธนาคารของฮ่องกงยังมีสภาพคล่องและเงินตราต่างประเทศอยู่อย่างมากมายล้นเหลือ
ทั้งนี้ โกลด์แมนแซคส์ไม่ได้ระบุว่าการไหลของเงินออกจากฮ่องกง เป็นผลของการประท้วงโดยตรง
ขณะที่กรมการเงินสิงคโปร์เปิดเผยว่าเงินฝากในรูปสกุลเงินต่างประเทศของลูกค้าที่ไม่ใช่ภาคธนาคาร พุ่งขึ้น 52% สู่ระดับที่มากเป็นประวัติการณ์ 12,800 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อเดือนส.ค. เทียบกับ 8,400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนั้น เมื่อเดือนก.ค. เงินฝากสกุลเงินต่างประเทศในสิงคโปร์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ นอกจากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบแล้ว ยังมีคำถามว่าการประท้วงอาจทำให้เงินทุนไหลออกจากฮ่องกง และส่งผลเสียต่อชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศหรือไม่
แม้มีเหตุวุ่นวาย แต่ฮ่องกงยังเป็นเหมือนปากทางหรือประตูสำหรับนักลงทุนต่างชาติระยะยาว ในการถ่ายโอนเงินเข้าสู่จีน เพราะตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่าเงินทุนที่เข้ามาผ่านทางฮ่องกง มีสัดส่วน 70% ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้
ในส่วนของสิงคโปร์นั้น นอกจากเงินฝากพุ่งขึ้นแล้ว ยังได้ประโยชน์ เพราะคนจีนในแผ่นดินใหญ่เลือกที่จะไม่ไปฮ่องกงในช่วงวันหยุดยาววันชาติต้นเดือนต.ค. และไปสิงคโปร์แทน
นักท่องเที่ยวที่ลดลงกระทบต่อบรรดาร้านค้าปลีกในฮ่องกง ทำให้ยอดขายเดือนส.ค.ร่วงลงเป็นเดือนที่ 7 ติดกัน
สภาพการณ์ดังกล่าว ทำให้นายลี กาชิง มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดในฮ่องกง ประกาศให้เงิน 1,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือเกือบ 4,000 ล้านบาทแก่ธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงที่ยืดเยื้อ พร้อมแสดงความหวังว่าเงินก้อนนี้จะช่วยประคองบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ให้ฟันฝ่าไปได้ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก
เงินบริจาคของนายลี ถือเป็นการเพิ่มเติมจากมาตรการของทางการที่จัดสรรเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงเพื่อช่วยพยุงธุรกิจขนาดเล็ก
นายลีและบรรดามหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ เผชิญแรงกดดันจากจีน โดยกระบอกเสียงของทางการปักกิ่งวิจารณ์บรรดานักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่าเป็นตัวการทำให้ราคาที่อยู่อาศัยแพงขึ้น อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความวุ่นวายทางสังคมในฮ่องกง พร้อมเรียกร้องให้บรรดานักธุรกิจมอบที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนา ให้แก่ทางการ เพื่อสร้างที่อยู่ในราคาที่ซื้อหาได้ หวังบรรเทาความไม่พอใจของชาวฮ่องกง
หลังจากเสียงเรียกร้อง บริษัท New World Development กล่าวว่าจะบริจาคที่ดิน 3 ล้านตารางฟุตเพื่อให้ไปทำที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชน